สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1432

เมื่อทุกคนได้รับคำสั่งให้ออกไป ลั่วสุ่ยชิงก็วิ่งมุ่งหน้าไปยังอิ๋นเฉิง แต่กลับรู้สึกว่ามีเงาดำแวบขึ้นมาต่อหน้าต่อตา และเย่จิ่งหลานก็มาหยุดไว้

เขายืนยิ่งเงียบอยู่เบื้องหน้าของลั่วสุ่ยชิง ราวกับพญามัจจุราชในนรก มืดมนและน่าสะพรึงกลัว

ลั่วสุ่ยชิงยืนนิ่ง นางเพิ่มจิตสำนึกทางจิตวิญญาณให้สูงสุด และไม่รู้สึกถึงลมปราณของชิงฮุย

ชิงฮุยไว้วางใจคุณชายน้อยเย่คนนี้ และนั่นคือสิ่งที่นางต้องการจริงๆ

“เย่จิ่งหลาน เจ้าเป็นคนต้าโจว แต่กลับสมคบคิดศัตรู ทำงานช่วยเหลือเสือเลว ไม่รู้สึกผิดต่อบรรพบุรุษของเจ้ากระนั้นหรือ”

เย่จิ่งหลานโจมตีลั่วสุ่ยชิงอีกครั้ง โดยไม่ได้คิดอะไรเลยด้วยซ้ำ

ลั่วสุ่ยชิงก้าวไปข้างหน้า ร่างของนางลอยอยู่ในอากาศแล้ว หมอกสีดำพุ่งออกมาจากฝ่ามือ ปกคลุมเย่จิ่งหลานไว้ในม่านหมอก

นางอยากจะทดสอบดูว่าเย่จิ่งหลานสามารถฝึกฝนวิชาเทียนเสวียนได้ถึงขั้นไหนแล้ว

เย่จิ่งหลานไม่เงยหน้าขึ้นด้วยซ้ำ ฟาดฝ่ามือกลับไป

ฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน ส่งเสียงสะท้าน

เย่จิ่งหลานสับขาหลอก หมุนตัวและกระโดดขึ้นไปในอากาศ

“ตายซะ!”

ลั่วสุ่ยชิงหัวเราะเบาๆ

“อย่างเจ้าน่ะ ไม่มีความสามารถขนาดนั้น!”

นิ้วเรียวขาวชี้ออกไป และจี้จุดสำคัญหลายจุดบนหน้าอกของเย่จิ่งหลานราวกับสายฟ้า

เย่จิ่งหลานก็ตอบสนองรวดเร็วมากเช่นกัน เปลี่ยนฝ่ามือเป็นหมัด และในชั่วพริบตา ทั้งสองคนก็ต่อสู้กันหลายสิบกระบวนท่าแล้ว

ลั่วสุ่ยชิงอดไม่ได้ที่จะตกใจ

คิดไม่ถึงว่าเย่จิ่งหลานจะสามารถใช้พลังยุทธ์เทียนเสวียนได้อย่างชำนาญเช่นนี้

เขาสูญเสียสติไปแล้ว จะเข้าใจได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร ถ้าหากเขาไม่ได้ฝึกฝนก่อนหน้าที่จะสูญเสียสติ เขาก็คงไม่ยินยอมแน่นอน

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

หากชิงฮุยสามารถเปลี่ยนคนได้ขนาดนี้จริงๆ ต้าโจวอาจตกอยู่ในอันตราย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์