โคลบอกว่า “ตอนที่มีคนกลุ่มก่อนหน้านี้มาพ่อก็พูดแบบนี้ พ่อเกือบปล่อยฝูงรถคอร์เวตต์เราออกไปแล้ว แต่ที่จริงเธอก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงที่อยากจะมาร่วมมือพัฒนาป้อมตระกูลยอร์กกับเราแค่นั้น”
สเปนเซอร์ตอบเสียงอ่อย “ผู้หญิงคนนั้นมีธุรกิจตั้งมากมายนับไม่ถ้วนและก็ถือว่าเป็นเศรษฐีแม้แต่กับพวกประเทศคู่แข่งของเรา แล้วจะนับว่าเธอเป็นคนธรรมดาได้ยังไง?”
โคลไม่สนใจจะเถียงกับเขาต่อแล้ว “นักท่องเที่ยวหกคนที่มานี่ มีคนหนึ่งตาบอด อีกคนป่วย สองคนก็กลัวมาก ส่วนผู้ชายอีกสองคนที่เหลือก็ดูมีประโยชน์กว่าหน่อยเพราะว่าช่วยลากเพื่อนร่วมทางไร้ประโยชน์มาได้ แล้วพ่อจะต้องกลัวอะไร?”
สเปนเซอร์หยุดคิดชั่วขณะก่อนจะพยักหน้า
หลังจากผ่านไปประมาณชั่วโมง สเปนเซอร์ก็ทนรอไม่ไหวแล้วและบอกคาร์สันว่า “ช่วยไปดูหน่อยซิว่าพวกเพี้ยนนั่นกินมื้อเที่ยงเสร็จหรือยัง? ถ้ากินเสร็จแล้วก็ให้พามาพบฉัน ฉันอยากจะถามอะไรสักหน่อย”
“ครับ”
คาร์สันกลับไปที่ห้องพักแขกในสวนอีกครั้ง
เจย์และคนอื่น ๆ เพิ่งกินอาหารเสร็จและกำลังจะเตรียมพักผ่อนในช่วงบ่ายขณะที่คาร์สันพรวดพราดเข้ามาไม่บอกกล่าว
“นายท่านอยากพบพวกนาย” คาร์สันยืนตรงประตูและพูดกับเจย์อย่างออกคำสั่ง
เจย์จ้องเขาอย่างเย็นชาและพูดช้า ๆ ว่า “บอกเขาว่ารอน ยอร์กขอว่าให้ฉันส่งข้อความให้คุณท่านใหญ่ยอร์ก ฉันจะบอกต่อเมื่อได้พบเขาเท่านั้น”
คาร์สันถึงกับอึ้งไป
“อะไรนะ? นายอยากเจอคุณท่านเหรอ? นี่นายคิดว่าคุณท่านของเราจะเจอใครก็ตามที่อยากพบตามใจเหรอไง? ฉันบอกนายตอนนี้เลยนะว่าคุณท่านของเราไม่รับแขก”
เจย์ตอบ “ถ้าเป็นแบบนั้นก็ต้องขอโทษด้วย ฉันก็คงบอกอะไรไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส!