จู่ๆ อินชิงเสวียนก็นึกถึงหนังโบราณที่ตัวเองเคยดู ซึ่งดูเหมือนจะมีคำพูดที่ว่าให้หยุดอาบน้ำสามวันทุกเดือน
จึงพูดปฏิเสธทันที “ข้าเหนื่อยมาก พวกเจ้าไปอาบเถอะ”
นางใช้น้ำพุวิญญาณอาบน้ำทุกวัน ร่างกายของนางสะอาดอย่างมาก
อีกอย่าง นางไม่สามารถอาบน้ำพร้อมขันทีเป็นโขยงได้ หากถูกคนอื่นพบว่านางเป็นผู้หญิง เดี๋ยวความจะแตกเอาได้
“เพราะเหนื่อยถึงต้องไปอาบไงเล่า แช่ตัวในอ่างให้สบาย เป็นการกำจัดความเหนื่อยได้ดีที่สุดแล้ว”
เสียงของหลี่เต๋อฝูดังมาจากด้านหลัง ดวงตาเล็กๆ คู่หนึ่งมองดูนางด้วยรอยยิ้มที่ไม่เหมือนรอยยิ้ม โดยมีเจตนาชั่วร้ายแฝงอยู่เล็กน้อย
จู่ๆ อินชิงเสวียนก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา ตาเฒ่านี่ต้องจงใจแน่นอน
และเมื่อนึกได้ว่าหลี่เต๋อฝูรู้จักกับเจ้าของร่างเดิมก็ใจเต้นขึ้นมา
เขาต้องสงสัยอย่างแน่นอน และแย่ไปกว่านั้นคือ ไม่แน่ว่าเขาอาจสังสัยเสี่ยวหนานเฟิงด้วยเช่นกัน
ถ้ารู้ว่าชายชราคนนี้เจ้าเล่ห์มากเช่นนี้ ก็ควรให้ไทเฮานางแม่มดเฒ่าผู้ชั่วร้ายจัดการไปแล้ว
แต่ปากกลับยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณในความเป็นห่วงของหลี่กงกง ข้าไม่ต้องการจริงๆ และร่างกายของข้าก็ผิดแผก จึงไม่ใคร่อาบน้ำร่วมกับเพื่อนๆ”
หลี่เต๋อฝูยิ้มตาหยีมองนาง “กลัวอะไร ทุกคนล้วนไม่สมบูรณ์แบบ คุ้นชินไว้ก็ดี อย่างที่เรียกว่าตอนแรกไม่สนิทกัน เจอกันครั้งต่อไปก็จะสนิทขึ้นไม่ใช่หรือ ไม่ช้าก็เร็วเราจะต้องซื่อสัตย์ต่อกันสักวันหนึ่ง”
ซื่อสัตย์บ้านแกสิ!
อินชิงเสวียนแอบชูนิ้วกลางในใจ
เสี่ยวอานจื่อก็ได้ดึงแขนอินชิงเสวียนและพูดว่า “ท่านอาจารย์พูดถูก เจ้าไม่ต้องเขินอายอะไรเลย อีกเดี๋ยวข้าจะขัดหลังให้เจ้า และเจ้าค่อยขัดหลังให้ข้า”
เสี่ยวอานจื่อเป็นคนค่อนข้างซื่อ ในเมื่อยอมรับอินชิงเสวียนเป็นพี่น้อง เมื่อได้ทำสิ่งดีๆ ก็คิดจะพาเขาไปด้วยเสมอ การพักผ่อนสามวันของทุกเดือน ถือเป็นเรื่องประเสริฐสุดสำหรับเหล่าคนใช้อย่างพวกเขา
อินชิงเสวียนผลักเสี่ยวอานจื่อออก พูดขึ้นด้วยสีหน้าคัดค้าน “ข้าไม่ไปแล้วจริงๆ อีกครู่หนึ่งข้ายังต้องออกไปทำธุระอีก”
“วันนี้ฝ่าบาทก็หยุดพักผ่อนแล้ว เจ้ายังต้องยุ่งกับสิ่งใดอีก รีบไปกับข้า”
เสี่ยวอานจื่อเรียกขันทีน้อยคนหนึ่ง ดึงอินชิงเสวียนออกจากวังโดยไม่เอ่ยคำใด
เย่จิ่งอวี้กำลังออกไปด้านนอก เมื่อเห็นฝ่าบาท เสี่ยวอานจื่อตกใจเสียจนรีบก้มศีรษะลง
“กระหม่อมขอคารวะฝ่าบาท”
“ไปทำอะไร”
เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้ว สายตาของเขามีความไม่พอใจในจากการฉุดดึงของคนเหล่านี้
เสี่ยวอานจื่อพูดขึ้นอย่างเคารพ “พรุ่งนี้วันหยุด กระหม่อมอยากพาเสี่ยวเสวียนจื่อไปอาบน้ำพ่ะย่ะค่ะ”
เย่จิ่งอวี้มองสีหน้าที่ไม่พอใจของอินชิงเสวียน เมื่อนึกถึงภาพของบ่าวตัวน้อยและเหล่าขันทีที่ร่างกายเปลือยเปล่า คิ้วก็ขมวดแน่นขึ้นเล็กน้อย ในใจรู้สึกไม่ชอบอย่างประหลาด
“ในเมื่อเสี่ยวเสวียนจื่อไม่ยินยอมก็ช่างเสีย คืนนี้อากาศเย็นสบายพอดี ออกไปเดินจูงสุนัขกับข้าสิ”
หลี่เต๋อฝูร้อนรนในทันที นี่ไม่ใช่โอกาสที่จะมีได้ง่ายๆ นะ
“ฝ่าบาท ให้กระหม่อมไปกับพระองค์ดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”
เย่จิ่งอวี้พูดขึ้นเสียงเรียบ “ไม่จำเป็น เจ้าเหนื่อยมาทั้งเดือนแล้ว ควรจะพักผ่อนได้แล้วล่ะ ข้ายังหวังให้เจ้าอยู่กับข้าอีกหลายปีเชียวนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ความโกรธของหลี่เต๋อฝูก็หายไปในพริบตา น้ำตาแห่งความซาบซึ้งแทบไหลออกมา ฝ่าบาททรงดีต่อเขาเหลือเกิน
คุกเข่าลงด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในทันที
“เช่นนั้นกระหม่อมจะทำตามพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
“ลุกขึ้นเถอะ ปล่อยตัวไป๋เสวี่ยออกมา”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ครู่ต่อมา เงาสีขาวก็วิ่งออกมาจากห้องโถงด้านข้าง ราวกับม้าป่าที่หลุดออกจากบังเหียน และกระโจนเข้าใส่เย่จิ่งอวี้ จากนั้นก็กระโดดไปรอบๆ แล้วกระโจนใส่อินชิงเสวียน
อินชิงเสวียนเกือบล้มลงกับพื้น และอดไม่ได้ที่จะดึงหูใหญ่ของไป๋เสวี่ย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...