สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1089

“เจวี๋ยอิ่ง เข้ามา”

สิบห้านาทีต่อมา ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้ก็เย็นชาและเคร่งขรึม ลักษณะน่าครั่นคร้ามของผู้อยู่ที่อยู่เบื้องบนกลับคืนดังเดิม

ร่างหนึ่งปรากฏวับออกมาจากมุมห้อง คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ

“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท”

“ลุกขึ้น”

เย่จิ่งอวี้พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “รีบส่งคนไปตรวจสอบเบาะแสที่อยู่ของเสด็จอาโดยด่วน”

หัวใจของเจวี๋ยอิ่งเต้นรัว แต่ยังคงพูดด้วยความเคารพว่า “กระหม่อมน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”

เย่จิ่งอวี้หยุดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าได้ตรวจสอบเอกสารของเมืองซุ่ยหาน พบว่าพ่อลูกตระกูลอินกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

ครั้นได้ยินดังนี้ เจวี๋ยอิ่งก็รู้สึกทั้งดีใจและกลัดกลุ้มผสมปนเป

ดีใจที่ฝ่าบาทจำเรื่องที่ฮองเฮาออกจากวังไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้กลุ้มใจคือ เขาจะตอบว่าอย่างไรดี

“นี่...”

เจวี๋ยอิ่งเหงื่อออกเล็กน้อย

เย่จิ่งอวี้เหลือบมองหลี่เต๋อฝูที่ยืนอยู่ข้างประตู

“หลี่เต๋อฝู เจ้ามาตอบ”

“เอ่อ กระหม่อม...”

หลี่เต๋อฝูวิ่งหัวซุกหัวซุนเข้ามา รีบคุกเข่าโขกศีรษะราบลงบนพื้น

พูดอย่างจำใจว่า “อันที่จริง...สืบพบกลุ่มกบฏของเจียงวูแล้วพ่ะย่ะค่ะ พ่อลูกตระกูลอินถูกใส่ร้าย”

เย่จิ่งอวี้พยักหน้า

“ดีมาก ดูเหมือนว่าข้าจะลืมไปหน่อยจริงๆ เช่นนี้แล้ว คนตระกูลอินไปอยู่ที่ไหนเสียเล่า”

เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งอวี้ไม่แสดงอาการโกรธเลย หลี่เต๋อฝูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขากะพริบตาเล็กตี่อยู่ปริบๆ แต่ในใจมีคำพูดแก้ต่างแล้ว บางทีนี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะสามารถนำตระกูลอินกลับมาได้

ยามนี้กวนฮั่นหลินแก่แล้ว กวนเซี่ยวก็ไม่เป็นโล้เป็นพาย แม้ว่าจอมพลเฒ่าจะฝึกฝนลูกศิษย์หลายคน แต่ก็ถูกฝ่าบาทตัดแต่งไปพอสมควรแล้ว แม่ทัพบู๊ที่สามารถเป็นหลักให้ต้าโจวได้อย่างแท้จริง ก็มีเพียงตระกูลอินแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์