เธอดึงประตูระบบนิรภัยเปิดออกก่อนเดินจากมาด้วยความเสียใจสุดซึ้ง
ตอนนั้นเองที่เสียงเปียโนไพเราะรื่นหู ดังแว่วออกมาจากในบ้าน
เจย์กำลังเล่นเพลงชื่อ ‘Mountain High River Deep’
แม้คำพูดของเขาจะเย็นชาไม่ถนอมน้ำใจ แต่เสียงเปียโนที่เขาเล่นก็ยังแสดงให้เห็นว่าเขานั้นยังรู้สึกขอบคุณมาริลินอยู่บ้าง
เขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน เขาจะไม่รู้สึกอะไรเลยได้อย่างไรกัน?
มาริลินช่วยชีวิตเขาไว้ ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมาเขาก็มีความรู้สึกขอบคุณเธอ แม้ว่าเธอจะทำผิดแต่ก็เถียงไม่ได้ว่าเธอเป็นคนมอบชีวิตใหม่ให้เขา
ในที่สุดประตูที่แง้มอยู่ก็ปิดสนิท
บานประตูที่ไม่หนานักนั้นเป็นเหมือนตัวกั้นระหว่างเบ็นและมาริลินที่อยู่ในโลกสองใบที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง
เจย์เล่นเพลง ‘Mountain High River Deep' ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ราวกับว่าเขากำลังเอ่ยอำลาให้กับอดีตที่แสนใสซื่อและโง่เขลาของตัวเอง
สุดท้ายเขาก็ลุกขึ้นยืนข้างหน้าบานหน้าต่างกระจกโค้งอย่างหงุดหงิดใจและเปิดม่านออก
แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระทบขาตั้งไม้สีขาว
ดวงตาเหยี่ยวของเจย์หรี่ลงเล็กน้อย เขาดึงผ้าสีขาวที่คลุมขาตั้งไว้ด้วยมือสั่นเทา
ภาพใบหน้าของแองเจลีนที่ปราศจากการตกแต่งจ้องมองตอบเขามาด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ และดูสงบนิ่ง
เธอดูเหมือนสาวน้อยในห้วงรัก คิ้วเธอดูนุ่มนวลละมุนละไม สายตาก็เต็มไปด้วยความอ่อนหวานรักใคร่ รอยยิ้มใสบริสุทธิ์ของเธอดูอิสรเสรี หัวใจของเขารู้สึกได้ถึงความโหยหาความรักนั้น
เขารู้สึกสับสนงงงวยกับความรู้สึกของตนในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่า เธอนั้นแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำของเขา แต่ทำไมเธอถึงไม่แสดงทีท่าว่าคุ้นเคยกับเขาเลยเวลาที่เขาอยู่ต่อหน้าเธอ?
บางทีนี่อาจจะเป็นแค่รักข้างเดียวสินะ?
เขาเอาผ้าคลุมรูปบนขาตั้งกลับไปอย่างหดหู่
จากนั้นก็มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าว่างเปล่า
เมื่อไหร่กันที่ครอบครัวเขาจะมารับเขากลับบ้าน?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!