เย่จิ่งอวี้เหลือบมองไปด้านข้าง นัยน์ตาฉายแววสนุกสนาน
“ท่านโหวเหนือ ท่านก็จะป่วยเหมือนกันหรือ”
โหวเหนือคุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว “กระหม่อมมิกล้า กระหม่อมทำศึกไหว!”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้าและกล่าวว่า “ดี หลายวันนี้ข้าจะสั่งให้คนสร้างโล่ยักษ์ไว้หลายอัน ในอีกไม่กี่วันนี้ก็นำไปที่เจียงวูด้วยกัน พวกเจ้าทุกคนก็ไปหาผู้ที่มีกำลังแขนแข็งแรงไว้”
“พ่ะย่ะค่ะ”
โหวเหนือตะโกนอย่างแหบแห้ง
เขาไม่เพียงแต่กลัวการต่อสู้เท่านั้น แต่เขาทนไม่ได้ที่จะสูญเสียทหารห้าพันนายของเขา
แต่เขาก็รู้อยู่ในใจว่าฮ่องเต้กำลังวางแผนใช้งานทหารจำนวนห้าพันนายของเขา
ตอนนั้นข้านำทัพมาที่นี่ด้วยความตั้งใจที่จะช่วยอันผิงอ๋องสร้างแรงกดดัน แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดตกหลุมพรางแล้ว
ครั้นแล้วเย่จิ่งอวี้ก็ขึ้นรถม้าพระที่นั่งมังกร แล้วพูดเบาๆ “ขุนนางทุกท่านก็กลับเถิด หากเจ้ามีฎีกา ก็ส่งไปยังห้องหนังสือได้เลย!”
ขุนนางทุกคนคุกเข่าลงทันที “กระหม่อมน้อมส่งเสด็จ!”
อินชิงเสวียนก็ขี่ม้าตามหลังไป ก่อนออกเดินทาง ยังมองไปยังจอมพลเฒ่ากวน
แต่เมื่อเห็นกวนฮั่นหลินยิ้มพลางพยักหน้าให้ตัวเอง นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่นในใจ แล้วกระตุ้นให้ม้าไล่ตามรถม้าพระที่นั่งมังกรไป
ฝนตกถนนลื่น ขันทีที่ถือยกเกี้ยวก็ไม่กล้าเดินเร็วเกินไป อินชิงเสวียนที่ตามหลังมา นางเปียกโชกไปทั้งตัวแล้ว จึงจามไม่หยุด
เย่จิ่งอวี้หันกลับมามอง แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลังจากเข้าไปในวัง เขาก็ออกคำสั่งทันที “ให้ห้องเครื่องหลวงต้มน้ำขิงพุทราจีนด่วน ทุกคนดื่มคนละชาม ระวังจะเป็นหวัด”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
ทุกคนขอบคุณโดยพร้อมเพรียงกัน แล้วอินชิงเสวียนก็จามอีกครั้ง
เย่จิ่งอวี้อดไม่ได้ที่จะเร่งเร้า “ไปเร็ว”
ทุกคนวิ่งเหยาะๆ ไปจนถึงห้องหนังสือ
เสื้อคลุมมังกรของเย่จิ่งอวี้ก็เปียกโชกไปด้วย
หลี่เต๋อฝูรีบนำชุดลำลองมาให้เขาผลัดเปลี่ยน
เมื่อเย่จิ่งอวี้หันกลับมา ก็เห็นว่าอินชิงเสวียนยังคงยืนอยู่ที่ประตู น้ำที่หยดจากร่างได้รวมเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ที่เท้า
อดไม่ได้ที่จะพูดด้วยความโกรธ “เจ้ายังมายืนทำอะไรที่นี่ ยังไม่รีบกลับไปเปลี่ยนชุดที่ตำหนักจินหวู่อีกรึ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
อินชิงเสวียนจามอีกครั้ง จากนั้นก็ปิดจมูกแล้ววิ่งไปทันที
เย่จิ่งอวี้นั่งบนเก้าอี้มังกร ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ให้ห้องเครื่องส่งน้ำขิงต้มน้ำตาลทรายแดงไปยังตำหนักจินหวู่เพิ่มให้มากๆหน่อย แล้วให้พวกนางต้มหม้อใหญ่ไว้ให้เสี่ยวเสวียนจื่อดื่ม”
หลี่เต๋อฝูคลี่ยิ้มอย่างอดไม่ได้
“เสี่ยวเสวียนจื่อจะดื่มหม้อใหญ่หมดในคราวเดียวได้หรือพ่ะย่ะค่ะ”
เย่จิ่งอวี้ไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “ข้ายังมีงานให้นางช่วยอีก ปล่อยให้นางเป็นหวัดไม่ได้”
หลี่เต๋อฝูแอบมองฮ่องเต้แวบหนึ่ง ยิ้มเงียบๆ และก้าวถอยออกไป
อินชิงเสวียนได้กลับมาถึงตำหนักจินหวู่แล้ว
เมื่อเห็นตัวนางเปียกโชก ทั้งยายหลี่และอวิ๋นฉ่ายก็กระโดดโหยง กระวีกระวาดไปต้มน้ำร้อนให้นางอาย
อินชิงเสวียนโบกมือของนาง
“ไม่ต้องหรอก ข้าไปแช่ตัวในน้ำพุเซียนก็จะดีขึ้นแล้ว พวกเจ้าช่วยเฝ้าดูคนไว้ให้ข้าก็พอ”
“ได้ ท่านรีบไปเถอะ”
ยายหลี่ก็รู้สึกว่าน้ำพุเซียนมีอานุภาพมาก จึงรีบปิดประตูทันที
อินชิงเสวียนถอดชุดฟางกันฝน แล้วเข้าไปในมิติ จัดการเติมน้ำแร่ในอ่าง แล้วจึงแช่ตัวอย่างสบายๆ
อุณหภูมิของน้ำไม่สูงมากแต่ให้ความรู้สึกสบายตัวทั่วร่างกาย หลังจากแช่น้ำแล้ว นางก็ดื่มน้ำพุวิญญาณ ทันใดนั้นก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นทันที
ในใจก็ครุ่นคิด หากเอาสิ่งนี้ออกไปขายเป็นยาแก้หวัด ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...