สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1121

ทันทีที่ฉางเฮิ่นเทียนจากไป อินชิงเสวียนและเย่จิ่งหลานก็มาถึง

ผู้อาวุโสหันออกมาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“บนเขาแร้นแค้น อาหารก็ค่อนข้างจืดชืด ไม่รู้ว่าจะถูกปากทั้งสองคนหรือไม่”

เย่จิ่งหลานประกบมือขึ้น พูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้อาวุโสหันคิดหนักแล้ว พวกเราไม่เลือกกินอาหาร แค่ของง่ายๆ ก็พอแล้ว”

เมื่อมาถึงโต๊ะหิน เย่จิ่งหลานก็ตระหนักว่าคำพูดใจกว้างของตัวเองพูดเร็วไปสักหน่อย

ในจานเป็นผักใบเขียวทั้งหมด พอเอาเข้าปากก็รู้สึกเหมือนเคี้ยวหญ้า สุดที่จะกลืนกินได้ จึงอดไม่ได้ที่จะมองไปยังอินชิงเสวียน เมื่อเห็นนางกินแค่พอเป็นพิธีไม่กี่คำเหมือนกัน ค่อยรู้สึกยุติธรรมขึ้นหน่อย

ผู้อาวุโสหันกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าได้ยินจากเทียนเฉิงว่า คุณชายน้อยเย่ถนัดในการสร้างกลไกเครื่องจักร ในเมืองหลวงมีผู้มีความสามารถมากมายจริงๆ”

เย่จิ่งหลานกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “คุยกันง่ายเลย ไม่ทราบว่าทางสู่วิถีแห่งสวรรค์เป็นสถานที่เช่นไร หรือว่ามีกลไกซ่อนอยู่ในประตู?”

ผู้อาวุโสหันพูดอย่างไม่อาจเข้าใจได้ “อาจจะใช่ บางทีอาจไม่ใช่ รออีกไม่กี่วัน คุณชายน้อยก็จะได้เห็นแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น จะรู้ทุกอย่างเอง”

เย่จิ่งหลานเกลียดคำพูดที่คลุมเครือเช่นนี้มากที่สุด จึงพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “พูดอะไรเช่นนี้ ใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ อย่าบอกข้านะว่า ตำหนักเทพหอทองคำแข่งประลองยุทธ์มานานหลายทศวรรษแล้ว แต่แม้แต่ประตูทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ยังไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ”

ผู้อาวุโสหันไม่ได้รู้สึกไม่พอใจ และยังคงยิ้มอยู่

“คุณชายน้อยเย่พูดถูก ที่จริงแล้วทั้งเราและอิ๋นเฉิงไม่เคยเห็นทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ที่แท้จริงเลย”

“โอ้? หมายความว่าอย่างไร”

เย่จิ่งหลานพิศวงงุนงง

ผู้อาวุโสหันกล่าวว่า “พูดตามตรง ที่ด้านนอกของทางสู่วิถีแห่งสวรรค์มีค่ายกลหนึ่งอยู่ หากต้องการเข้าไป ต้องทำลายค่ายกลนั้นก่อน แต่มันอาจเป็นกับดักด้วย ตอนนี้ข้าได้ส่งคนไปเชิญนักพรตเทียนจีแล้ว เชื่อว่าเจ้าสองคนร่วมมือกัน ต้องสามารถทำให้ทางสู่วิถีแห่งสวรรค์ส่องแสงสว่างได้อีกครั้ง”

นักพรตเทียนจี?

ดูเหมือนว่าจะเป็นสหายของเจ้าสำนักเซี่ยว อินชิงเสวียนจำได้ว่าเจ้าสำนักเซี่ยวได้พูดก่อนออกเดินทาง ว่าเขาจะไปตามหาคนผู้นี้ ช่วยแก้ไขการฝังโลหิตให้กับเย่จิ่งอวี้

เย่จิ่งหลานพยักหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์