สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 151

ฝนตกหนักขนาดนี้ เขายังมาทำไมอีก

ถึงอย่างไรตัวเองก็เอาชนะการประลองครั้งนี้ได้ จะปล่อยให้อยู่อย่างสงบไม่ได้เลยเชียวหรือ

ขณะที่นางกำลังคิดอยู่นั้น เย่จิ่งอวี้ก็เดินเข้ามา

"กระหม่อมขอถวายบังคมฝ่าบาท"

อินชิงเสวียนอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงอยู่ จึงโค้งกายเป็นสัญลักษณ์แทนการคำนับ

"ลุกขึ้น นี่คือสิ่งใดรึ"

เย่จิ่งอวี้ชูโกลนม้าขึ้นแสดง

ชิ สังเกตเห็นเร็วชะมัด

"นี่คือโกลนม้าพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมชนะศึกนี้ด้วยสิ่งนี้"

เย่จิ่งอวี้โยนโกลนม้าให้หลี่เต๋อฝู นั่งบนเก้าอี้แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ในหัวเจ้ามีอะไรอยู่ในนั้น ถึงสามารถคิดค้นสิ่งมหัศจรรย์เช่นนี้ออกมาได้"

อินชิงเสวียนคิดในใจว่า สิ่งที่ข้ามีอยู่ในหัวคือวัฒนธรรมความรู้ของชาวจีนนับห้าพันปี แคว้นต้าโจวผุๆ พังๆ ของท่านจะมาเทียบได้รึ

แต่กลับพูดออกมาด้วยความเคารพว่า "ฝ่าบาทตรัสยกย่องเกินไปแล้ว กระหม่อมเพียงบังเอิญคิดขึ้นมาได้เท่านั้น"

เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า "ช่างบังเอิญได้ดีทีเดียว ข้าจะจดจำความชอบครั้งนี้ของเจ้าไว้ เพียงแต่เรื่องค่ายกลโล่กำแพงนี้ ข้ายังคงต้องการคำแนะนำจากเจ้าหน่อย โล่และหอกข้าได้สั่งให้กรมกลาโหมเร่งสร้างขึ้นตามแบบที่เจ้าร่างแล้ว"

"เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่..."

เย่จิ่งอวี้ลืมตาขึ้นแล้วถามอย่างสงสัย "เพียงแต่อะไรรึ"

อินชิงเสวียนเรียบเรียงคำพูดก่อนจะกล่าวว่า "เมื่อเร็วๆ นี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในต้าโจว ราษฎรคงคิดว่านี่เป็นพรจากดาวมงคล ฝ่าบาทยังได้พิสูจน์ว่าพระองค์มีสายพระเนตรเฉียบแหลม เพียงแต่กระหม่อมกับเสี่ยวหนานเฟิงเป็นสามัญชน หากให้พำนักอยู่ที่นี่คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ขอทรงโปรดอนุญาตให้กระหม่อมส่งเด็กไปอยู่กับท่านแม่ด้วย"

"แล้ว?"

เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลง กระแสเสียงเยียบเย็นลงเล็กน้อย

อินชิงเสวียนสะดุ้ง ชั่วขณะนั้นไม่เข้าใจความหมายถึงของเขา

"แล้ว? ...อะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ"

เย่จิ่งอวี้คำรามฮึดฮัดเบาๆ แล้วกล่าวว่า "เจ้าวางแผนที่จะออกจากวัง จากนั้นพาเสี่ยวหนานเฟิงไปจากเมืองหลวงใช่หรือไม่"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์