เยี่ยนอ๋องยิ้มสดใสพลางพูดว่า “ใช่แล้ว เสด็จปู่บอกว่ารอให้เสวี่ยถวนกับฮั่วถวนนอนหลับแล้ว เขาก็จะมาด้วย”
ตาแก่น้อยเคยผ่านเรื่องราวอันชินอ๋อง บวกกับอายุมากแล้ว ในใจก็ยิ่งให้ความสำคัญกับความรักในครอบครัว
ได้รับรู้สถานการณ์ของเสียนอ๋อง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมาดู
หลานชายคนนี้ถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้ว ไม่สามารถฉลองวันสิ้นปีกับทุกคนในวังได้ อาศัยโอกาสนี้รวมตัวกินข้าวด้วยกัน ถือว่าพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว
เสียนอ๋องได้ยินถึงตรงนี้ เอ่ยอย่างนิ่งอึ้งว่า “เสด็จปู่ก็จะมาหรือ”
“ใช่แล้ว เสด็จปู่บอกว่าคืนนี้พวกเรากินหม้อไฟเพื่อความคึกคัก ตื่นมาแต่เช้าเพื่อไปขุดผักในโรงปลูกผักที่เขารักมาก”
การปลูกผักในโรงเรือนอวิ๋นหลิงเป็นคนสอน ในฤดูหนาวอยากจะกินผักสดนั้นไม่ง่าย ตาแก่น้อยแม้แต่หมูก็ไม่มีความสนใจจะเลี้ยงแล้ว วันๆเอาแต่ทำแปลงปลูกผัก
ไม่มีอะไรทำยังจะไปแข่งขันกับเหล่าสนมของจักรพรรดิจาวเหริน หรือไม่ก็แลกเปลี่ยนความรู้ในการปลูกผัก
หลังจากผ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงวันครบรอบสำนักศึกษา ความสัมพันธ์ระหว่างบรรดาเมียน้อยของจักรพรรดิจาวเหรินกับพระเจ้าหลวงก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว พระเจ้าหลวงรับปากเองว่า ในฤดูใบไม้ผลิปีหน้าหลังจากที่โรงเรียนอนุบาลหลวงเปิดทำการแล้ว จะอนุญาตให้พวกนางไปช่วยดูแลเด็กๆ อีกทั้งยังให้หยุดอาทิตย์ละสองวัน รับเงินเดือนปกติ
เสียนอ๋องได้ยินถึงตรงนี้ ก็ไม่รู้จะบรรยายและแสดงอารมณ์ที่อยู่ในใจออกมาอย่างไร
ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้น น้ำเสียงแหบแห้งกว่าปกติ “......ดี แต่ต้องระวังอย่าถูกติดอาการป่วยจากข้า”
ถ้าหากไม่ใช่เพราะเสียนอ๋องเป็นหวัดจนน้ำเสียงแหบแห้ง อวิ๋นหลิงยังคิดว่าเขาจะร้องไห้แล้ว
เยี่ยนอ๋องเผยรอยยิ้มกว้างอย่างไม่สนใจ “พวกเราอยู่ที่โรงยาโหยวเจียนนะ อีกอย่างพี่สะใภ้สามก็อยู่ที่นี่ จะกลัวอะไร”
คนที่ก้าวเท้าไปในปรโลกข้างหนึ่งแล้วยังสามารถดึงกลับมาได้ ยังจะกลัวการเป็นหวัดอีกหรือ
อวิ๋นหลิงยิ้มพลางล้อเขาว่า “ประจบได้ไม่เลว คืนนี้ให้รางวัลเจ้าเป็นน่องไก่”
ระหว่างที่พูด สายตาก็เหลือบไปสอดส่องความเคลื่อนไหวที่ลานด้านนอก
ทั้งคนแก่ทั้งคนหนุ่มต่างก็จะมาที่โรงยา นางไม่เชื่อว่าจักรพรรดิจาวเหรินจะไม่มีการเคลื่อนไหว
เป็นดั่งที่คาด มุมหนึ่งหลังประตูใหญ่ของลานบ้านมีชายเสื้อแกว่งไปมา ราวกับมีเงาร่างลับๆล่อๆซ่อนอยู่ตรงนั้น
อวิ๋นหลิงแอบยิ้มในใจ ลุกขึ้นพูดว่า “พวกเจ้าพี่น้องค่อยๆคุยกันไปก่อน ข้าจะไปสั่งให้ห้องครัวเตรียมอาหารของคืนนี้”
ว่าแล้วก็ออกไปจากเรือนด้านข้าง เดินไปยังระเบียงที่มุ่งสู่นอกลานบ้านอย่างเงียบๆ
บนพื้นหิมะ จักรพรรดิจาวเหรินสวมชุดลำลอง เอามือไขว้หลังก้มหน้าเดินวนไปมา ขมวดคิ้วถอนหายใจและมีสีหน้ากังวล
“เสด็จพ่อ”
จักรพรรดิถูกเสียงเรียกสดใสทำเอาตกใจจนสะดุ้งโหยง รีบเปลี่ยนสีหน้าเอานิ้วมาวางไว้บนริมฝีปาก กดเสียงลงต่ำและเบาที่สุด
“ชู่ อย่าเรียกเสียงดัง เจ้านี่มันจริงๆเลย เดินราวกับเป็นผีไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย”
อวิ๋นหลิงเอ่ยอย่างรู้สึกขัน “ข้าจะเดินไม่มีเสียงได้อย่างไร พระองค์ต่างหากที่ทำตัวลับๆล่อๆ จึงถูกข้าที่เป็นคนเป็นๆทำให้ตกใจเช่นนี้”
จักรพรรดิจาวเหรินมุมปากกระตุก เอ่ยถามนางเสียงต่ำว่า “ฉางซวี่อาการเป็นอย่างไรบ้าง”
“พระองค์ก็มาถึงที่นี่แล้ว เข้าไปดูก็จะรู้เอง”
“......ถ้าหากฉางซวี่เจอข้า แม้อาการจะดีแล้วก็คงแย่ลง”
“แล้วทรงมาที่นี่ทำไม รอให้งานเลี้ยงเริ่มแล้วค่อยไปกินข้าวด้วยกันอย่างนั้นหรือ”
จักรพรรดิจาวเหรินลังเลอยู่ชั่วครู่ ส่ายหน้าพลางพูดว่า “ไม่ล่ะ ให้พระเจ้าหลวงรวมตัวกับพวกเขาก็พอ ถ้าหากข้าร่วมโต๊ะด้วย เกรงว่าเขาคงจะกินข้าวไม่ลง”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...
จะมีอัพต่อจนจบไหมค่ะแอด...
นึกว่าจะอัพจนจบเสียอีกค่ะ กำลังสนุกเข้มข้นเชียว...
รบกวนแอดช่วยอับต่อไปให้จบเรื่องได้ไหมคะ รออ่านอยู่น้า...
ตอนต่อไปอ่านที่ไหนคะ...
ตอนต่อไป อัพช่วงไหนคะ 😭😭😭...
อัพต่อเถอะนะคะ...กำลังสนุกเลยค่ะ😅😄😊😘...
สนุกมากค่ะ..เดินเรื่องเร็ว..พระเอกไม่โง่..นางเอกฟาดแรงสะใจ...อ่านแล้วบันเทิงมาก55555......