สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1433

ดวงตาของเย่จิ่งหลานเฉียบคม ชี้นิ้วมาอีกครั้ง

ลั่วสุ่ยชิงรู้สึกเพียงว่าพลังชี่แท้จริงในร่างกายกระจัดกระจาย อดไม่ได้ที่จะตกใจ นางเหาะกลับไปอย่างรวดเร็ว และเย่จิ่งหลานก็เร็วขึ้นราวกับภูตผี มาหยุดอยู่เบื้องหน้าของลั่วสุ่ยชิง ชี้นิ้วไปที่ลำคอของนาง และไม่นานก็มาถึงตัวลั่วสุ่ยชิง หิ้วร่างนั้นขึ้นทันที หลังจากกระโดดขึ้นลงหลายครั้งก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

คนสองคนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“คิดว่าคุณชายรู้มานานแล้วว่าท่านราชาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่จิ่งหลาน”

“คุณชายมีความสามารถในการทำนายสิ่งต่างๆ ราวกับเทพ”

“แต่...ทำไมเย่จิ่งหลานถึงรู้พลังยุทธ์ของแคว้นเฟยเหยาเรา?”

“ใช่ ดูเหมือนจะเรียนรู้ได้ละเอียดลึกซึ้งกว่าเรา”

ทั้งสองมองหน้ากัน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ดังนั้นจึงใช้วิชาตัวเบาจากไป

ในอิ๋นเฉิง

อินชิงเสวียนและเย่จิ่งอวี้กำลังพูดคุยกับนักพรตเทียนชิง เมื่อรู้ว่ามีสิ่งแปลกๆ เกิดขึ้นกับเย่จิ่งหลาน ทั้งคู่ก็รู้สึกถึงลางร้าย

“เสวียนเอ๋อร์พูดมานานแล้วว่า พวกโมริตะอาจเป็นเบี้ยหมากที่ชิงฮุยวางไว้ หากเป็นเรื่องจริง ที่เขาให้เย่จิ่งหลานไปหานักพรต ก็อาจมีแผนอื่น”

นักพรตเทียนชิงขมวดคิ้วและพูดว่า “หรือว่าชิงฮุยต้องการพลังแห่งฟ้าดินอันบริสุทธิ์ เพื่อทำลายชาดแห่งบาป ทำให้เย่จิ่งหลานเข้าสู่สภาวะอื่น?”

อินชิงเสวียนพยักหน้า

“ก็อาจเป็นไปได้”

นางเทนำชาให้กับนักพรตเทียนชิง และถามว่า “ในเมื่อแดนศักดิ์สิทธิ์มีหน้าที่รับผิดชอบในการติดตามผู้ที่มีชาดแห่งบาป หากใครต้องการทำลายตราสีแดงนั้น หากไปถึงแดนศักดิ์สิทธิ์ จะจัดการกับมันอย่างไร”

“ไม่มีใครสามารถกำจัดชาดแห่งบาปได้ ตราบใดที่ถูกพากลับไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์ ก็จะถูกพาไปที่ศิลาตอบสวรรค์ และศิลาตอบสวรรค์จะทำการชำระล้างเอง”

หลังจากได้ยินสิ่งที่นักพรตเทียนชิงพูด อินชิงเสวียนก็มีคำถามใหม่

“หลังจากวิวัฒนาการแล้วคนผู้นั้นจะมีจิตใจประเสริฐขึ้นหรือไม่ ไม่ทราบว่าผู้ที่ถูกชำระล้าง มีคนเตี้ยโมริตะจากเกาะตงหลิวหรือเปล่า”

นักพรตเทียนชิงถอนหายใจและพูดว่า “ข้าอายุแค่ร้อยกว่าปี บางทีอาจยังเด็กเกินไป ไม่เคยได้ยินเรื่องโมริตะเลย ตลอดร้อยปีที่ข้าได้อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยเห็นใครที่มีปรากฏชาดแห่งบาปในตัวเลย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์