หลังจากการอธิบายแผนการและรายละเอียดอันยืดยาว เกรย์สันมองไปที่คุณอาเรสด้วยความภาคภูมิใจและคาดหวัง
ในขณะที่เขากำลังคิดว่าเจย์กำลังจะชมเขาในความฉลาด เจย์กลับจ้องเขาด้วยสายตาคมกริบที่ดูเหมือนมีดมากมาย
“ย้ำคิดย้ำทำ? ออทิสติก?” เสียงของเจย์ฟังดูสงบแต่มันกลับมีความโกรธซ่อนอยู่ในน้ำเสียงของเขา
หน้าผากของเกรย์สันเริ่มหลั่งเหงื่อออกมาเป็นหยด ๆ
เกรย์สันกัดลิ้นของเขาเอง แม้ว่าท่านเจนสันจะเรื่องเยอะและเป็นเด็กเจ้าปัญหา แต่เขายังคงเป็นลูกชายสุดรักของคุณอาเรสอยู่ คนเดียวที่จะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ท่านเจนสันได้คือตัวคุณอาเรสเองเท่านั้น
ถ้ามีใครกล้าปากเสียใส่ท่านเจนสันล่ะก็ โดยพื้นฐานแล้ว นั่นคือการขุดหลุมฝังตัวพวกเขาเอง
แน่อยู่แล้ว เจย์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอันตราย “เกรย์สัน ดูเหมือนนายจะรู้จักเจนสันเป็นอย่างดี ทำไมฉันไม่มอบความรับผิดชอบในการดูแลเจนสันให้นายเลยดีล่ะ?”
ทันทีที่เจย์พูดจบ เกรย์สันพลันหน้าเสียและรีบร้องขอความเมตตา
“คุณอาเรส ผมมีครอบครัวต้องดูแล ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย ท่านเจนสันเพิ่งจะทำให้คนขับรถสิบเอ็ดคนลาออกไปภายในสิบเจ็ดวันที่ผ่านมา สามคนมีอาการความดันโลหิตกำเริบ สองคนในนั้นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจจากความเครียด และห้าคนในพวกเขามีสภาพเละเทะมากจนแทบจำทางกลับบ้านไม่ได้ ส่วนคนล่าสุดถึงกับเป็นโรคจิตเภทจากความกลัวฝังใจ…”
เจย์แก้ต่างให้ลูกชายของเขา “ถ้าสุขภาพของพวกนั้นแย่มาตั้งแต่แรก งานที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงอย่างคนขับรถก็ต้องไม่เหมาะสมกับพวกเขาอยู่แล้ว”
เกรย์สันถึงกับเหงื่อแตกพลั่กด้วยความอดสู
‘ขนาดคุณอาเรสยังรู้เลยว่าการเป็นคนขับรถให้เจนสันเป็นงานความเสี่ยงสูง’ เขาพูดกับตัวเอง
เกรย์สันรวบรวมความกล้าและพยายามกล่าวปกป้องคนขับรถผู้กล้าหาญเหล่านั้น “คุณอาเรสครับ สิ่งที่อันตรายของงานไม่ใช่การขับรถ แต่เป็นเพราะท่านเจนสันคนนั้นต่างหากที่น่ากลัวเกินไป”
“ลองยกตัวอย่างมาซิ” เจย์กล่าวเบาๆ
“ผมขอเริ่มจากคุณแซคเป็นคนแรก เขามีปัญหาเรื่องโรคความดันโลหิตเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว วันหนึ่ง คุณแซคได้กล่าวชมท่านเจนสันถึงความหลักแหลมของเขา แต่ท่านเจนสันกลับตอบว่า “ไม่เท่าคุณหรอก! คุณคือประภาคารเรืองแสงแห่งความรู้เลยล่ะ!” สำหรับคำอธิบายเพิ่มเติม คุณแซคเป็นคนหัวล้าน ด้วยเหตุนี้ หลังจากได้ยินคำพูดของท่านเจนสัน ความดันโลหิตของเขาก็พุ่งขึ้นเกินพิกัดเลยทีเดียว”
“และต่อมาก็คุณไลโอเนล เขาทุกข์ทรมานกับโรควิตกกังวลและมักจะมีอาการเปลือกตากระตุกบ่อยๆ ท่านเจนสันก็ไปบอกว่าเขาเป็นโรคกล้ามเนื้อขั้นร้ายแรง ไลโอเนลผู้น่าสงสารถึงกับเป็นโรคแพนิคและถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาเป็นการด่วน”
คิ้วของเจย์ย่นลงเล็กน้อย
‘ปากอันร้ายกาจของเจนสันเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงสินะ’ เขาตั้งข้อสังเกตอย่างเงียบงัน
เจย์กำลังวิเคราะห์ว่าทำไมการกระทำของเจนสันถึงได้เหมือนเขานัก
เจย์เรียบเรียงความคิด ‘เจ้าเด็กนี่มักจะเกลียดคนแปลกหน้าเข้ากระดูกดำ และนั่นมักจะเป็นเพราะเราเสมอ’
เจย์รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระตุกหัวใจเขา เขาตัดสินใจจะจัดการเรื่องสำคัญบางอย่างเพื่อรักษาทัศนคติที่แข็งกร้าวของเจนสัน
“เกรย์สัน เราจะทำตามแผนของนาย” เจย์ตอบขึ้นมาอย่างกะทันหัน “หาวิธีบังคับให้โรสตกลงเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้เจนสันให้ได้”
เกรย์สันดูค่อนข้างเคอะเขินก่อนจะตอบอ้อมแอ้ม “แค่คุณนายโรสหนีไปแล้วนะครับ การจะตามจับเธอตอนนี้คงยากพอ ๆ กับสมัยเมื่อห้าปีก่อน”
เจย์พ่นลมหายใจ “โอ้ มันจะเป็นแบบนั้นแน่เหรอ?”
ดวงตาของเกรย์สันเปล่งประกายด้วยความเข้าใจ จริงด้วย...คุณนายโรสส่งใบเอกสารข้อมูลแม่ของเธอเพื่อการรับการรักษาในโรงพยาบาลไปแล้ว เธอไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก
‘ฉันคิดว่าคุณอาเรสคงคิดทุกอย่างไว้แล้วแน่’
…
ชุมชนเจิดจรัส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!