สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1042

อินชิงเสวียนผลักประตูหินออกไปทันที แล้วก็เห็นลิ่นเซียวยืนอยู่หน้าประตู

เขาสวมเสื้อคลุมสีเทาผ้าเนื้อหยาบ ผมสีขาวโดดเด่นภายใต้แสงจันทร์

ศิษย์ด้านนอกสองคนล้มลงที่ประตู เช่นเดียวกับฉางเฮิ่นเทียนที่เพิ่งมาถึง

“เสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์อยู่ที่ไหน”

ลิ่นเซียวก้มหน้าถาม

ฟังจากเสียงของเขา ดูเหมือนจะไม่มั่นคงทางอารมณ์

อินชิงเสวียนกลัวว่าหากพูดมากเกินไปจะผิดพลาด ทำให้เขาโกรธ จึงชี้ไปที่ผาเฟิงเริ่นทันที

พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้าได้ยินมาว่ามีหญิงสาวรูปงามถูกขังที่นั่น นางยังเล่นพิณได้ ข้าจึงเดาว่านางอาจจะเป็นผู้อาวุโสหลี่”

ลิ่นเซียวสะบัดเส้นผมสีขาวที่เหมือนสิงโต กำหมัดแน่นแล้วคำราม “เป็นไปไม่ได้ พวกเขากล้าดีอย่างไรถึงกักขังเสี่ยวเฟิ่งเอ๋อร์”

เพื่อป้องกันไม่ให้เขาส่งเสียงจนดึงดูดความสนใจผู้อื่น อินชิงเสวียนจึงรีบพูดเบาๆ “หูได้ยินอาจเป็นเท็จ เมื่อได้เห็นก็จะรู้ว่าเป็นจริง ทำไมเราไม่ขึ้นไปดูล่ะ ถ้าไม่ใช่ ผู้อาวุโสจะได้สบายใจได้”

ลิ่นเซียวพยักหน้า

“ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล ไป!”

เขาเอื้อมมือออกไปคว้าสายรัดเอวของอินชิงเสวียน แล้วใช้วิชาตัวเบาเหาะไปยังผาเฟิงเริ่นทันที

เมื่อก้มมองบ้านเรือนที่อยู่ข้างล่าง อินชิงเสวียนรู้สึกกังวลมาก หากสายรัดเอวของนางขาดในเวลานี้ นางคงเป็นเหมือนนางฟ้าที่ลงมายังพื้นดินในสภาพที่หน้าคว่ำบนพื้น เพื่อลดน้ำหนักตัวเองให้น้อยลง นางก็ใช้วิชาตัวเบา เหยียดมือออก พยายามรักษาสมดุล

การเคลื่อนไหวของลิ่นเซียวนั้นเร็วมาก เหมือนกับสายฟ้าแลบ เขาไปถึงตีนเขาด้วยการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่ครั้ง

เหล่าศิษย์หลายคนซ่อนตัวอยู่ในถ้ำหน้าผาดื่มสุราเพื่ออุ่นร่างกาย ยามนี้กลางฤดูร้อนแล้ว คนเหล่านี้ยังคงสวมเสื้อคลุมบุผ้าฝ้ายหนา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่นี่อุณหภูมิต่ำเพียงใด

ยังไม่ทันที่พวกเขาจะร้องตะโกน ลิ่นเซียวก็คว่ำพวกเขาลงแล้ว

ขณะฟังเสียงลมหนาวที่พัดหวีดหวิวเหนือศีรษะ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

เมื่อก่อนเคยคิดว่าผาเฟิงเริ่นเป็นเพียงชื่อเท่านั้น ถ้าข้างบนเย็นยะเยือกบาดผิวยิ่งกว่าข้างล่าง ก็ยากจะทนอยู่ไหว

ไม่รู้ว่าเหมยชิงเกอนาง...ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์