เปรี้ยง
ทั้งสามคนรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง ต่างก็กระอักเลือดออกมาเต็มคำ
ในเวลานี้ เสียงของหวังซุ่นก็ดังขึ้นในหูของเย่จิ่งหลาน
“นายท่าน เจ้าตำหนักใกล้จะไม่ไหวแล้ว”
เย่จิ่งหลานขมวดคิ้วเล็กน้อย
“สาวน้อย หวังซุ่นบอกว่า เจ้าตำหนักจะไม่ไหวแล้ว”
ในขณะที่อินชิงเสวียนกำลังว่อกแว่ก ผู้อาวุโสหันก็งอมือ ก้าวไปข้างหน้า และพุ่งเข้าใส่ดวงตาทั้งสองข้างของอินชิงเสวียน
แสงสีม่วงบนมือระเบิดเป็นรัศมีหนึ่งเมตร อินชิงเสวียนสังเกตเห็นว่าการขับเคลื่อนของชี่แปลกไป เมื่อหันขวับ แสงสีม่วงพราวพุ่งออกมาต่อหน้าต่อตา ครั้นแล้วนางก็รู้สึกปวดร้าวไปทั้งกระบอกตา
ความชัดเจนถูกแสงสีม่วงเข้ามาแทนที่จนมิด วิสัยทัศน์การมองเห็นของอินชิงเสวียนพลันมืดลง
“สาวน้อย”
เย่จิ่งหลานซัดฝ่ามือออกไป น้ำตาสีแดงได้ไหลออกมาจากหางตาของอินชิงเสวียนแล้ว
“แม่นางชิงเสวียน เจ้าเป็นอะไรไป”
เสียงของเหมยชิงเกอดังขึ้นข้างหู
อินชิงเสวียนแสร้งทำเป็นสงบ
“ข้าไม่เป็นไร วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ห้ามให้ผู้อาวุโสหันหนีไปได้เด็ดขาด”
แม้ว่านางจะไม่สามารถมองเห็นด้วยตา แต่ก็สามารถตรวจจับทิศทางของผู้อาวุโสหันผ่านประสาทสัมผัสได้
ตอนนี้เขาไม่แสร้งแกล้งทำอีกต่อไป ความคิดชั่วร้ายในตัวแข็งแกร่งมาก แค่เสียดายที่เมื่อวานไม่เข้าใจใบมีดแห่งมิติ ถ้ารู้ประสิทธิภาพของมัน วันนี้จะทำให้ผู้อาวุโสหันกลายเป็นผุยผงแน่ๆ
“เขาหนีไปไม่ได้แน่”
เสียงของเย่จิ่งหลานเย็นชาราวกับบ่อน้ำเย็น รวบรวมกำลังภายในทั้งหมดไว้ในฝ่ามือ และพลังอันท่วมท้นก็พุ่งออกมาทั่วร่างกาย
ผู้อาวุโสหันยิ้มอย่างเหยียดหยาม แสงสีม่วงส่องสว่างอีกครั้ง ดวงตารูปสามเหลี่ยมคู่นั้นจ้องมองที่อินชิงเสวียน
ทั้งหมดเป็นความผิดของนังเด็กสารเลวนี่ ถ้านางไม่มา ทุกอย่างคงไม่กลายเป็นแบบนี้เลย แม้ต้องต่อสู้จนตาย เขาก็จะฆ่าอินชิงเสวียนให้ได้
“ถ้าต้องการชีวิตของข้า ก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกเจ้ามีความสามารถหรือไม่”
ผู้อาวุโสหันเป็นเหมือนเสือที่โจมตีฝูงหมาป่า เผชิญหน้ากับยอดฝีมือมากมาย เขาก็ยังคงสงบราวกับน้ำ
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถจัดการผู้อาวุโสหันลงได้ในทันที เย่จิ่งหลานก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดกับหวังซุ่น “คิดหาวิธี ทำให้เจ้าตำหนักทนให้ได้ก่อน ในเครื่องกรองน้ำที่อยู่ถัดจากห้องพยาบาลมีแต่น้ำพุวิญญาณ เจ้ารีบเอามาให้เจ้าตำหนักดื่มก่อน”
“ขอรับ นายท่าน”
หวังซุ่นรีบวิ่งไปที่ห้องพยาบาลทันที
หลังจากติดตามเย่จิ่งหลานมานาน เขาก็รู้ดีกว่าใครๆ ว่าน้ำพุวิญญาณเป็นของที่ดีที่สุด เขาหยิบถ้วยกระดาษที่ใช้แล้วทิ้งออกมา กดน้ำจนแกเต็มแก้ว แล้ววิ่งกลับไปให้กับเจ้าตำหนักจินดื่ม
ชิงผิงและชิงอานยังคงถ่ายทอดพลังชี่ไปให้เจ้าตำหนักจิน
หวังซุ่นคว้าคางของเจ้าตำหนักอย่างรุนแรง บังคับให้เขาดื่มมัน
ชิงผิงและชิงอานมองหน้ากัน พลังวิญญาณอันเข้มข้นนั้นเหมือนกับกลิ่นอายที่ศิลาตอบสวรรค์ปล่อยออกมาทุกประการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...