“ลูกแนะนำให้ท่านไปสารภาพผิดต่อหน้าหลี่กุ้ยเฟย บอกว่าเมื่อก่อนไม่ได้ชอบแม่นางหลีจากใจจริง ท่านอารมณ์กลัดกลุ้มเกินไปเพราะเรื่องในราชสำนักและวังหลัง ในใจเกิดหดหู่ บังเอิญไปพบกับแม่นางหลีเข้า จึงมีคนช่วยระบายความอัดอั้นตันใจ เลยเผลอใจไปรักนางชั่วขณะ”
“ท่านคิดว่านั่นเป็นความรัก แต่ความจริงไม่ใช่ นั่นเป็นเพียงที่พักพิงทางจิตวิญญาณชนิดหนึ่ง จนกระทั่งวันนั้นที่ทำร้ายหลี่กุ้ยเฟยด้วยคำพูดที่ไม่ดีเนื่องจากเข้าใจผิด ท่านเห็นนางเจ็บปวดเศร้าเสียใจเช่นนั้น หัวใจเจ็บปวดจนหายใจไม่ออก ทันใดนั้นก็รู้ตัวว่าที่แท้ท่านคุ้นเคยกับการมีหลี่กุ้ยเฟยคอยเป็นเพื่อนมาหลายปีแล้ว...คนที่ท่านรักจริงๆ ก็คือนางมาโดยตลอด!”
เซียวปี้เฉิงเห็นอวิ๋นหลิงที่อยู่ข้างๆ แสดงอารมณ์ความรู้สึกอย่างท่วมท้นก็รู้สึกจนใจอย่างอดไม่ได้
ถ้าไม่มีเหตุผลเช่นนี้ นี่ก็คือการหลอกจักรพรรดิจาวเหริน เอาเขามาล้อเล่นใช่หรือไม่
เขามองสีหน้าจักรพรรดิจาวเหรินโดยไม่รู้ตัว พบว่าอีกฝ่ายกำลังฟังคำพูดของอวิ๋นหลิงด้วยความงุนงง กลอกตาจากไกลมาใกล้อย่างรวดเร็ว สีหน้าท่าทางค่อนข้างซับซ้อน ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
เซียวปี้เฉิงตกตะลึงทันที ไม่นึกว่าอวิ๋นหลิงจะพูดถูกจริงๆ!
แต่เสด็จพ่อจะไม่ชอบแม่นางหลีจริงๆ ได้อย่างไร ความพากเพียรในยามนั้นของเขาที่ไล่ตามเกี้ยวแม่นางหลีนั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่เสี่ยวเฟิงก็ยังไม่เคยได้รับ
จากนั้นครู่ใหญ่ จักรพรรดิจาวเหรินก็มุ่นคิ้วแล้วพูดอย่างทอดถอนใจ “...แม้ว่าคำบางคำในคำพูดนี้จะไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของข้า แต่ขอเพียงเกลี้ยกล่อมให้นางกลับวังได้ จะลดท่าทีลงก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาลดท่าทีลงต่อหน้าหลี่กุ้ยเฟย คิดได้เช่นนี้ ดูเหมือนจะยอมรับได้ไม่ยากนัก
เซียวปี้เฉิงที่อยู่ข้างๆ กลับมีสายตาที่ฉายแววความคิดลึกซึ้งอย่างน่าประหลาด
เสด็จพ่อบอกว่ามีบางคำไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของเขา นั่นหมายความว่า ‘เขาไม่ได้ชอบแม่นางหลีจากใจจริง’ หรือก็หมายถึงว่า ‘หลี่กุ้ยเฟยคือคนที่เขารักอย่างแท้จริง’ อย่างนั้นหรือ
จากเงื่อนไขที่ได้จากคำพูดของจักรพรรดิจาวเหรินจะเห็นได้ว่าในบรรดาข้อมูลทั้งสองนี้ ข้อมูลหนึ่งต้องเป็นจริง อีกข้อมูลหนึ่งต้องเป็นเท็จ
หากข้อมูลหลังเป็นเท็จ จักรพรรดิจาวเหรินไม่ได้รักหลี่กุ้ยเฟย แต่พูดถ้อยคำหวานหูเพื่อเกลี้ยกล่อมให้นางกลับวัง เช่นนี้ก็สามารถตัดสินได้ว่าข้อมูลแรกจะต้องเป็นจริง ว่าเขาไม่ได้ชอบแม่นางหลีจากใจจริง
แต่นั่นเป็นสิ่งที่ผิดอย่างเห็นได้ชัด เขารักแม่นางหลีอย่างชัดเจน ดังนั้นข้อมูลแรกเป็นเท็จ ข้อมูลหลังต่างหากที่เป็นความจริง
นั่นหมายความว่า...จักรพรรดิจาวเหรินชอบแม่นางหลีจากใจจริง ขณะเดียวกัน เขายังคงมีความรักต่อหลี่กุ้ยเฟยที่สั่งสมมานานหลายปีด้วย???
เซียวปี้เฉิงระดมความคิดคาดคะเนเรื่องนี้อย่างเงียบๆ สุดท้ายก็รู้สึกตกใจกับข้อสรุปที่ได้มาเป็นอย่างมาก
อวิ๋นหลิงรีบพูดหลอกล่อจักรพรรดิจาวเหริน จึงไม่มีเวลาไปสืบหาคำตอบว่าเหตุใดจู่ๆ สามีของนางก็แสดงสีหน้าตกตะลึงเช่นนี้
“แต่ลูกต้องพูดคำที่ไม่น่าฟังก่อน วิธีนี้รับประกันไม่ได้ว่าจะหลอกล่อหลี่กุ้ยเฟยกลับมาได้ ทำได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อป้องกันสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เมื่อถึงเวลาลูกจะไปกับเสด็จพ่อด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์ควบคุมไม่ได้”
นางดูจริงจังอย่างยิ่ง จักรพรรดิจาวเหรินก็พยักหน้าอย่างตกประหม่าโดยไม่รู้ตัว ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง จู่ๆ ก็มองอวิ๋นหลิงด้วยความหวาดระแวงและนึกสงสัย
“เหตุใดจู่ๆ เจ้าถึงใจดีมีน้ำใจถึงเพียงนี้”
ไม่มีการพูดฉีกหน้า เสียดสีหรือเยาะเย้ยเขาเลยสักนิด เขารู้สึกว่าไม่คุ้นเคย
อวิ๋นหลิงยักไหล่ แต่ไม่ได้พูดคำเหลวไหลทำนองว่าครอบครัวสามัคคีกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะจักรพรรดิจาวเหรินคงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอน
เพื่อไม่ให้เขาสงสัยมากขึ้น นางจึงพูดด้วยสีหน้าปกติว่า “ถึงข้าจะรู้สึกว่าท่านทำไม่ถูกเรื่องของหลี่กุ้ยเฟย แต่ข้าก็ต้องคิดถึงอวี้จือด้วย เขาโตขึ้นแล้วแต่ยังมีอารมณ์แบบเด็กๆ อยู่เลย จะให้มาแตกคอเป็นศัตรูกับตระกูลแม่ของตนเอง ดูจะไม่ฉลาดเอาเสียเลย”
เมื่อสบกับสายตาที่งุนงงของเซียวปี้เฉิง นางจึงอธิบายอย่างละเอียด
“ช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ชาวบ้านต่างถิ่นและพ่อค้าต่างประเทศเข้ามาในเมืองไม่ใช่มากขึ้นเรื่อยๆ หรอกหรือ ทั้งพี่ใหญ่และเศรษฐีหนุ่มรู้ดีว่าภายภาคหน้าขนาดของเมืองหลวงจะค่อยๆ ขยายไปยังชานเมืองทางตอนใต้ ดังนั้นพวกเขาจึงซื้อที่ดินล่วงหน้าจำนวนมากเพื่อเอามาพัฒนา”
“ในนั้นมีที่ดินผืนใหญ่อยู่ผืนหนึ่ง พี่ใหญ่อยากจะค่อยๆ เปลี่ยนให้เป็นรีสอร์ตหรูที่คล้ายคลึงกับสังคมสมัยใหม่ของพวกเรา โครงการรีสอร์ตนี้จะร่วมมือกับหลายฝ่ายในอนาคต อวี้จือและภรรยาได้เข้าร่วมก่อนแล้ว”
ในระยะเริ่มแรกตอนนี้ จะเป็นการเปลี่ยนคฤหาสน์ศูนย์กลางให้คล้ายกับสโมสรพักผ่อน แล้วค่อยๆ เชื่อมต่อกับสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษต่างๆ ที่จะตามมา
นอกจากฟังก์ชันพื้นฐานที่สุดอย่างโรงแรมบ่อน้ำพุร้อนแล้ว ยังจะพัฒนาร้านค้าพิเศษหลายแห่ง เช่น กิจกรรมบาร์บีคิวกลางแจ้ง การแสดงโอเปร่าในร่ม เป็นต้น แล้วต่อไปจะมีสนามแข่งม้าขนาดใหญ่ด้วย
เซียวปี้เฉิงพยักหน้า “ข้ารู้เรื่องนี้ อวี้จือบอกข้าหลายครั้งว่าพวกเขาทั้งคู่อยากจะเปิดร้านที่นั่น ด้วยเหตุนี้จึงพาหลี่กุ้ยเฟยไปที่นั่น”
“แล้วท่านรู้หรือไม่ว่าทำไมหลี่กุ้ยเฟยจึงเปิดร้านของหวาน” อวิ๋นหลิงพูดถึงตรงนี้โดยไม่รอเขาตอบก็หัวเราะก่อน “เพราะนางจะร่วมเปิดร้านของหวานกับแม่นางหลี ไม่เพียงหลี่กุ้ยเฟยจะอยู่ที่นั่น แม่นางหลีก็อยู่ที่นั่นด้วย”
เซียวปี้เฉิงได้ยินเช่นนี้ ก็อดเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยไม่ได้ “แล้ว...แล้วเจ้ายัง...ยังยุยงให้เสด็จพ่อพูดคำเหล่านั้นอีกหรือ”
อวิ๋นหลิงผงกศีรษะพร้อมกับยิ้มตาหยี “ใช่แล้ว คำพูดเหล่านั้นไม่เพียงพูดให้หลี่กุ้ยเฟยฟัง แต่ยังพูดให้แม่นางหลีฟังด้วย ข้าอยากรู้มากว่าเมื่อถึงเวลานั้นเสด็จพ่อของท่านจะมีปฏิกิริยาอย่างไร”
ในที่สุดเซียวปี้เฉิงก็เข้าใจความหมายของคำว่า ‘ละครฉากเด็ด’ ที่นางพูดถึง
เมื่อจินตนาการถึงฉากที่น่าอับอายเช่นนั้นครู่หนึ่ง เขาก็อดรู้สึกหนังศีรษะมึนชาแทนจักรพรรดิจาวเหรินไม่ได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พระชายาคือแพทย์อัจฉริยะ
ทำไมใช้เหรียญไม่ได้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ละคะ...
ทำไมแสดงความคิดเห็น แล้วข้อความหายอ่ะ...
ซื้อตอนแล้วไม่ได้ปลดล๊อคค้างไว้เหรอคะ แบบนี้ก็ย้อนกลับมาอ่านไม่ได้สิคะ มือกดโดนผิดวิ่งไปหน้าอื่นต้องเสียเงินอีกรอบงี้เหรอ...
ทำไมซื้อตอนปลดล๊อคแล้ว กลับไปย้อนอ่านต้องปลดล๊อคใหม่คะ...
ทำไมตอนซื้อแล้วล๊อคไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนแล้วเปิดหน้าใหม่แล้วย้อนกลับไปอ่านไม่ได้คะ ล๊อคเหมือนเดิมต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ตลอดรึคะ...
ทำไมปลดล๊อคแล้ว กดข้ามไปตอนใหม่แล้วย้อนกลับมาอ่านไม่ได้คะ...
ทำไมซื้อตอนไม่ได้คะ...
เติมเหรียญอย่างไร...
วิธีเติมเหรียญตรงไหนอย่างไร...