สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1412

เย่จิ่งอวี้ตกตะลึงเล็กน้อย

“เสวียนเอ๋อร์หมายความว่าอย่างไร หรือว่าเจ้าค้นพบอะไรบางอย่าง”

อินชิงเสวียนส่ายศีรษะ

“ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการคาดเดาตามคำพูดของชิงฮุยเท่านั้น ส่วนที่เหลือ เป็นเพียงความรู้สึก แม้ว่าคำพูดเช่นนี้จะลึกลับไปหน่อย แต่ในบางครั้งสัมผัสที่หกของผู้หญิงก็มีความแม่นยำมาก”

เย่จิ่งอวี้ขมวดคิ้ว

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เจตนาของเขาคงไม่ใช่แค่การกอบกู้แคว้นธรรมดา?”

หากคนหนึ่งสามารถทนได้นานขนาดนี้ และวางแผนได้นานขนาดนี้ แค่แคว้นแคว้นหนึ่งจะทำให้เขาพอใจได้จริงหรือ

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่จิ่งอวี้ อินชิงเสวียนก็ใจเต้นรัว

“แล้วเขาต้องการอะไรล่ะ?”

“ไม่รู้”

เย่จิ่งอวี้ตอบชัดเจนในทันที

อินชิงเสวียนกลอกตามองบนอย่างพูดไม่ออก

“ท่านสามารถตั้งสมมติฐานได้ ลองคิดแบบกล้าๆ ดู”

เสี่ยวหนานเฟิงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่จิ่งอวี้ ใบหน้าเล็กๆ ฝังอยู่ในอกของพ่อ ทั้งสองคนใช้วิชาตัวเบา อัตราความเร็วย่อมไม่ช้าอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูเขาที่มีลมแรง เย่จิ่งอวี้ยกแขนเสื้อขึ้นกันเขาไว้ตลอดเวลา

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เจ้าเด็กอ้วนก็อดไม่ได้ที่จะยื่นหัวเล็กป้อมออกมา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้ารู้ เขาอยากเป็นเซียน”

อินชิงเสวียนยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย แล้วลูบหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน

“เรื่องนี้พวกนี้เจ้าไปรู้มาจากไหน เจ้าเข้าใจไหมว่าเทพเซียนคืออะไร”

เสี่ยวหนานเฟิงพูดอย่างจริงจัง “เข้าใจสิ ก็ที่ลอยไปมาบนฟ้าเหมือนผีเสื้ออย่างไรล่ะ”

ทั้งคู่ต่างรู้สึกขบขันกับคำพูดเหมือนเด็กของลูกชาย

อย่างไรก็ตาม คำตอบนี้ไม่น่าเชื่อถืออย่างเห็นได้ชัด

คนธรรมดาจะกลายเป็นเซียนได้อย่างไร

ขณะเดียวกัน ทั้งคู่ก็มีคำตอบที่แย่ที่สุดในใจเช่นกัน

ถ้าชิงฮุยไม่เพียงแต่ต้องการกอบกู้แคว้นเท่านั้น เช่นนั้นก็คงอยากจะทำลายล้างชาวต้าโจวให้สิ้นซาก

และสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดก็คือ สหายชาวยุทธ์ในปัจจุบัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์