เสียงฟ้าร้องดังกระหึ่ม มาพร้อมอัศนีที่เล่นโลดบนผืนนภา
พายุฝนกระหน่ำสาดไปทั่วทั้งตำหนักวังเย็น ประตูไม้ที่แต่เดิมก็ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ชนกระแทกกันอย่างแรงจนเสียงดังสนั่น สาวใช้ในชุดเสื้อผ้าขาดเก่าๆ ใช้ร่างกายตนเองดันประตูไว้อย่างสุดชีวิต พร้อมกับน้ำตาที่ไหลหลั่งอย่างห้ามไม่อยู่
เจ้านายใกล้จะคลอดเต็มที ทว่าสภาพอากาศตอนนี้กลับทั้งลมแรงทั้งฝนตก
ไฉนสวรรค์จึงใจร้ายเฉกเช่นนี้
ยายเฒ่าที่ยืนอยู่ข้างขอบเตียงก็ดวงตาแดงก่ำเช่นกัน
พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า “พระสนม ศรีษะทารกใกล้ออกมาแล้ว ขอเพียงพระองค์ออกแรงอีกนิด ทารกก็จะออกมาแล้ว”
บนเตียงมีหญิงสาวใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษผู้หนึ่งนอนราบอยู่ ใบหน้าสวยได้รูปเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ และท้องที่กลมโตก็เด่นสะดุดตาเป็นอย่างมาก
เธอใช้กัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรง นิ้วมือจิกกับขอบเตียงจนเปลี่ยนเป็นสีขาวซีด เส้นเลือดบนหน้าผากก็ปูดโปนชัดเจน
ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีหญิงสาวก็หมดแรง
ยายหลี่รีบจับมือเธอเอาไว้ และพูดอย่างยากเย็น “พระสนม โปรดพยายามอีกหน่อยเพคะ ขอเพียงคลอดพระโอรส บางทีพวกเราอาจจะได้ย้ายออกจากวังเย็นก็ได้ ใต้เท้าเองก็จะสามารถกลับเมืองหลวงได้แล้ว”
หญิงสาวมิอาจกลล้ำกลืนน้ำตา พูดด้วยเสียงสะอิ้น “พ่อข้าถูกกล่าวหาใส่ร้าย ท่านเป็นคนภักดี รักบ้านเมือง จะคบคิดศัตรูได้อย่างไร”
ยายหลี่คุกเข่าลงข้างเตียง พูดพร้อมน้ำตาที่พาลไหลออกมาเช่นกัน
“ใช่แล้วเพคะ แต่นั่นก็ต้องฝ่าบาทตรัสเองถึงจะมีประโยชน์ ขอเพียงท่านคลอดทารกออกมา บางทีทุกอย่างอาจมีหนทางคลี่คลาย”
ได้ยินดังนั้น หญิงสาวก็ดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงฮึดสู้ขึ้นมาอย่างไม่หมดสิ้น
ขณะนั้นเอง เสียงฟ้าร้องกระหึ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องของทารก ทว่าหญิงสาวผู้นั้นยังไม่แม้แต่จะได้พบหน้าทารกสักครั้ง มือก็หล่นลงอย่างอ่อนแรง
ยายหลี่รีบร้อนไปดูทารก โดยไม่ทันสังเกตุเห็นความผิดปกติของหญิงสาว
และเมื่อได้เห็นก็มีความปิติยินดีทันที “คลอดแล้วเพคะ พระสนม เป็นพระโอรสจริงๆ”
แต่เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของหญิงสาว ก็ต้องร้องตกใจ
“พระสนม พระองค์เป็นอะไรเพคะ?”
สาวใช้เองก็วิ่งเข้ามาดูอย่างร้อนใจ เมื่อเห็นหญิงสาวนอนแน่นิ่ง ก็ร้องไห้โฮทันที
“พระสนม พระองค์ตื่นสิเพคะ อย่าหลอกอวิ๋นฉ่ายเลย พระสนมๆ”
อินชิงเสวียนตื่นเพราะแรงเขย่า
เธอจำได้ว่าตัวเองอยู่ระหว่างทางไปบริษัทที่จะฝึกงาน แล้วอยู่ๆ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งขับฝ่าไฟแดง แล้วเกิดเสียงดังกระหึ่ม จากนั้นอินชิงเสวียนก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย
พอลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง สิ่งที่เห็นก็คืออาคารทรุดโทรมเก่าๆ และเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย แถมยังอยู่ในเสื้อผ้าชุดโบราณที่ทั้งเก่าและขาด
“คุณคือ...”
อินชิงเสวียนอ้าปากด้วยความประหลาดใจ แต่ไม่รอให้เธอพูดจบ สาวใช้ก็ร้องไห้ด้วยความดีใจ และพูดว่า “พระสนม พระองค์ตื่นแล้วหรือ เมื่อกี้บ่าวตกอกตกใจหมดเลยเพคะ”
พระสนมกับบ่าวอะไรกัน?
อยู่อินชิงเสวียนก็รู้สึกปวดหัว
และตอนนี้ อยู่ๆ ก็มีความทรงจำที่ไม่รู้จักก็หลั่งไหลเข้ามา
ขนาดที่อินชิงเสวียนเองก็ยังตกใจ
เธอ...ข้ามมิติมาหรือเนี่ย!
ร่างกายที่เธอมาอยู่ตอนนี้คือบุตรสาวจากเรือนใหญ่ของแม่ทัพใหญ่อินแห่งแคว้นต้าโจว ซึ่งมีชื่อและนามสกุลเหมือนกับเธอ
หนึ่งปีก่อน อินชิงเสวียนที่อายุสิบหกได้ออกเรือนตบแต่งไปยังจวนรัชทายาท กลายเป็นพระชายาที่ใครต่างก็ใคร่อิจฉา
สองเดือนต่อมา อดีตฮ่องเต้ประชวรและสวรรคต องค์รัชทายาทจึงสืบราชสมบัติต่อ
อินชิงเสวียนในฐานะชายาเอก ตามหลักแล้วก็จะได้เป็นฮองเฮาอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่ายังไม่ทันได้แต่งตั้ง ก็มีข่าวลือว่าบิดาของเธอสมคบกับกลุ่มเจียงวู วางแผนก่อกบฎ
เมื่อฮ่องเต้พระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์ ตามธรรมเนียมจะมีการอภัยโทษทั่วหล้า ดังนั้นจึงมิได้ประหารแม่ทัพอิน แต่เนรเทศทั้งตระกูลไปที่เมืองซุ่ยหานที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของต้าโจวแทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...