เข้าสู่ระบบผ่าน

พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ นิยาย บท 993

เสียนอ๋องไม่กล้าคาดหวังว่าเสิ่นชิ่นจะรักเขาในทันทีทันใด

แต่ชีวิตนั้นยาวนานนัก เขายังมีเวลาอีกมาก และความอดทนไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อเพียรพยายามให้นางรักเขาอีกครั้ง

เสิ่นชิ่นอดร้องไห้ด้วยเสียงแผ่วเบาไม่ได้ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ท่ามกลางสายตาจ้องมองของเสียนอ๋อง นางก็ค่อยๆ ยื่นมือออกมารับผ้าเช็ดหน้า

นางสะอื้นไห้พลางกระซิบเบาๆ “เจ้าค่ะ”

เมื่อคำพูดนี้ออกมาจากปากของนาง ยามนี้เสียนอ๋องก็ได้ยินเสียงบุปผาในวสันตฤดูผลิบานสะพรั่งอย่างเคลิบเคลิ้ม

ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มลุ่มลึก ราวกับสามจิตเจ็ดวิญญาณเต็มไปด้วยความอ่อนโยนของนาง

“อาชิ่น ขอบคุณที่เจ้าให้โอกาสข้าอีกครั้ง”

คราวนี้เขาจะอุทิศทั้งชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อคว้ามันไว้ และจะไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไปอีก

ใต้มุมกำแพงไกลโพ้น พวกอวิ๋นหลิงกำลังซ่อนตัวเฝ้าดูและแอบฟังอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ

ครั้นเห็นทั้งสองก้าวฝีเท้าเข้าหากัน ใบหน้าเซียวปี้เฉิงก็อดเผยความสุขใจไม่ได้

“ยังคงเป็นหลิงเอ๋อร์ที่มีทางออกดีที่สุด ตอนนี้ทุกคนก็สบายใจได้ ไว้นั่วเอ๋อร์เห็นพ่อแม่ของนางอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีอุปสรรคในใจอีกครั้ง นางจะต้องดีใจมากเป็นแน่”

อวิ๋นหลิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มพรายว่า “ต่อไปเมื่อพวกเขาจัดงานเลี้ยงแต่งงาน พวกเราจะต้องได้ที่นั่งชั้นหนึ่ง”

ในความเห็นของนาง แม้ว่าเสิ่นชิ่นจะงุนงงและไม่คุ้นเคยกับคนที่นางรัก แต่ในที่สุดก็ยังคงเป็นจิตวิญญาณเดิม ช้าเร็วก็ต้องรักเสียนอ๋องอีกครั้ง

ที่เหลือแค่ปล่อยให้เป็นไปตามเวลาก็พอ

ไม่นานนัก เสียนอ๋องและเสิ่นชิ่นก็เดินไปยังลานข้างๆ เพื่อขอบคุณเสวียนจีที่ช่วยชีวิตโดยก้มโค้งคำนับสามครั้งอย่างเคร่งขรึม

เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เช่นนี้ เสวียนจีก็ทำตัวสงบเสงี่ยมและตกประหม่าอย่างหาได้ยากนัก “โอ้โฮ ไม่เป็นไรเลย แค่เรื่องเล็กน้อย การช่วยชีวิตหนึ่งชีวิตย่อมดีกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั้น!”

นางสีหน้าท่าทางจริงจัง แต่ในใจแทบจะโผล่หางที่มีความสุขออกมา

ไม่มีเด็กซุกซนคนใดสามารถทนต่อคำชมเช่นนี้ได้ อย่างไรเสียนางก็มักจะก่อเรื่องอยู่บ่อยครั้งนับตั้งแต่โตมา ยามปกติจะถูกทุบตีและดุด่าเกือบตลอดเวลา

เมื่อส่งเสียนอ๋องและเสิ่นชิ่นกลับไป นางยังไม่ลืมโบกมือกำชับว่า “พวกท่านคู่สามีภรรยาต้องใช้ชีวิตให้มีความสุขนะ เช่นนี้ทุกคนก็จะไม่ผิดหวัง ขอเพียงทั้งสองจิตใจมั่นคงอยู่ด้วยกันก็จะผ่านพ้นปัญหาทุกอย่างไปได้ หากเข้าใจผิดกันก็ให้รีบอธิบายให้กระจ่างชัดก็พอ!”

เฟิ่งเหมียนเห็นนางแสร้งทำทีเป็นผู้ใหญ่ก็อดรู้สึกนึกขำเล็กน้อยไม่ได้ แต่พอได้เห็นวีรกรรมความรักของเสียนอ๋องและภรรยาด้วยตาของเขาเอง ความรู้สึกในใจเขาก็แปรเปลี่ยนไปมาก ที่แท้คำว่ารักช่างทรมานจิตใจผู้คนถึงเพียงนี้

การต่อสู้ที่จวนอ๋องจินในตอนนั้นคล้ายกับฉากเมื่อไม่กี่วันก่อนยิ่งนัก

เวลานั้นเสียนอ๋องได้รับบาดเจ็บสาหัส ชีวิตตกอยู่ในอันตราย เสิ่นชิ่นก็อกสั่นขวัญแขวนจนทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

ทว่าเวลานั้นอารมณ์ของเฟิ่งเหมียนไม่ได้แปรปรวนมากนัก เขาไม่สนใจเรื่องของคนอื่นด้วยซ้ำ และไม่เข้าใจความเจ็บปวดรวดร้าวของสองคนนี้

แต่คราวนี้เขามีอารมณ์ท่วมท้นอยู่ในใจ

นั่นเป็นอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูก เฟิ่งเหมียนเองก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร เขาแค่รู้สึกว่าเขาดูเหมือนจะสามารถเข้าใจปมในใจของเสิ่นชิ่นได้ และก็รู้สึกโล่งใจอยู่บ้างในฐานะคนนอกที่เห็นทั้งสองได้คืนดีกัน

มองออกไปข้างนอก เฟิ่งเหมียนก็พูดด้วยเสียงเข้ม “เขาจ่ายราคามหาศาลที่เคยหลอกลวงไป”

เสวียนจีพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่รู้ตัว “ใช่แล้ว ต้นร้ายปลายดีความสุขก็มาเยือนเสียที...”

“ดังนั้นการโกหกจึงเป็นเรื่องผิด เจ้าเคยโกหกข้ามาครั้งหนึ่ง ข้ายกโทษให้เจ้า ต่อไปเจ้าจะโกหกข้าเป็นครั้งที่สองไม่ได้อีก ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่คุยด้วยง่ายๆ เหมือนเสิ่นชิ่น”

……

เมื่อกลับถึงวัง เซียวปี้เฉิงก็เล่าผลลัพธ์สุดท้ายของเรื่องราวที่ไปจัดการตระกูลยินให้อวิ๋นหลิงฟังโดยละเอียด

“ในช่วงห้าวันที่เจ้าอยู่ในโรงยา กรมอาญาได้พิพากษาบรรดาตระกูลยินถึงที่สุด อาลักษณ์ยิน ยินถังและพ่อของเขารวมสามคนถูกตัดสินประหารชีวิตในเรือนจำ หนังสือพิมพ์ทางการก็จะเผยแพร่รายงานเรื่องนี้ในเวลาต่อไป”

“สมาชิกในตระกูลยินที่เหลือถูกศาลต้าหลี่สอบสวนและสอบปากคำเป็นเวลาหลายวันหลายคืน ในที่สุดก็ตัดสินใจจัดทำรายชื่อสามบัญชี”

ระหว่างพูด เซียวปี้เฉิงยื่นรายชื่อให้กับอวิ๋นหลิง นางก็ตรวจดูอย่างละเอียด

มีสามบัญชี บัญชีสีขาวหนึ่งชุด บัญชีสีแดงหนึ่งชุด และบัญชีสีดำหนึ่งชุด

“คนที่อยู่ในบัญชีดำจะถูกเนรเทศไปต้อนฝูงสัตว์นอกด่านทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในฤดูใบไม้ผลิหลังปีใหม่ ล้วนเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับคดีเลวร้าย เป็นทหารกำลังหลักที่เที่ยวใช้อำนาจบาตรใหญ่อยู่เบื้องหลังตระกูลยิน ส่วนใหญ่เป็นทายาทสายตรง”

“แม้ว่าคนที่อยู่ในบัญชีแดงจะผิดศีลธรรม แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับความชั่วร้ายภายในตระกูลยิน หลังจากตัดสินโทษสุดท้ายแล้วก็ยังไม่ถึงตาย ศาลต้าหลี่จึงยึดหลักปฏิบัติตามกฎหมาย”

“บัญชีสีขาวสุดท้ายนี้ก็คือคนตระกูลยินที่ใจซื่อมือสะอาดมีเพียงไม่กี่คน เสด็จพ่อจะไม่ลงโทษพวกเขา ผู้ที่เดิมมีตำแหน่งขุนนาง หลังจากผ่านไปสักสองสามปีก็จะกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมได้ นอกจากนี้ยังมีบางคนที่มีความสามารถโดดเด่นและความประพฤติดีพร้อมก็จะสามารถกลับมารับราชการใหม่ได้”

อวิ๋นหลิงฟังแล้วพยักหน้า คนที่อยู่ในบัญชีขาวนี้เป็นลูกหลานนอกสมรสของตระกูลยินประมาณเก้าส่วน ดูเหมือนความแตกต่างระหว่างสายตรงกับลูกหลานนอกสมรสที่อยู่ภายในตระกูลจะมีมากทีเดียว

“นอกจากนี้ ทรัพย์สินส่วนใหญ่ของจวนยินถูกยึดไปแล้ว” เซียวปี้เฉิงเล่าถึงตรงนี้ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นที่เจือความกรุ่นโกรธหลายส่วน “ถ้าไม่ลงไปตรวจก็จะไม่รู้จริงๆ พอตรวจสอบก็ตกใจสะดุ้งโหยง เงินทองที่พวกเขายักยอกไปตลอดหลายปีที่ผ่านมามีมูลค่าเกือบหนึ่งในสามของท้องพระคลังของประเทศเราเลยทีเดียว!”

อวิ๋นหลิงได้ยินเช่นนี้ก็ค่อนข้างประหลาดใจ “มีมากขนาดนั้นเลยหรือ”

ควรรู้ไว้ว่าแคว้นต้าโจวในปัจจุบันเทียบไม่ได้กับเมื่อสามปีที่แล้ว นับตั้งแต่เปิดเส้นทางการค้าสามฝ่าย ควบคู่ไปกับการค้าอาวุธ ทำให้มีเงินในท้องพระคลังไม่น้อย

หากพูดไปตามคำกล่าวนี้ ตระกูลยินจะไม่ร่ำรวยไปกว่าแคว้นต้าโจวก่อนหน้านี้ได้อย่างไร

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ