ฉีอวิ๋นจื่อจ้องมองด้วยตาข้างเดียว มองไปยังสถานที่ที่เฮ่อยวนหายตัวไปด้วยสายตาเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
แค่เหมยชิงเกอเสียชีวิตไปคนเดียว เขากลับคิดจะสละทางสู่วิถีแห่งสวรรค์จริงไป ผู้ชายแบบนี้ ช่างทำให้นางผิดหวังจริงๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเหมยชิงเกอยังไม่ตาย ถ้าเฮ่อยวนรู้เรื่องนี้ เกรงว่าแม้แต่อิ๋นเฉิงก็ยินดีจะมอบให้คนอื่นไป
ได้ยินมาว่าสถานที่จัดการประลองยุทธ์ครั้งนี้ ถูกกำหนดให้จัดอยู่ที่ตำหนักเทพหอทองคำ เฮ่อยวนต้องสืบข่าวเรื่องเหมยชิงเกอแน่ๆ ดูเหมือนว่านางจะต้องกลับไปที่ตำหนักเทพ ไปพบกับผู้อาวุโสหันสักครั้ง
ขณะที่ยังฟ้ายังไม่สว่างเต็มที่ ฉีอวิ๋นจื่อมองไปรอบๆ และเดินเข้าไปในป่าหมอกอย่างรวดเร็ว
เมื่อมาถึงตลาด ฉีอวิ๋นจื่อมีรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไป ตอนนี้นางดูเหมือนอายุสามสิบกลางๆ แม้ว่าใบหน้าจะมีริ้วรอยแห่งวัยเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากใบหน้า หากเด็กกว่านี้สักสิบปี ความงดงามของนางคงมิอาจทำให้ใครลืมเลือน
นางเดินไปรอบๆ ตลาดเหมือนคนธรรมดา และไม่นานก็เดินออกจากเมืองเล็ก
หลังจากออกจากเมือง ฉีอวิ๋นจื่อก็ใช้วิชาตัวเบา ตรงไปที่ยอดเขาบรรจบสวรรค์ในตำหนักเทพ
เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว ผู้คนภายใต้ดวงอาทิตย์ต่างก็งัวเงีย ศิษย์หลายคนที่เฝ้าประตูภูเขากำลังงีบหลับพิงกำแพง เมื่อพวกเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมาจากระยะไกล ก็เอ่ยขึ้นทันที “ถนนสายนี้ถูกปิดกั้น ไปที่อื่นเถอะ”
ฉีอวิ๋นจื่อล้วงเอาป้ายตราคำสั่งออกมาจากแขนเสื้อ แล้วพูดเรียบๆ “ข้าอยากพบผู้อาวุโสหัน”
ศิษย์มองไปที่ป้ายตราคำสั่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผู้อาวุโสหันตายแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพบอีก”
ฉีอวิ๋นจื่อสะดุ้งเล็กน้อย
“เจ้าพูดอะไร?”
ศิษย์อีกคนกล่าวว่า “เกรงว่าเจ้ายังไม่รู้ ผู้อาวุโสหันได้กระทำความผิดมากมาย สังหารเจ้าตำหนักจิน ตอนนี้ถูกเจ้าตำหนักคนใหม่สังหารแล้ว”
ฉีอวิ๋นจื่อถามทันที “ใครคือเจ้าตำหนักคนใหม่”
ศิษย์ที่พูดก่อนหน้านี้กล่าวว่า “เจ้าตำหนักคนใหม่คือเหมยชิงเกอ ศิษย์สายตรงของเจ้าตำหนักจิน”
ฉีอวิ๋นจื่ออดไม่ได้ที่จะผงะถอยหลังด้วยความตกใจ
เหมยชิงเกอ มันเป็นไปได้อย่างไร
นังสารเลวนี่ขึ้นเป็นเจ้าตำหนักแล้วจริงๆ งั้นหรือ งั้นที่นางอดทนลำบากมานานหลายปี หมายความว่าอย่างไร
นางระงับความขุ่นเคืองในใจ พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ถ้าอย่างนั้นก็ส่งข่าวแทนข้าที บอกว่าฉีอวิ๋นจื่อ กลับมาแล้ว”
ศิษย์หลายคนที่เฝ้าประตูภูเขาอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แม้ว่าพวกเขาจะอยู่บนภูเขามาไม่กี่ปี แต่เคยได้ยินชื่อของฉีอวิ๋นจื่อ รู้ว่านางเป็นศิษย์คนที่สองของเจ้าตำหนักจิน ทั้งยังเห็นป้ายตราคำสั่งของตำหนักเทพ จึงไม่กล้าละเลย รีบส่งคนขึ้นไปบนภูเขาเพื่อรายงานทันที
เหมยชิงเกออยู่ในห้องของฉุยอวี้ กำลังรักษาอาการบาดเจ็บให้นางอยู่
ด้วยน้ำพุวิญญาณของอินชิงเสวียน ทำให้ฉุยอวี้ฟื้นขึ้นแล้ว แต่อาจต้องใช้เวลาสักพักจึงจะฟื้นตัวเต็มที่
ขณะที่ทำงานเสร็จ เสียงของลูกศิษย์ก็ดังขึ้นนอกประตู
“รายงานเจ้าตำหนัก มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างว่าเป็นฉีอวิ๋นจื่อ ขอเข้าอยู่อยู่ด้านนอกประตูขอรับ”
“อะไรนะ นางบอกว่านางชื่อฉีอวิ๋นจื่อจริงๆ หรือ”
เหมยชิงเกอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
ฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงก็เบิกตากว้างเช่นกัน แม้ว่าทั้งคู่จะรู้ว่าฉีอวิ๋นจื่ออาจจะไม่ตาย แต่เรื่องนั้นมันคนละเรื่องกับที่นางกลับมาด้วยตนเอง
“เป็นนางจริงๆ คิดไม่ถึงว่านางจะยังมีชีวิตอยู่ อวิ๋นลี่ เจ้าดูแลฉุยอวี้นะ ข้าจะลงเขาไปรับนาง”
ฉุยอวี้คว้าแขนเสื้อของเหมยชิงเกอทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...