สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1090

เย่จิ่งอวี้สะดุ้ง หันขวับทันที

ห่างจากเขาไปสิบก้าว มีชายชราสวมชุดคลุมสีเทายืนอยู่ผู้หนึ่ง ซึ่งเขาคือนักพรตเทียนชิงแห่งอารามซ่างชิงกวน

ทำไมเขาถึงเจอที่นี่ได้ล่ะ

ในวังมีทหารองครักษ์มากมาย แต่เขาสามารถเข้ามาในตำหนักจินหวูได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็น เขาเป็นยอดฝีมือมาจากไหนกันแน่

ดวงตาของเย่จิ่งอวี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็โค้งคำนับทันที

“ผู้เยาว์น้อมคำนับผู้อาวุโสเทียนชิง”

นักพรตเทียนชิงยิ้มเล็กน้อย

“ฝ่าบาทมากพิธีแล้ว ไม่คิดว่าน้องชายที่มักมาฟังเทศน์บ่อยๆ จะกลายเป็นฮ่องเต้บาทผู้สูงศักดิ์ที่สุดในแผ่นดิน อาตมภาพไร้มารยาทแล้ว”

นักพรตเทียนชิงมีน้ำเสียงใจดี รอยยิ้มเมตตาเอ็นดูอันทำให้คนรู้สึกเหมือนเป็นสายลมฤดูใบไม้ผลิ

“ท่านนักพรตยกย่องเกินไปแล้ว ไม่ทราบว่าท่านมาที่นี่เพราะจะชี้แนะอันใด”

เย่จิ่งอวี้โค้งคำนับเล็กน้อย กิริยาไม่ขาดตกบกพร่อง

นักพรตเทียนชิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “มิกล้าชี้แนะดอก เดิมทีอาตมภาพมีเรื่องจะถาม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องถาม คิดว่าฝ่าบาทคงไม่ยินยอม”

เย่จิ่งอวี้เลิกคิ้วขึ้น

“ไม่ทราบว่าท่านนักพรตมีเรื่องอันใด เชิญกล่าวมาได้เลย”

“ข้าสังเกตเห็นว่าฝ่าบาทมีสติปัญญาลึกซึ้งสามารถตรัสรู้ได้ มีวรยุทธ์ที่ได้รับพรอันดีจากฟ้าดิน สามารถเคลื่อนย้ายดวงดาวบนท้องฟ้าได้ หากได้เข้ามาอยู่ในสำนักเต๋าเรา อาจสามารถหลุดพ้นจากวิถีโลก หลุดพ้นจากโลกทั้งสามไปสู่นิพพานได้อย่างแท้จริง เพียงแต่เสียดาย ที่เจ้าเป็นฮ่องเต้ ผู้ปกครองใต้หล้า ยังอยู่ในหลักศีลธรรมจรรยาอีกประเภทหนึ่ง อาตมภาพย่อมไม่บังอาจบังคับ”

นักพรตเทียนชิงมีสีหน้าสงบอ่อนโยน โดยมีรอยยิ้มจางๆ ประดับบนริมฝีปากเสมอ

เย่จิ่งอวี้ก็ยกมุมปากขึ้นเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์