ชายวัยกลางคนนั่งริมหน้าต่าง โบกมือให้เย่จิ่งอวี้
“ทางนี้”
เย่จิ่งอวี้เดินไปอย่างรวดเร็ว กางเสื้อคลุมออก และนั่งลงตรงข้ามเขา
“ต้องให้ผู้อาวุโสรอแล้ว”
ชายวัยกลางคนยิ้มและพูดว่า “การที่คุณชายยอมรับขอทานน้อยไว้ แสดงให้เห็นว่ามีจิตใจเมตตา ข้ารอเจ้าเพียงครู่เดียวเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
เขาหยิบกาสุราขึ้นมา เทสุราให้เย่จิ่งอวี้ด้วยตัวเอง แล้ววางไว้ตรงหน้าเขา
เย่จิ่งอวี้ยกจอกสุราขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง อันแสดงถึงความเคารพ พูดอย่างนอบน้อม “ผู้อาวุโสเกรงใจไปแล้ว เห็นความอยุติธรรมแล้วชักดาบช่วยเหลือ เป็นหน้าที่ที่เราควรกระทำ แม้ว่าคนคนเดียวจะไม่สามารถขจัดความอยุติธรรมในใต้หล้าได้ทั้งหมด แต่เมื่อได้พบเจอ ย่อมไม่ปล่อยผ่านไปอยู่แล้ว”
ดวงตาของชายวัยกลางคนแสดงความชื่นชม
“พูดได้ดี ข้าขอดื่มให้กับประโยคนี้ของคุณชาย”
เขายกจอกสุราขึ้น แล้วเงยหน้าขึ้นดื่มจนหมดจอก ท่วงท่ากล้าหาญเปิดเผย
เย่จิ่งอวี้ก็ตามมาติดๆ ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดจอก
ชายวัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
“คุณชายใจป้ำจริงๆ ข้าจะรินให้เจ้าอีกจอก”
“ขอบคุณผู้อาวุโส”
เย่จิ่งอวี้ลดจอกสุราลง แล้วชนจอกกับชายวัยกลางคน เพื่อแสดงความเคารพต่อผู้อาวุโสกว่า
ทั้งสองดื่มสุราติดต่อกันห้าจอก ต่างฝ่ายต่างไม่เปลี่ยนสีหน้า
พบคนที่ชอบดื่มเหมือนกัน ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต
ชายวัยกลางคนหัวเราะอีกครั้งและพูดว่า “ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันมงคลจริงๆ ทำให้คนแซ่เฮ่อเช่นจ้าได้พบชายหนุ่มรูปหล่อเช่นนี้ ไม่ทราบว่าจะเรียกคุณชายว่าอย่างไร”
ชื่อของฮ่องเต้ไม่ได้เป็นความลับ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็น เย่จิ่งอวี้จึงตั้งนามแฝงขึ้นมา
“ข้าน้อยมีนามว่าอินอวี้ ขอคำนับผู้อาวุโสเฮ่อ ผู้อาวุโสมีทักษะวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม คิดว่าคงฝึกไปถึงขั้นหวนสู่ความเรียบง่ายบริสุทธิ์ คงเป็นผู้ปกครองสำนักใดแน่ๆ แต่ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมาจากสำนักใหญ่ใดหรือ หากมีโอกาสในอนาคต ผู้เยาว์ต้องไปแสดงความเคารพอย่างแน่นอน”
เฮ่อยวนหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ข้าไม่ได้มาจากสำนักใหญ่ที่มีชื่อเสียงแต่อย่างใด และก็ไม่ใช่ผู้ปกครองอะไรนั่นด้วย ข้าเป็นเพียงคนธรรมดา เกรงว่าจะทำให้คุณชายผิดหวัง”
ชื่อเสียงของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงนั้นยิ่งใหญ่มาก จนหากเขาประกาศชื่อที่นี่ ชาวยุทธ์ทั้งหมดในห้องนี้ จะหนีหายไปกันหมด
เป็นเรื่องยากที่เฮ่อยวนจะพบกับคนรุ่นหลังที่เขานิยมชมชอบมากเช่นนี้ จึงไม่ต้องการทำให้เขาตกใจกลัว
เย่จิ่งอวี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน ในเมื่อทุกคนต่างก็ปิดยังซ่อนเร้น เช่นนั้นก็นับว่ายุติธรรม
“ในฐานะคนธรรมดา แต่กลับสามารถยืนหยัดได้โดยไม่เกรงกลัวอำนาจ ผู้อาวุโสสมควรได้รับความเคารพอย่างแท้จริง จอกนี้ ข้าขอคารวะต่อผู้อาวุโส”
จอกสุราของพวกเขากระทบกันอีกครั้ง จากนั้นก็ยกดื่มรวดเดียวหมด
เฮ่อยวนไม่ได้ใช้กำลังภายในดึงฤทธิ์สุราออก ใบหน้าจึงแดงก่ำเล็กน้อย เขามองไปที่เย่จิ่งอวี้แล้วถามว่า “จากสำเนียงของคุณชาย ดูเหมือนว่าเขาไม่ใช่คนท้องถิ่น มาที่นี่เพื่อเยี่ยมญาติ หรือแค่มาเที่ยวสนุก?”
เย่จิ่งอวี้ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ถือว่าเป็นการเยี่ยมญาติ เกรงว่าอยู่อีกไม่นาน ก็จะกลับเมืองหลวงแล้ว”
“ที่แท้คุณชายมาจากเมืองหลวง มิน่าเล่าถึงได้มีรัศมีที่ไม่ธรรมดา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...