เย่จิ่งหลานเงยหน้าขึ้น พูดด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ข้ากับเจ้าไม่คุ้นเคยกัน จะให้เจ้าเป็นบ่าวรับใช้ได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าเคยอยู่กับเจ้าสำนักฉุยมาก่อน งั้นก็ควรไปหานาง”
ฉางเฮิ่นเทียนดูเหมือนจะรู้ว่าเย่จิ่งหลานจะไม่รับปาก เขาจึงถอนหายใจและพูดว่า “คุณชายกล่าวถูกแล้ว เป็นข้าที่บุ่มบ่ามเกินไป เช่นนั้นต้องขอตัวลาแล้ว”
ฉางเฮิ่นเทียนโค้งคำนับ แล้วขึ้นไปบนภูเขา
หวังซุ่นเลียนแบบท่าทางของเย่จิ่งหลาน ลูบคางไปมา
“ฉางเฮิ่นเทียนคนนี้มาจากไหน ตอนอยู่ในเป่ยไห่ก็ไม่ค่อยได้เจอ”
เย่จิ่งหลานพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นชาวเป่ยไห่ดั้งเดิม แต่ถึงอย่างไรชาวยุทธ์ที่มีทักษะวรยุทธ์ไม่โดดเด่นมากนัก สามารถติดตามผู้อาวุโสหันได้ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าเขาต้องโดดเด่น เขารั้งอยู่บนเขาได้ ก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน”
หวังซุ่นถามทันทีว่า “นายท่าน คนดั้งเดิมหมายความว่าอย่างไร”
เย่จิ่งหลานยกมือขึ้นสั่นแรงๆ
“หมายถึงคนท้องถิ่น”
หวังซุ่นหัวเราะแหะๆ
“นายท่านใช้คำพูดดีจริงๆ แล้วเราจะไปหาเจ้าตำหนักเหมยคนใหม่ตอนนี้เลยหรือไม่”
“ไปเถอะ จะทิ้งร่างของเจ้าตำหนักไว้ในมิติตลิดไปก็ไม่ได้”
สองนายบ่าวพูดคุยกันสักพัก แล้วจึงเดินไปที่ห้องโถงจื่อชี่ตงไหล
ในเวลานี้ เหมยชิงเกอกำลังนั่งอยู่ในห้องโถง มือข้างหนึ่งวางบนที่จับของเก้าอี้หิน และท่วงท่ากิริยาล้วนมีกลิ่นอายของผู้สูงส่ง
ด้านซ้ายและขวาของนาง คือฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงที่นั่งตามลำดับ
ฉุยอวี้กล่าวว่า “ในเมื่อศิษย์พี่ได้รับตราประทับของตำหนักเทพแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องแจ้งศิษย์ของตำหนักเทพโดยเร็วที่สุด รีบแต่งตั้งตำแหน่งเจ้าตำหนัก เพื่อรักษาเสถียรภาพใจคน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...