คนคนนั้นสวมชุดสีดำ ศีรษะและใบหน้าถูกคลุมอยู่ใต้ผ้าสีดำ ยืนจ้องวังเย็นอยู่ที่มุมตะวันตกเฉียงเหนือ
อินชิงเสวียนตกใจในทันที นางไม่คิดว่าจะมีคนจริงๆ!
คนผู้นี้จะมาฆ่านาง หรือว่ามาคอยสังเกตนางกันแน่?
นางเดินเข้าไปในมิติทันที และหยิบกระบองไฟฟ้าออกมา
ความจริงด้านในมิติมีอาวุธที่ดียิ่งกว่า อย่างเช่นปืนกล
เพียงของสิ่งนั้นแพงจนน่าตกใจ คะแนนหนึ่งหมื่นแลกปืนได้เพียงกระบอกเดียว ตอนนี้นางผ่านช่วงมือใหม่แล้ว วัฏจักรของการปลูกพืชใช้เวลาอย่างน้อยหกหรือเจ็ดวัน แม้ว่าหนึ่งเดือนนางจะได้สี่ร้อยคะแนน แต่ก็ต้องเก็บมากกว่าสองปี และยิ่งต้องใช้คะแนนเพื่อแลกเป็นเงินสด จึงต้องยุติความคิดที่อยากจะได้ของสิ่งนั้นไว้ก่อน
ระหว่างไตร่ตรองอยู่นั้น คนดังกล่าวก็ได้กระโดดขึ้นบนหลังคาบ้านแล้ว
อินชิงเสวียนไม่ได้ยินเสียงของกระเบื้องหลังคา อดไม่ได้ที่จะตกใจ นี่คือผู้มีฝีมือขั้นสูง
นางรีบออกมาด้านนอกตำหนักในทันที และอุ้มเจ้าหมาน้อยออกมาด้วย
“พระสนม…”
อินชิงเสวียนจ้องขวับไปหานาง ยายหลี่รีบปิดปากทันที
“หลายวันนี้รบกวนยายหลี่มาตลอด ในเมื่อข้าก็ถูกปิดตายอยู่ในวังเย็น ต่อไปข้าเลี้ยงลูกชายของข้าเองก็ได้”
อินชิงเสวียนพูดจบก็อุ้มเจ้าหมาน้อยเข้าไปด้านในตำหนัก
เปิดมือถือสับปะรดออกดู คนคนนั้นกำลังนอนราบอยู่บนหลังคาราวกับกำลังฟังอะไรบางอย่าง
อินชิงเสวียนพูดเสียงดังในทันที และพูดกับเจ้าหมาน้อยว่า “เจ้าลูกชาย เจ้าคิดถึงพ่อหรือไม่”
เจ้าหมาน้อยเบิกตาโต และจ้องไปยังอินชิงเสวียน โดยไม่เข้าใจว่าพ่อคือสิ่งใด
อินชิงเสวียนเหยียดนิ้วออกแล้วแตะที่ปลายจมูกแหลมของเขา
“ลูกรัก เรียกพ่อสิ”
เจ้าหมาน้อยจ้องเขาอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากออกมา
อินชิงเสวียนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ พูดขึ้นด้วยที่หน้าที่เอ็นดู “เจ้าเด็กโง่เอ๊ย”
เจ้าหมาน้อยยื่นมือที่ถูกยุงกัดจนบวมแดงขึ้นมาทันที และพูดอินชิงเสวียนอื้อๆ อ้าๆ ราวกับกำลังบอกท่านแม่ว่ามือของตัวเองบาดเจ็บ
เมื่อคืน อินชิงเสวียนทายากันยุงให้เขาแล้ว และได้แลกน้ำหอมมาขวดหนึ่ง ตอนนี้อาการบวมลดลงไปมากแล้ว แต่ว่าผิวของเจ้าหมาน้อยยังอ่อนโยนเกินไป และยังมีรอยแดงเป็นบริเวณกว้างที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
อินชิงเสวียนหอมลงไปบนมือเล็กๆ ของเขา เจ้าหมาน้อยดีใจขึ้นมาอีกครั้งทันที เขาเลียนแบบพฤติกรรมของอินชิงเสวียน ออกแรงทำปากจู๋ อินชิงเสวียนถูกความน่ารักดึงดูดในทันที
อดไม่ได้ที่จะอุ้มเขาขึ้นมา และหมุนเป็นวงกลมใหญ่บนพื้น
เจ้าหมาน้อยหัวเราะอย่างมีความสุขมากขึ้น เบายื่นมือเล็กๆ ออกมาจับชายเสื้อของอินชิงเสวียนไว้ รูม่านตาของเขาทั้งมืดและสว่าง
สองแม่ลูกหัวเราะร่ากันครู่หนึ่ง อินชิงเสวียนดูหน้าจอมือถือสับปะรดอีกครั้ง พบว่าคนผู้นั้นหายไปแล้ว
อินชิงเสวียนตบเจ้าหมาน้อยไปด้วย พลางขมวดคิ้วครุ่นคิดไปด้วย
ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ลงมือ ก็หมายความว่าไม่ได้มาฆ่านาง
เย่จิ่งอวี้อยากจะตรวจสอบอะไรก็เชิญตามสบาย เพียงนางยืนกรานว่าเจ้าหมาน้อยคือลูกชายของนางก็เพียงพอแล้ว ต่อให้ต้องเจาะเลือดตรวจดีเอ็นเอ นางก็ไม่กลัว
เพียงพริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปหนึ่งวัน
ในพระราชวังขาดขันทีไปหนึ่งคน แต่กลับไม่มีผลกระทบต่อผู้อื่นเลย
นอกจากหลี่เต๋อฝูและคนสนิทของฝ่าบาท แทบไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าเสี่ยวเสวียนจื่อถูกปิดตายไว้ในวังเย็น
หลายวันนี้ ลู่จิ้งเสียนตัดสินใจเรียนดีดพิณอย่างทุ่มเท ใช้ศิลปะเพื่อพิชิตใจเย่จิ่งอวี้
ซูฉ่ายเวยฝันกลางวันว่าจะได้รับความโปรดปรานในพระราชวังชั่วข้ามคืน ทุกอย่างยังไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงไป
มีเพียงหลี่เต๋อฝูที่รู้สึกถึงความไม่เหมือนเดิม
เมื่อคืนฝ่าบาทไม่ได้นอนทั้งคืน และมีอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยโดยไม่มีเหตุผล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...