สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1357

เหมยชิงเกอเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นให้เฮ่อฉางเฟิงฟังอย่างสั้นๆ และกระชับ คนเหล่านี้มีระดับฌานตบะที่สูงมาก และมีความเชี่ยวชาญในการสร้างค่ายกล

เฮ่อฉางเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

“คิดไม่ถึงว่าจะมียอดฝีมือเช่นนี้ในยุทธจักร หากเป็นเช่นนั้น งั้นก็ให้คุณชายหลิวรั้งอยู่ที่นี่ เขาเชี่ยวชาญวิชาค่ายกล อาจสามารถช่วยได้”

แม้ว่าหลิวซือจวินต้องการกลับไปที่อิ๋นเฉิง เพื่อไปพบกับเฮ่อยวน แต่เฮ่อฉางเฟิงพูดขนาดนี้แล้ว นางก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

จึงพยักหน้าและพูดว่า “สหายเฮ่อวางใจ ถ้าเผชิญหน้ากับค่ายกล ข้าจะช่วยผู้อาวุโสทุกท่านทำลายค่ายกลอย่างแน่นอน”

“รบกวนแล้ว”

เฮ่อฉางเฟิงไม่พูดอะไรอีก ขึ้นหลังม้าแล้วสะบัดแส้จากไป

ในโรงเตี๊ยม เย่จิ่งหลานถอนหายใจ

“นักพรตรู้ทั้งรู้ว่ามีญาติและเพื่อนของข้าอยู่ข้างนอกหมด แล้วทำไมเขาถึงเลือกมาที่นี่ในเวลานี้”

ความหมายที่ชัดเจนคือ เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนต้องไม่มีทางเฝ้าดูเขาถูกนำตัวไปที่แดนศักดิ์สิทธิ์โดยไม่ทำอะไรอย่างแน่นอน

นักพรตเทียนชิงหัวเราะเบาๆ ลูบหนวดเคราสีขาวราวหิมะแล้วพูดว่า “อาตมภาพไม่ได้มาที่นี่เพื่อพาเจ้าไป ทุกวันนี้ยุทธภพกำลังประสบปัญหา ตอนนี้เมื่ออาตมภาพได้เข้ามาในยุทธภพแล้ว จะต้องทำหน้าที่คุ้มครองความปลอดภัยของต้าโจว เมื่อยุติลงแล้ว ค่อยจากไปก็ยังไม่สาย”

ดวงตาของเย่จิ่งหลานก็สว่างขึ้นทันที

“เรื่องนี้จริงหรือ”

นักพรตเทียนชิงพยักหน้า

“อาตมภาพขอรับรองด้วยชื่อเสียงของแดนศักดิ์สิทธิ์”

เย่จิ่งหลานโค้งคำนับ

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณนักพรตมาก”

เนิ่นนานขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขามีความประทับใจที่ดีต่อนักพรตเต๋าหมวกจมูกวัว

“คุณชายน้อยเย่เกรงใจไปแล้ว ข้าได้พูดไปหมดแล้ว เช่นนั้นต้องขอตัวก่อน”

นักพรตเทียนชิงยังพูดไม่ทันขาดคำ ร่างนั้นก็หายตัวไป แม้แต่อินชิงเสวียนที่ยืนอยู่ที่ประตูก็สังเกตไม่ทันว่าเขาจากไปอย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์