อวิ๋นหลิงได้จัดการให้เสียนอ๋องพักฟื้นอยู่ในเรือนส่วนตัว เขาจะสามารถจากไปได้เมื่อไหร่ ต้องดูจากสภาพร่างกายของเขา
เทศกาลปีใหม่ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว ทั่วทั้งเมืองล้วนสามารถได้ยินเสียงของพลุและประทัด
ในโรงยาก็มีการติดกระดาษประดับหน้าต่างและอักษรมงคล หลี่เมิ่งเอ๋อร์นำเด็กในโรงยาและเหล่าลูกศิษย์ทำความสะอาดเรือนด้านข้างและลานบ้าน สาดน้ำอ้ายเฉ่าเพื่อปัดเป่าโรคภัย ต้อนรับวันสิ้นปีที่กำลังจะมาถึง
ตอนนี้หลี่เมิ่งเอ๋อร์ได้มีหน้าที่คล้ายกับผู้ดูแลไปแล้ว
ตั้งแต่การช่วยดูแลกิจการ การเติมสินค้า การตรวจสอบบัญชี บริการหลังการขาย ไปจนถึงการทำความสะอาดเรือนด้านหลังในทุกวัน รวมทั้งการแบ่งงานทั่วไปเป็นต้น นางล้วนมีส่วนร่วมด้วย
ตอนแรกคำนึงถึงว่าหลี่เมิ่งเอ๋อร์อายุยังน้อย ทั้งยังเป็นแม่มือใหม่ อวิ๋นหลิงได้แต่แบ่งงานประเภทผู้รับจ่ายในคลังสินค้าให้กับนางเท่านั้น
ตอนนี้นางได้เข้ามาทำงานของผู้ดูแลด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งผู้ดูแล ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ใช้ตอบแทนอวิ๋นหลิงที่คอยคุ้มครองนาง
เพราะคนของตระกูลจางคอยจ้องตาเป็นมันอยู่ตลอด ถ้าหากไปจากโรงยา ไม่ว่าที่ไหนสำหรับนางแล้วล้วนไม่ปลอดภัย
อวิ๋นหลิงรู้ว่าอย่างน้อยนางก็เป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรีอยู่บ้าง จึงไม่ได้เอ่ยปากทำนองว่าจะขึ้นเงินเดือนให้นางแต่อย่างใด
บ่าวรับใช้ที่รู้ใจข้างกายนางมีไม่มาก ตัวนางเองก็มีงานในราชสำนักรัดตัว ตั้งแต่น้องสือจิ่วกลับแคว้นตงฉู่ไปแล้ว ทางด้านโรงยาโหยวเจียนก็ไร้กำลังสำคัญ ความก้าวหน้าก็เฉื่อยชาลง
แม้ว่าอู๋อันกงจะส่งลูกศิษย์จากโรงเรียนแพทย์ต่างๆมาฝึกงานอยู่ตลอด สองสามีภรรยาหลงเย่ก็คอยช่วยพัฒนากิจการของโรงยา แต่ก็ขาดผู้บังคับบัญชาดูแลงานทั้งหมดของโรงยา อย่างไรเสียก็เหมือนขาดอะไรไปอยู่ดี
แต่ไม่ว่าอย่างไรอวิ๋นหลิงก็คิดไม่ถึง สุดท้ายจะเป็นหลี่เมิ่งเอ๋อร์ที่เข้ามาเติมเต็มตำแหน่งว่างนี้ ได้แต่อุทานในใจว่าสิ่งต่างๆยากจะคาดเดา
ต้องบอกว่า ไม่เสียแรงที่หลี่เมิ่งเอ๋อร์เคยเป็นลูกศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดของสำนักศึกษาเป่ยลู่ มีผลการเรียนน่าเชื่อถือ พี่น้องในบ้านทั้งสามคนล้วนเป็นคนเรียนเก่ง
ตอนนี้นางไม่ได้เป็นเด็กหัวรุนแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว การทำงานหลังจากเติบโตแล้วมีความคล้ายกับพี่ชายพี่สาวอยู่บ้าง
มอบโรงยาโหยวเจียนให้กับหลี่เมิ่งเอ๋อร์ อวิ๋นหลิงรู้สึกค่อนข้างวางใจ
……
วันที่สองหลังจากเสียนอ๋องฟื้นขึ้นมา อวิ๋นหลิงก็ให้คนนำข่าวไปบอกกับเสิ่นชิ่น
เกรงว่าอีกฝ่ายจะเตรียมตัวเผชิญหน้ากับเสียนอ๋องไม่ทัน ส่งผลให้ต้องตกอยู่ในความสับสนกินนอนไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้บอกนางในทันที
เป็นอย่างที่คาด หลังจากที่เสิ่นชิ่นรู้ข่าว ก็ไม่ได้มาเยี่ยมไข้ที่โรงยาทันที
บางที นางยังต้องการเวลาอีกสักหน่อยในการครุ่นคิดว่าจะเผชิญหน้ากับเสียนอ๋องที่เปิดเผยตัวตนแท้จริงแล้วอย่างไรดี
เสียนอ๋องยังคงพักฟื้นอยู่ที่เรือนด้านข้าง มองท้องฟ้าด้วยความเงียบงันและเหม่อลอย พอมองก็เป็นเวลาทั้งวัน
ความคึกคักและบรรยากาศแห่งความยินดีภายนอก ยิ่งทำให้เขาดูโดดเดี่ยวและเงียบเหงามากขึ้น
แต่ในวันที่สามที่เขาพักรักษาตัวในโรงยา ก็มีคนจำนวนมากมาที่โรงยาอย่างคาดไม่ถึง
อวิ๋นหลิงมองรุ่ยอ๋องที่ไม่เจอกันนาน เอ่ยอย่างประหลาดใจว่า “เอ๋ ทำไมพวกท่านจึงมาพร้อมกัน”
คนที่มาคือรุ่ยอ๋อง เยี่ยนอ๋อง อ๋องโม่และพระโอรสหก นอกจากเซียวปี้เฉิงที่ยังยุ่งอยู่กับเรื่องของตระกูลยิน วันนี้พวกพี่น้องต่างก็มาพร้อมหน้าแล้ว
เสียนอ๋องที่อยู่ข้างหน้าต่างค่อยๆได้สติกลับมา สายตามีแววประหลาดใจวาบผ่าน
เห็นเสียนอ๋องตอบรับแล้ว พวกเยี่ยนอ๋องที่อยู่ข้างหลังต่างก็สบตากัน ล้วนรู้สึกผ่อนคลายลง
เยี่ยนอ๋องรู้สึกโล่งใจเป็นคนแรก เอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “พวกเราก็เอาของมาฝากไม่น้อยเลย ให้คนเอาไปส่งที่ห้องครัวให้หมด ข้างในมีของแห้งจากแคว้นตงฉู่ ของเหล่านี้ล้วนหายากมาก คืนนี้ทุกคนมีลาภปากแล้ว”
อ๋องโม่ก็เดินเข้ามาในห้อง วางไหเหล้าใบหนึ่งเอาไว้บนโต๊ะ เอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใสว่า “นี่เป็นเหล้าสมุนไพรที่อู๋อันกงหมักขึ้นมาเป็นพิเศษ ไม่ถือว่าแรงมาก พี่รองถูกความเย็นเข้าสู่ร่างกายดื่มเหล้านี้ช่วยได้พอดี พวกเราพี่น้องก็ไม่ได้รวมตัวกันนานแล้ว รอคืนนี้พี่สามเสร็จจากงานราชสำนัก ตั้งโต๊ะกินข้าวดื่มเหล้า คุยเรื่องเก่าๆกัน”
สายตาของเสียนอ๋องกวาดมองไปยังเหล้าสมุนไพรไหนั้นอย่างเงียบๆ
อู๋อันกงเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ได้นิสัยดีเหมือนพวกพี่น้องรุ่ยอ๋อง ยังคงรู้สึกไม่พอใจเรื่องที่เขาสมคบคิดกับชาวทูเจวียบีบให้จักรพรรดิสละบัลลังก์เสมอมา
อ๋องโม่ไปขอเหล้าสมุนไพรให้เขา ย่อมต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นานแน่ๆ
รอให้พวกพี่ชายสามสารทุกข์สุกดิบเรียบร้อยแล้ว พระโอรสหกอุ้มห่อผ้าห่อหนึ่งเดินตรงไปตรงหน้าเสียนอ๋องเป็นคนสุดท้าย
“พี่รอง ข้างในนี้เป็นชุดใหม่ที่เสด็จแม่ของข้าทำขึ้นมา ยังมีรองเท้าถุงเท้าอีกหนึ่งคู่ เมื่อคืนนางได้ปรับแก้ตามรูปร่างของท่าน ท่านลองดูว่าพอดีหรือไม่ เสด็จแม่บอกว่าถ้าหากไม่พอดี ให้รีบนำกลับไปให้นางแก้ไข อย่างนี้จะได้ทันใส่ในวันปีใหม่”
เปิดห่อผ้าออก ชุดเสื้อผ้าและรองเท้าสีน้ำเงินก็ปรากฏต่อหน้า ชายเสื้อและปลายแขนเสื้อปักลายภูเขาสายน้ำและนก ราวกับม้วนภาพวาดหมึก
สายตาของเสียนอ๋องมองไปที่ชุดใหม่ หลุบตาลงขนตาสั่นระริก
ชาตินี้เขายังไม่เคยสวมใส่เสื้อผ้าที่แม่ทำให้กับมือมาก่อน จี้ซูเฟยที่เป็นผู้หญิงเย็นชาราวกับเทพธิดา ยิ่งไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเอง ปกติจะไม่ทำอะไรพวกนี้
มีเพียงเสิ่นชิ่นเท่านั้นที่ยุ่งจนไม่มีเวลาว่าง แต่ก็ยังแอบหาเวลา ตัดเย็บเสื้อผ้าใหม่ของทั้งสี่ฤดูให้เขากับมือ
อวิ๋นหลิงได้ยินบทสนทนาของพี่น้อง อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เห็นพี่พวกท่านพี่น้องคงปรึกษากันเรียบร้อยแล้ว จะมาทานมื้อส่งท้ายปีล่วงหน้าที่นี่ใช่หรือไม่”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...