เย่จิ่งอวี้ก็เห็นเช่นกัน เรียวตาหงส์เบิกโพลง “นี่คือลางบอกเหตุอะไร?”
อินชิงเสวียนระงับความรู้สึกสับสนวุ่นวายใจ แล้วพูดปลอบใจ “ในสมัยของเราเรียกว่าดาวตก เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติชนิดหนึ่ง อาอวี้ไม่ต้องคิดมาก”
เย่จิ่งอวี้มองอีกครั้ง จากนั้นก็พยักหน้า
เมื่อทั้งสองมาถึงเมือง ท้องฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว
ไป๋เสวี่ยตัวสีขาวและหมาป่าสีขาวที่อยู่ข้างนอกทำให้ผู้คนหวาดกลัว อินชิงเสวียนจึงให้พวกมันรออยู่นอกเมืองก่อน แล้วค่อยผิวปากเป็นสัญญาณ
ประชากรในเมืองไม่มาก แต่เดี๋ยวนี้จู่ๆ ก็มีชาวยุทธ์มาจากภายนอกจำนวนมาก อยู่ๆ ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นมา
ทั้งสองเจอร้านอาหารเล็กๆ ที่เปิดเช้า รับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ แล้วถามว่ามีใครขายบ้านแถวๆ นี้บ้างไหม
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนพูดจามีมารยาท ทั้งยังมอบเงินก้อนหยวนเป่าให้พิเศษ ก็เริ่มสนใจทันที
“ข้ามีบ้านอยู่หลังหนึ่ง แต่ทำเลค่อนข้างไกล บ้านก็นับว่าสะอาดสะอ้าน ถ้าทั้งสองท่านไม่รังเกียจ ข้าจะพาพวกเจ้าไปดูเดี๋ยวนี้”
อินชิงเสวียนพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เช่นนั้นก็ต้องขอบคุณมากเถ้าแก่มาก”
เมื่อพวกเขามาถึงที่พัก อินชิงเสวียนก็รู้สึกชอบที่นี่มาก
บ้านสร้างอยู่ในป่าไผ่ โดยมีดอกท้อบานอยู่ข้างๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น
ในบ้านมีห้องหลัก และห้องด้านข้างสองห้อง ลานบ้านไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก ของตกแต่งภายในดูใหม่พอสมควร และทุกอย่างค่อนข้างสมบูรณ์
เถ้าแก่บอกว่า นี่เป็นบ้านที่เก็บไว้ให้ลูกชายใช้ในงานแต่งงาน ตอนนี้ลูกชายได้เข้าโรงเรียนสอนการต่อสู้ในเมืองหลวงแล้ว ภายหน้าจะต้องสอบติดได้แน่นอน แล้วรับพวกเขาสองคนไปที่เมืองหลวง ดังนั้นบ้านหลังนี้จึงไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร
เย่จิ่งอวี้เอามือไพล่หลังแล้วถามว่า “ไม่ทราบว่าท่านผู้เฒ่าคิดอย่างไรกับโรงเรียนสอนการต่อสู้”
เจ้าของร้านยกนิ้วโป้งขึ้นทันที
“นี่เป็นสิ่งที่ดีมาก ถ้าไม่มีโรงเรียนสอนการต่อสู้ คนจนอย่างเราจะก้าวหน้าได้อย่างไร ได้ยินมาว่านี่มาจากคำแนะนำของฮองเฮา ที่ฮ่องเต้หาผู้หญิงเช่นนี้พบ นับเป็นวาสนาของปวงประชาทั่วทั้งใต้หล้าจริงๆ”
อินชิงเสวียนปิดปากยิ้ม
“แล้วฮ่องเต้ไม่ดีหรือ”
เจ้าของร้านโบกมือซ้ำๆ
“เป็นไปได้อย่างไร นับตั้งแต่ก่อตั้งต้าโจวมา พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ทรงปัญญาที่สุด หากไม่มีฮ่องเต้ ประชาชนอย่างเราจะอยู่เย็นเป็นสุข มีความสุขในการทำงานได้อย่างไร”
เขาหันหน้าไปทางทิศตะวันออกด้วยความศรัทธา ประกบมือคารวะแล้วพูดว่า “ข้าหวังว่าต้าโจวของเราจะเจริญรุ่งเรืองไปอีกหลายชั่วอายุคน ยังหวังว่าฮ่องเต้และฮองเฮาจะแก่เฒ่าไปด้วยกัน บ่มเพาะผู้มีพรสวรรค์ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับต้าโจวของเรา”
เย่จิ่งอวี้ยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย
“คำพูดนี้ของท่านผู้เฒ่า ฮ่องเต้และฮองเฮาจะต้องได้ยินอย่างแน่นอน”
เถ้าแก่ยิ้มแล้วพูดว่า “เช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมที่สุด ข้าต้องไปทำงานที่ร้านแล้ว ไม่รบกวนที่งสองท่านแล้ว”
อินชิงเสวียนหยิบตั๋วเงินหนึ่งร้อยตำลึงออกมาจากมิติ
เถ้าแก่มีสีหน้าตกตะลึง บ้านหลังหนึ่งมีราคาเพียงยี่สิบกว่าตำลึงเท่านั้น เขาตกใจกับตั๋วเงินใบใหญ่เช่นนี้ ทั้งยังไม่มีเงินที่จะทอนให้ด้วย
อินชิงเสวียนรู้ว่าเขาคิดอย่างไร จึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “รับไปเถอะ ข้าชอบเรือนหลังนี้ของท่านมาก ที่เหลือถือเป็นรางวัล นี่เป็นเพราะว่าลูกชายของท่านมีอนาคตจริงๆ เงินที่เหลือนี้ให้นำไปซื้อทรัพย์สินในเมืองหลวง เป็นเรือนหอให้กับลูกชายท่าน”
เถ้าแก่ขอบคุณพวกเขาอย่างตื้นตันใจ คุกเข่าโขกศีรษะให้พวกเขาสองคนสามครั้ง แล้วจึงวิ่งเหยาะๆ ไปพร้อมกับเงิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...