”เบ็น นี่นายมีหัวใจบ้างไหม? น้องสาวฉันทุ่มเทให้นายขนาดนี้ ลองถามตัวเองดูนะ ว่ามีใครในโลกนี้อีกไหมที่ปฏิบัติกับนายดีเท่าเธอ?”
“ตอนที่ลูกชายนายป่วย น้องสาวฉันก็บริจาคเลือดให้ เธอเป็นถึงประธานของแกรนด์เอเซียที่มีมูลค่าสูงเป็นพันเป็นหมื่นล้านดอลลาร์ นายคิดว่าเธอจะใจดีแบบนี้กับคนอื่นไปทั่วเหรอไง? ถ้าไม่ใช่เพราะนาย เธอก็ไม่จำเป็นจะต้องช่วยอะไรครอบครัวนายด้วยซ้ำ… แล้วนายตอบแทนน้ำใจและการทุ่มเทของเธอแบบนี้เหรอ?”
เซย์นโมโหจนแทบบ้า
แองเจลีนรีบดึงเซย์นออกไปเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าไปปะทะกับเจย์
“ไปกันเถอะพี่”
เซย์นตะคอกอย่างเหลืออด “จะดึงฉันออกมาทำไมกัน? ให้ฉันชกหมอนั่นแล้วสั่งสอนมันให้เธอไม่ดีเหรอไง?”
“นี่เป็นความผิดของเธอที่คอยโอ๋เอาใจจนเขามีนิสัยจองหองแบบนี้ ในเมืองอิมพีเรียลนี้ยังมีใครกล้าเหยียบหัวเธอแบบนี้อีก?”
เสียงตะโกนและด่าของเซย์นลดลงมาเป็นเพียงการกระซิบ
ตอนนี้เจย์เองก็เริ่มที่จะใจเย็นลงเหมือนกัน
ที่จริงเขาก็รู้สึกเสียใจทันทีที่คำพูดนั้นหลุดปากออกไป
เมื่อเห็นแองเจลีนร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็ก เขาเองก็กระอักกระอ่วนใจ
ความจริงแล้วเขาไม่ได้โทษเธอที่อาการของไทเกอร์ทรุดลง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขามีโทสะคุกรุ่นอยู่ ตั้งแต่ที่เขาได้ยินเธอเรียกชื่อ “เจย์บี้” เมื่อคืนนี้ เขาก็เก็บกดคลื่นความโกรธในใจไว้และไม่มีช่องให้ระบายออก
เมื่อครู่ในที่สุดโทสะและความเกรี้ยวกราดทั้งหมดก็ระเบิดออกมา
เขารู้ตัวดีว่าเขาใช้อาการของไทเกอร์มาเป็นข้ออ้างในการระบายอารมณ์
มาริลินรู้สึกตกใจกลัวจนเธอหยุดร้องไห้ไปแล้ว
“ไปกันเถอะ” เจย์พูดด้วยท่าทางมืดหม่น
จากนั้นเขาก็พามาริลินไปที่ห้อง ICU แต่หมอก็ห้ามพวกเขาไว้ไม่ให้เข้าไปเจอลูก
“ตอนนี้อาการของเด็กค่อนข้างเสี่ยงครับ พวกคุณเข้าไปเยี่ยมเขาตอนที่อาการคงที่แล้วจะดีกว่า”
มาริลินไม่ยอมฟังและเริ่มกรีดร้อง “ใครจะไปรู้ว่าพวกคุณจะทำอะไรเขาบ้าง ถ้าเราไม่ได้เจอเขา?”
แองเจลีนเดินออกมาและสั่งพยาบาลที่ยืนอยู่ด้านข้าง “เอาตัวเธอออกไป ไม่อนุญาตให้ใครมาตะโกนดังโหวกเหวกหน้าห้อง ICU ทั้งนั้น”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!