เสียนอ๋องไม่กล้าคาดหวังว่าเสิ่นชิ่นจะรักเขาในทันทีทันใด
แต่ชีวิตนั้นยาวนานนัก เขายังมีเวลาอีกมาก และความอดทนไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อเพียรพยายามให้นางรักเขาอีกครั้ง
เสิ่นชิ่นอดร้องไห้ด้วยเสียงแผ่วเบาไม่ได้ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ท่ามกลางสายตาจ้องมองของเสียนอ๋อง นางก็ค่อยๆ ยื่นมือออกมารับผ้าเช็ดหน้า
นางสะอื้นไห้พลางกระซิบเบาๆ “เจ้าค่ะ”
เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของนาง ยามนี้เสียนอ๋องก็ได้ยินเสียงบุปผาในวสันตฤดูผลิบานสะพรั่งอย่างเคลิบเคลิ้ม
ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มลุ่มลึก ราวกับสามจิตเจ็ดวิญญาณเต็มไปด้วยความอ่อนโยนของนาง
“อาชิ่น ขอบคุณที่เจ้าให้โอกาสข้าอีกครั้ง”
คราวนี้เขาจะอุทิศทั้งชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อคว้ามันไว้ และจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปอีก
ใต้มุมกำแพงไกลโพ้น พวกอวิ๋นหลิงกำลังซ่อนตัวเฝ้าดูและแอบฟังอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ
ครั้นเห็นทั้งสองก้าวฝีเท้าเข้าหากัน ใบหน้าเซียวปี้เฉิงก็อดเผยความสุขใจไม่ได้
“ยังคงเป็นหลิงเอ๋อร์ที่มีทางออกดีที่สุด ตอนนี้ทุกคนก็สบายใจได้ ไว้นั่วเอ๋อร์เห็นพ่อแม่ของนางอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีอุปสรรคในใจอีกครั้ง นางจะต้องดีใจมากเป็นแน่”
อวิ๋นหลิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มพรายว่า “ต่อไปเมื่อพวกเขาจัดงานเลี้ยงแต่งงาน พวกเราจะต้องได้ที่นั่งชั้นหนึ่ง”
ในความเห็นของนาง แม้ว่าเสิ่นชิ่นจะงุนงงและไม่คุ้นเคยกับคนที่นางรัก แต่ในที่สุดก็ยังคงเป็นจิตวิญญาณเดิม ช้าเร็วก็ต้องรักเสียนอ๋องอีกครั้ง
ที่เหลือแค่ปล่อยให้เป็นไปตามเวลาก็พอ
ไม่นานนัก เสียนอ๋องและเสิ่นชิ่นก็เดินไปยังลานข้างๆ เพื่อขอบคุณเสวียนจีที่ช่วยชีวิตโดยก้มโค้งคำนับสามครั้งอย่างเคร่งขรึม
เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ เสวียนจีก็ทำตัวสงบเสงี่ยมและตกประหม่าอย่างหาได้ยากนัก “โอ้โฮ ไม่เป็นไรเลย แค่เรื่องเล็กน้อย การช่วยชีวิตหนึ่งชีวิตย่อมดีกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น!”
นางสีหน้าท่าทางจริงจัง แต่ในใจแทบจะโผล่หางที่มีความสุขออกมา
ไม่มีเด็กซุกซนคนใดสามารถทนต่อคำชมเช่นนี้ได้ อย่างไรเสียนางก็มักจะก่อเรื่องอยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่โตมา ยามปกติจะถูกทุบตีและดุด่าเกือบตลอดเวลา
เมื่อส่งเสียนอ๋องและเสิ่นชิ่นกลับไป นางยังไม่ลืมโบกมือกำชับว่า “พวกท่านคู่สามีภรรยาต้องใช้ชีวิตให้มีความสุขนะ เช่นนี้ทุกคนก็จะไม่ผิดหวัง ขอเพียงทั้งสองจิตใจมั่นคงอยู่ด้วยกันก็จะผ่านพ้นปัญหาทุกอย่างไปได้ หากเข้าใจผิดกันก็ให้รีบอธิบายให้กระจ่างชัดก็พอ!”
เฟิ่งเหมียนเห็นนางแสร้งทำทีเป็นผู้ใหญ่ก็อดรู้สึกนึกขำเล็กน้อยไม่ได้ แต่พอได้เห็นวีรกรรมความรักของเสียนอ๋องและภรรยาด้วยตาของเขาเอง ความรู้สึกในใจเขาก็แปรเปลี่ยนไปมาก ที่แท้คำว่ารักช่างทรมานจิตใจผู้คนถึงเพียงนี้
การต่อสู้ที่จวนอ๋องจินในตอนนั้นคล้ายกับฉากเมื่อไม่กี่วันก่อนยิ่งนัก
เวลานั้นเสียนอ๋องได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีวิตตกอยู่ในอันตราย เสิ่นชิ่นก็อกสั่นขวัญแขวนจนทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
ทว่าเวลานั้นอารมณ์ของเฟิ่งเหมียนไม่ได้แปรปรวนมากนัก เขาไม่สนใจเรื่องของคนอื่นด้วยซ้ำ และไม่เข้าใจความเจ็บปวดรวดร้าวของสองคนนี้
แต่คราวนี้เขามีอารมณ์ท่วมท้นอยู่ในใจ
นั่นเป็นอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูก เฟิ่งเหมียนเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร เขาแค่รู้สึกว่าเขาดูเหมือนจะสามารถเข้าใจปมในใจของเสิ่นชิ่นได้ และก็รู้สึกโล่งใจอยู่บ้างในฐานะคนนอกที่เห็นทั้งสองได้คืนดีกัน
มองออกไปข้างนอก เฟิ่งเหมียนก็พูดด้วยเสียงเข้ม “เขาจ่ายราคามหาศาลที่เคยหลอกลวงไป”
เสวียนจีพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่รู้ตัว “ใช่แล้ว ต้นร้ายปลายดีความสุขก็มาเยือนเสียที...”
“ดังนั้นการโกหกจึงเป็นเรื่องผิด เจ้าเคยโกหกข้ามาครั้งหนึ่ง ข้ายกโทษให้เจ้า ต่อไปเจ้าจะโกหกข้าเป็นครั้งที่สองไม่ได้อีก ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่คุยด้วยง่ายๆ เหมือนเสิ่นชิ่น”
……
เมื่อกลับถึงวัง เซียวปี้เฉิงก็เล่าผลลัพธ์สุดท้ายของเรื่องราวที่ไปจัดการตระกูลยินให้อวิ๋นหลิงฟังโดยละเอียด
“ในช่วงห้าวันที่เจ้าอยู่ในโรงยา กรมอาญาได้พิพากษาบรรดาตระกูลยินถึงที่สุด อาลักษณ์ยิน ยินถังและพ่อของเขารวมสามคนถูกตัดสินประหารชีวิตในเรือนจำ หนังสือพิมพ์ทางการก็จะเผยแพร่รายงานเรื่องนี้ในเวลาต่อไป”
“สมาชิกในตระกูลยินที่เหลือถูกศาลต้าหลี่สอบสวนและสอบปากคำเป็นเวลาหลายวันหลายคืน ในที่สุดก็ตัดสินใจจัดทำรายชื่อสามบัญชี”
ระหว่างพูด เซียวปี้เฉิงยื่นรายชื่อให้กับอวิ๋นหลิง นางก็ตรวจดูอย่างละเอียด
มีสามบัญชี บัญชีสีขาวหนึ่งชุด บัญชีสีแดงหนึ่งชุด และบัญชีสีดำหนึ่งชุด
“คนที่อยู่ในบัญชีดำจะถูกเนรเทศไปต้อนฝูงสัตว์นอกด่านทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในฤดูใบไม้ผลิหลังปีใหม่ ล้วนเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับคดีเลวร้าย เป็นทหารกำลังหลักที่เที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่อยู่เบื้องหลังตระกูลยิน ส่วนใหญ่เป็นทายาทสายตรง”
“แม้ว่าคนที่อยู่ในบัญชีแดงจะผิดศีลธรรม แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับความชั่วร้ายภายในตระกูลยิน หลังจากตัดสินโทษสุดท้ายแล้วก็ยังไม่ถึงตาย ศาลต้าหลี่จึงยึดหลักปฏิบัติตามกฎหมาย”
“บัญชีสีขาวสุดท้ายนี้ก็คือคนตระกูลยินที่ใจซื่อมือสะอาดมีเพียงไม่กี่คน เสด็จพ่อจะไม่ลงโทษพวกเขา ผู้ที่เดิมมีตำแหน่งขุนนาง หลังจากผ่านไปสักสองสามปีก็จะกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมได้ นอกจากนี้ยังมีบางคนที่มีความสามารถโดดเด่นและความประพฤติดีพร้อมก็จะสามารถกลับมารับราชการใหม่ได้”
อวิ๋นหลิงฟังแล้วพยักหน้า คนที่อยู่ในบัญชีขาวนี้เป็นลูกหลานนอกสมรสของตระกูลยินประมาณเก้าส่วน ดูเหมือนความแตกต่างระหว่างสายตรงกับลูกหลานนอกสมรสที่อยู่ภายในตระกูลจะมีมากทีเดียว
“นอกจากนี้ ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของจวนยินถูกยึดไปแล้ว” เซียวปี้เฉิงเล่าถึงตรงนี้ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นที่เจือความกรุ่นโกรธหลายส่วน “ถ้าไม่ลงไปตรวจก็จะไม่รู้จริงๆ พอตรวจสอบก็ตกใจสะดุ้งโหยง เงินทองที่พวกเขายักยอกไปตลอดหลายปีที่ผ่านมามีมูลค่าเกือบหนึ่งในสามของท้องพระคลังของประเทศเราเลยทีเดียว!”
อวิ๋นหลิงได้ยินเช่นนี้ก็ค่อนข้างประหลาดใจ “มีมากขนาดนั้นเลยหรือ”
ควรรู้ไว้ว่าแคว้นต้าโจวในปัจจุบันเทียบไม่ได้กับเมื่อสามปีที่แล้ว นับตั้งแต่เปิดเส้นทางการค้าสามฝ่าย ควบคู่ไปกับการค้าอาวุธ ทำให้มีเงินในท้องพระคลังไม่น้อย
หากพูดไปตามคำกล่าวนี้ ตระกูลยินจะไม่ร่ำรวยไปกว่าแคว้นต้าโจวก่อนหน้านี้ได้อย่างไร

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...