สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1137

ในเวลานี้ เย่จิ่งหลานได้กลับมาที่ตำหนักเทพหอทองคำแล้ว

ด้วยสถานะพิเศษของเขา เหล่าศิษย์ของตำหนักเทพจึงให้ความเคารพเขาอย่างมาก เขาพาหวังซุ่นไปยังที่พักของอินชิงเสวียนโดยไม่มีอุปสรรคใดๆ

หวังซุ่นอดไม่ได้ที่จะถาม “นายท่าน แม่นางอินเห็นท่านที่จู่ๆ ก็มีรูปลักษณ์หล่อเหลาเช่นนี้แล้ว นางมีท่าทางอย่างไร”

เย่จิ่งหลานกลอกตามองเขา พูดด้วยความโกรธ “เจ้าคิดว่าจะเห็นนางทำหน้าแบบไหน หรือเจ้าคิดว่านางจะตกหลุมรักข้า?”

หวังซุ่นหัวเราะแหะๆ พูดว่า “ตอนนี้ท่านหล่อเหลาสง่างาม องอาจดั่งต้นหยก เป็นบุรุษรูปงามเป็นพิเศษ ตอนที่ท่านเดินอยู่ในเมือง ไม่รู้มีแม่นางน้อยใหญ่มากมายเพียงใด ที่สายตาจับจ้องมาที่ท่าน”

คำเยินยอนี้ยอได้ดี เย่จิ่งหลานพอใจมาก

เขายกมุมปากขึ้นแล้วพูดว่า “ถือว่าพวกนางสายตาแหลมคมอยู่บ้าง แต่ไม่สามารถพูดแบบนั้นต่อหน้าสตรีผู้นั้นได้ ข้าและนางเป็นเพื่อนที่บริสุทธิ์ต่อกันจริงๆ ไม่มีความคิดที่ไม่เหมาะสมอื่นใดอีก”

หวังซุ่นติดตามเย่จิ่งหลานมานานแล้ว ทั้งสองรู้สักคุ้นเคยกันดี เขาหัวเราะหึๆ แล้วพูดว่า “ตอนที่ท่านฝันยังละเมอเป็นชื่อแม่นางอิน ท่านไม่ชอบนางเลยหรือ”

ใบหน้าของเย่จิ่งหลานเปลี่ยนเป็นสีแดง ตบหน้าผากหวังซุ่นดังเพียะ

“หุบปากหมาๆ ของเขาซะ เจ้าคงหูหนวก ได้ยินผิด ข้าจะไปเรียกชื่อคนอื่นได้อย่างไร”

หวังซุ่นที่ถูกตีหดคอ พยักหน้าหงึกหงัก

“บ่าวคงน้ำเข้าหู ถึงได้ฟังผิด”

“ถูกแล้ว”

เย่จิ่งหลานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เงยหน้าขึ้นและเคาะประตูหิน

อินชิงเสวียนเดินออกจากประตูด้วยท่วงท่าสง่างาม

หวังซุ่นโค้งคำนับอย่างรวดเร็ว

“บ่าวน้อมคำนับแม่นางอิน”

อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ได้เจอกันนาน ท่าทางเจ้าดูไม่เลวเลย”

หวังซุ่นพูดอย่างเร่งรีบ “ขอบคุณแม่นาง ข้ายังมีชีวิตอยู่”

อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากขึ้น

ตอนที่พบหวังซุ่นครั้งแรก รู้สึกว่าเขาดูอัปลักษณ์จนผิดปกติ บางทีอาจเคยชินแล้ว ตอนนี้ถึงรู้สึกว่าดูดีขึ้น

บทที่ 1137 แต้มจุดแดงที่หว่างคิ้ว 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์