สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1080

อินชิงเสวียนกลับมาที่บ้านหินแล้ว

การที่มีฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงช่วยในการไกล่เกลี่ย ย่อมดีกว่าการพบปะกับผู้อาวุโสทั้งหลายด้วยตนเอง ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น แค่ต้องรอผลลัพธ์อย่างอุ่นใจก็พอ

อินชิงเสวียนเดินไปที่เตียงหิน แล้วนั่งขัดสมาธิอย่างสงบสดชื่น

แม้ว่านางจะหลอมรวมกำลังภายในของทุกคนเข้าด้วยกัน แต่ยังคงมีวรยุทธ์หลายอย่างที่นางยังไม่เชี่ยวชาญได้ อุตส่าห์ได้มีโอกาสดีทั้งที จะปล่อยให้สูญเปล่าไม่ได้

นางปิดเปลือกตาลงเบาๆ ในไม่ช้าก็เข้าสู่ห้วงทะเลแห่งจิตของตัวเอง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด จู่ๆ นางก็ได้ยินเสียงขลุ่ยแผ่วเบา

อินชิงเสวียนลืมตาขึ้นทันที จึงพบว่าท้องฟ้ามืดแล้ว นางตั้งใจฟังอยู่พักหนึ่ง แล้วก็รู้สึกประหลาดใจ มันเป็นเพลงหยกรัตติกาล

ผู้ที่เล่นดนตรีไม่มีความชำนาญ ดังนั้นจึงไม่ใช่ด้วยลิ่นเซียวอย่างแน่นอน

อินชิงเสวียนผลักประตูหินออก เดินตามเสียงขลุ่ยไปจนถึงป่าต้นหยาง แล้วก็เห็นเย่จั้นยืนอยู่ใต้ต้นไม้ทันที

“เสด็จ...”

ยังไม่ทันได้เอ่ยคำว่า ‘อา’ ก็รู้สึกถึงเสียงลมแปลกๆ เหนือศีรษะ มีมือหนึ่งซัดฝ่ามือไปที่ศีรษะของเย่จั้น

เย่จั้นและอินชิงเสวียนซัดฝ่ามือออกไปพร้อมกัน และเมื่อฝ่ามือทั้งสามประสานกัน ก็มีเสียงอึกทึก

คนผู้นั้นถอยหลังไปหนึ่งก้าว เส้นผมสีขาวราวหิมะไหวน้อยๆ

หลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของเขาอย่างชัดเจน อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ปรากฏว่าเป็นลิ่นเซียว หากตัวเองเดาไม่ผิด เขาก็น่าจะตามมาด้วยเสียงนี้

ลิ่นเซียวหันไปหาอินชิงเสวียน พูดอย่างชมเชย “ไม่เลว มีความคืบหน้าอยู่บ้าง”

จากนั้นมองขวับไปที่เย่จั้น แค่นเสียงเย็นชา “เล่นเพลงหยกรัตติกาลได้ไม่ไพเราะขนาดนี้ สมควรตายนัก”

ลิ่นเซียวพลิกฝ่ามือ และโจมตีไปยังเย่จั้นอีกครั้ง

อินชิงเสวียนตกใจ รีบมาขวางตรงหน้าเย่จั้น

“ท่านอาจารย์หยุดก่อน เสด็จอาเป็นพวกเราเอง”

เย่จั้นก็ประกบมือโค้งคำนับ

“ผู้เยาว์เย่จั้น น้อมคำนับผู้อาวุโสลิ่น ผู้เยาว์มีโอกาสพบกับผู้อาวุโสที่เมืองหลวงมาแล้ว วันนี้ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้พบที่นี่อีก”

ลิ่นเซียวกลัวว่าจะทำร้ายอินชิงเสวียน จึงหยุดมือ

เขาใคร่ครวญอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง แต่กลับจำไม่ได้เลย นับตั้งแต่หลี่เฟิ่งอี๋จากไป เขาก็บ้าๆ บอๆ สามารถจดจำได้สิ่งของและคนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์