สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1401

“ในที่สุดก็เต็มใจที่จะปรากฏตัวแล้วงั้นรึ ราชาแคว้นเฟยเหยา?”

เสียงของอินชิงเสวียนสงบ ไม่แปลกใจหรือขุ่นเคือง ยังเปี่ยมไปด้วยท่วงท่าของมารดาแห่งแคว้นที่ยิ่งใหญ่

ลั่วสุ่ยชิงเดินออกจากเงามืด ดวงตาชัดเจน ร่างสูงโปร่ง พร้อมด้วยความกล้าหาญที่ไม่ด้อยไปกว่าบุรุษเพศ

“คิดว่าเจ้าคงรู้ตัวตนของข้ามานานแล้ว เช่นนี้แล้ว เหตุใดจึงต้องเสแสร้งพูดจาอ้อมโลกด้วยเล่า”

อินชิงเสวียนยิ้มเล็กน้อย

“เจ้าพูดผิดแล้ว ไม่ใช่การเสแสร้งพูดจาอ้อมโลก ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบ ข้าถือว่าเจ้าเป็นเพื่อน ความใจกว้างและไม่ยึดติดของเจ้า หาได้ยากในหมู่สตรียุคนี้ ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงเข้าใจและเห็นใจ ไม่ได้โกรธเคืองที่เจ้าทำเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ ทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

“ที่ข้าจะฟื้นฟูแคว้นเป็นความผิดอย่างไร”

ลั่วสุ่ยชิงจ้องมองนาง กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“เพราะการฟื้นฟูแคว้นไม่ใช่ความรับผิดชอบของเจ้าเพียงผู้เดียว สงครามระหว่างทั้งสองแคว้นเกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายของคนนับหมื่น นี่คือการเข่นฆ่าสังหาร”

อินชิงเสวียนก้าวไปข้างหน้า ยืนอยู่ตรงข้ามกับลั่วสุ่ยชิง ทั้งสองเป็นสตรีที่งดงามหยาดเยิ้ม ทั้งสง่างามสูงส่ง แต่ละคนมีข้อดีของตัวเอง

“แม้ว่าเย่จิ่งอวี้จะเป็นฮ่องเต้แห่งต้าโจว แต่เขาไม่ใช่คนที่ทำร้ายแคว้นเฟยเหยา หลังจากการเปลี่ยนแปลงนับพันปี ต้าโจวในปัจจุบันก็ไม่ใช่ต้าโจวในอดีตอีกต่อไป ดังคำกล่าวที่ว่า กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมสนอง แม้ว่าแม่นางลั่วต้องการล้างแค้นให้กับราชวงศ์เฟยเหยา แต่เป้าหมายก็ไม่ควรเป็นเรา”

ลั่วสุ่ยชิงแค่นเสียงขึ้นจมูก

“ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาในตอนนั้น จะมีพวกเจ้าในตอนนี้ได้อย่างไร”

ริมฝีปากของอินชิงเสวียนยกขึ้นเล็กน้อย

“แล้วถ้า...ข้าไม่ได้มาจากพวกเขาล่ะ มีคุณสมบัติที่จะเกลี้ยกล่อมเจ้าได้หรือไม่”

ลั่วสุ่ยชิงตกใจเล็กน้อย

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์