สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1378

ลั่วสุ่ยชิงขมวดคิ้ว เดินตามไปติดๆ

“เมื่อกี้สถานที่แห่งนั้น อยู่ที่ไหน”

เย่จิ่งหลานเหลือมองไปด้านข้างแล้วยิ้ม “เจ้าเดาดูสิ?”

เมื่อเห็นท่าทางที่เอื่อยเฉื่อยของเขา ลั่วสุ่ยชิงก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่นางก็สะกดกลั้นอารมณ์ไว้

“หรือจะเป็นของวิเศษอย่างแหวนพระสุเมรุ ที่มีถ้ำอยู่ข้างใน?”

เย่จิ่งหลานพยักหน้า

“เดาได้ใกล้เคียง”

หลังจากที่เขาพูดจบ ก็พูดด้วยรอยยิ้มกึ่งจริงจัง “เจ้าคงไม่โลภอยากได้ของรักของข้ากระมัง เจ้ากำลังคิดที่จะฆ่าคนขโมยของอยู่แล้ว?”

ลั่วสุ่ยชิงแค่นเสียงหึอย่างเย็นชา

“คุ้มค่าหรือ”

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้น ผู้หญิงที่มีคุณธรรมอย่างแม่นางชิงจะทำแบบนั้นได้อย่างไร ล้อเล่นน่า อย่าสนใจเลย”

เย่จิ่งหลานหัวเราะอย่างมีความสุข เดินไปข้างหน้า

ลั่วสุ่ยชิงเหลือบมองเขา แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้น เม้มริมฝีปากอย่างแรง ท่าทางแบบเด็กสาวเช่นนั้น ไม่ควรปรากฏในตัวของนาง

ทันใดนั้นก็นึกถึงสองครั้งที่นางใช้คาถาล่อลวงเย่จิ่งหลาน สีหน้าของนางก็ดูจะไม่เป็นธรรมชาติชอบกล

แม้ว่านางจะไม่ได้รับผลกระทบจากมโนภาพ แต่พฤติกรรมในมโนภาพ ก็ถูกกำหนดโดยนางเอง

ศาสตร์เงาฝันแบบนี้ไม่มีใครหยุดยั้งได้ เชื่อว่าเย่จิ่งหลานจะไม่มีข้อยกเว้น แม้ว่านางจะไม่เคยมีประสบการณ์กับใครเลย แต่นางก็มาจากราชวงศ์ ดังนั้นนางจึงพอรู้เรื่องเหล่านี้อยู่บ้าง...

ลั่วสุ่ยชิงชะลอฝีเท้าลง ขับไล่ความคิดเหล่านี้ออกจากใจอย่างรวดเร็ว เมื่อคิดถึงลูกหลานของแคว้นเฟยเหยา ก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้ง

ต้องหาผู้บัญชาการซูโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำผิดพลาดครั้งใหญ่

แม้ว่าจะมีการแก้แค้น แต่เป้าหมายก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีทางป้องกันเหล่านี้

หลังจากคิดทบทวนอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงใครบางคนร้องไห้ “อย่าปล้นเงินของข้าไป ครอบครัวของเราต้องพึ่งพาเงินเพียงเล็กน้อยนี้เพื่อความอยู่รอด”

“ไปให้พ้น ข้าสนใจเงินของเจ้า ถือเป็นเกียรติของเจ้าแล้ว หากกล้าพูดพล่ามอีก ข้าจะส่งเจ้าไปพบยมบาลเดี๋ยวนี้”

ลั่วสุ่ยชิงเคลื่อนกายหลบหลีกเหาะผ่านไปแล้ว ก็เห็นผู้ชายมีหนวดเครากำลังซ้อมผู้หญิงวัยกลางคนที่สวมผ้าปิดตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์