บทที่ 1383 รวมกันเราเป็นดั่งกองไฟที่โชติช่วง – ตอนที่ต้องอ่านของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตอนนี้ของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ โดย GoodNovel ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนติกทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1383 รวมกันเราเป็นดั่งกองไฟที่โชติช่วง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ใบหน้าของเย่จั้นเต็มไปด้วยความสุข กล่าวชมเชยอย่างเต็มปากเต็มคำ “สมแล้วที่เป็นสตรีจากตระกูลอิน ฉลาดหลักแหลมเกินคนจริงๆ”
อินหลีหน้าแดงเล็กน้อย
“ข้าไม่หลักแหลมเท่าชิงเสวียน ทั้งยังเกี่ยวข้องกับกิจการบ้านเมือง ทุกอย่างต้องทำด้วยความระมัดระวัง ท่านถือเสียว่าเป็นข้อเสนอแนะเท่านั้นก็พอ แล้วค่อยหารือกับจอมพลกวนกับพี่ใหญ่ของข้าก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกที”
เย่จั้นยืนขึ้นและพูดว่า “ไม่มีใครมีความคิดที่ดีไปกว่าอาหลีแล้วล่ะ ข้าจะกลับไปที่ห้องหนังสือแล้ว”
“อืม”
อินหลีมองส่งเย่จั้นออกไปด้วยสายตาหวานซึ้ง รู้สึกมีความสุขที่สามารถช่วยเขาแก้ปัญหาได้
จากนั้นถอนหายใจเบาๆ ไม่รู้ว่าฮ่องเต้กับชิงเสวียนจะปลอดภัยดีหรือไม่ แค่หวังว่าเรื่องนี้จะจบลงในไม่ช้า ผู้คนในใต้หล้าจะมีความสงบสุข...
วันรุ่งขึ้น
เย่จั้นสวมหน้ากากของเย่จิ่งอวี้ไปประชุมเช้าในราชสำนัก สองอาหลานมีสัดส่วนเท่ากัน มีรูปร่างคล้ายกันมาก นอกจากนี้ทั้งสองยังกำเนิดในราชสกุล บารมีแห่งราชสกุลนี้ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งแกล้งทำเลย
ตอนนี้เมื่อสวมใส่ใบหน้านี้ ยิ่งยากที่จะแยกแยะว่าเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม นอกจากกวนฮั่นหลินกับอินจ้งแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าผู้ที่ประทับอยู่ในตำหนักจินหลวนจะเป็นอ๋องอาภรณ์ขาวแห่งสงครามคนปัจจุบัน
เย่จั้นถือเสื้อคลุมมังกร นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรอย่างสง่างาม ดวงตาพยัคฆ์คู่นั้นกวาดสายตามองเหล่าขุนนางในห้องโถงจนทั่ว
“พวกท่านคงทราบแล้ว ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ทหารจำนวนมากในเมืองหลวงได้หายตัว ข้าได้สืบพบเบาะแสแล้ว คนเหล่านี้คือกากเดนของแคว้นเฟยเหยา บัดนี้นี้ราชาแห่งแคว้นเฟยเหยาได้ปรากฏตัวที่เทือกเขาเชื่อมเมฆาแล้ว พวกเขาคงจะมุ่งหน้าไปที่นั่น ข้าจึงวางแผนที่จะระดมกองทัพสองแสนนาย มุ่งหน้าไปยังเทือกเขาเชื่อมเมฆาเพื่อปิดล้อมและปราบปรามกลุ่มกบฏเหล่านี้”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทั้งห้องโถงก็ตกตะลึง
ทุกคนไม่เคยได้ยินชื่อแคว้นเฟยเหยาสามคำนี้มาก่อน ต่างอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“แคว้นเฟยเหยาอยู่ที่ไหน”
“ใช่ ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน”
ตามที่เย่จั้นคาดไว้ ฟ้ายังไม่ทันมืด ก็จับตัวเหล่าขุนนางที่ทำตัวลับๆ ล่อๆ หลายคนที่พยายามจะแอบออกจากเมืองได้
เจวี๋ยอิ่งให้หน่วยองครักษ์เงาส่งคนเหล่านี้เข้าไปในวัง ส่วนตัวเองและองครักษ์เงาคนอื่นๆ ก็รวมตัวเข้ากับฝูงชนอย่างเงียบเชียบอีกครั้ง
ทั่วทั้งยุทธภพ
สำนักต่างๆ ในยุทธจักรยังได้รับข้อความจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ เฮ่ออวิ๋นทงจากสำนักกระบี่สังหารได้เรียกรวมตัวศิษย์ทั้งหมดทันที และเดินทางไปที่เทือกเขาเชื่อมเมฆา และพาตัวศิษย์ในสำนักที่คลุ้มคลั่งหลายคนไปด้วย
สำนักเทียนหยวนก็ตามไปติดๆ เก่อหงยวนก็เต็มใจรับผิดชอบโดยไม่ลังเล เรื่องครึกครื้นงานนี้ นางต้องเข้าไปร่วมแน่นอน
หลังจากรู้ว่าทั้งสองสำนักหลักออกจากภูเขาแล้ว สำนักอื่นๆ ก็จัดขบวนอย่างรวดเร็ว อย่าดูแค่ว่าในชีวิตประจำวันพวกเขาจะต่อสู้กันอย่างดุเดือด แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน สู้กันโดยไม่สนใจวิธีการ แต่ถ้าเผชิญหน้ากับเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้บ้านเมืองสั่นคลอนจริงๆ พวกเขาก็จะสามารถวางอาวุธและร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรูร่วมกันได้
ดังสุภาษิตที่ว่า รวมกันเราเป็นดั่งกองไฟที่โชติช่วง แยกกันเราคือดวงดาวส่องสว่างเต็มท้องฟ้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...