สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1307

ฮวาเชียนหยิบภาพวาด แล้วเหล่าลูกศิษย์สองสามคนออกจากกลุ่มขบวน ไม่ไกลนัก ชายวัยกลางคนที่มีท่าทางดุร้ายก็กระโดดออกมาจากตรอกข้างๆ กอดลูกศิษย์ที่ติดกระดาษวาดรูป และกัดที่ไหล่อย่างแรง

ศิษย์คนนั้นเจ็บปวด จึงหันกลับมาและเตะชาวยุทธ์คนนั้นออกไป

ดวงตาของเขาแดงก่ำ ลุกขึ้นด้วยท่าทางแปลกๆ

ศิษย์ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

“อาจารย์อาฮวา เขา...”

ฮวาเชียนก็ตกใจเช่นกัน นี่คือวรยุทธ์แบบไหน ทำไมมันถึงชั่วร้ายขนาดนี้

ชักกระบี่ยาวออกมาจากฝักเสียงดังเกรียวกราว และแทงเข้าที่หน้าอกของคนผู้นั้น

คนผู้นั้นกระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นปากที่เปื้อนเลือดพุ่งเข้าไปหาพวกเขาอีก

ฮวาเชียนก็ตกใจอีก สถานการณ์ที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่เบื้องหน้านี้ ดูน่ากลัวยิ่งกว่าผีแคระในตงหลิวด้วยซ้ำ

ในเวลานี้ มีกระบี่อีกเล่มหนึ่งพุ่งออกมาตัดศีรษะของคนผู้นั้น

ฮวาเฉียนประกบมือกล่าวคำขอบคุณ

“ขอบคุณคุณชายอินที่มาช่วย”

อินสิงอวิ๋นคารวะตอบ

“เล็กน้อยเท่านั้น ผู้อาวุโสฮวาไม่ต้องเกรงใจ”

เจ้าสำนักเซี่ยวลอยลงจากหลังม้าแล้ว เขาเหลือบมองคนผู้นั้น หลับตาสัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ที่นี่แปลกมาก ดูเหมือนจะไม่มีคนมีชีวิตอยู่ในเมืองนี้”

เซี่ยวอิ่นหวนก็ลงตามมา รู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างแปลกตา

“ท่านพ่อระวังด้วย ที่นี่มีกลิ่นคาวเลือดแรง คงเพิ่งเกิดเรื่องขึ้นไม่นาน”

เจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้า

“ตอนนี้อย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้ เรามาช้าไปหลายเดือนแล้ว รีบตามหาชิงเสวียนกับจ้าวเอ๋อร์ดีกว่า ในเมื่อแน่ใจแล้วว่าพวกเขาอยู่ในตำหนักเทพ เช่นนั้นก็ไปที่ยอดเขาบรรจบสวรรค์ก่อน กลับมาแล้วค่อยสืบเรื่องนี้”

หลังจากออกจากเป่ยไห่แล้ว เจ้าสำนักเซี่ยวก็ไปตามหาสหายเก่านักพรตเทียนจี เพื่อค้นหาวิธีขจัดวิชาฝังโลหิตของหลานชาย ในที่สุดก็ไม่ผิดหวัง และพาคนมาที่นี่

เนื่องจากการเดินทางอันยาวนาน ประกอบกับนักพรตเทียนจีที่เก็บตัวบำเพ็ญเพียร ทำให้ล่าช้าเป็นเวลานาน และอินสิงอวิ๋นไม่ใช่ชาวยุทธ์ การที่จะตามหาสำนักสันโดษนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่าย

ด้วยดวงตาที่มืดมน เขาค้นหาสำนักเสียงศักดิ์สิทธิ์อย่างยากลำบากแต่ก็ไม่ได้ผล ได้สอบถามไปมากมาย ใช้เวลาไปมากเช่นกัน หากฮวาเชียนไม่ได้ออกจากหุบเขาไปซื้อสุรา เกรงว่าอินสิงอวิ๋นต้องกลับบ้านแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์