สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 182

ฉินเทียนรีบนำทหารองครักษ์ตามขึ้นมา

“เหล่าข้าน้อยจะไปพร้อมด้วยฝ่าบาท!”

เย่จิ่งอวี้พูดขึ้นเสียงเรียบ “ไม่จำเป็น หมู่บ้านอยู่ไม่ไกล ให้เสี่ยวเสวียนจื่อและไป๋เสวี่ยไปกับข้าก็พอ”

“คือว่า...”

ฉินเทียนและคนอื่นๆ ต่างก็สงสัย

สีหน้าเย่จิ่งอวี้เคร่งขรึมเล็กน้อย

“นี่คือคำสั่ง!”

“พ่ะย่ะค่ะ” ฉินเทียนจึงพาคนถอยออกไปทันที

เมื่อได้ยินว่าจะพาไป๋เสวี่ยไปด้วย อินชิงเสวียนก็สบายใจขึ้นมาก

สุนัขมีขนาดใหญ่ และติดตามอยู่ด้านหลังเหมือนม้าตัวเล็กๆ คนส่วนใหญ่ยังไม่กล้าก้าวเข้าไปใกล้

เย่จิ่งอวี้กลับยังคงอยู่ในท่าทางที่สงบเช่นเดิม

เสื้อผ้าของเขาปลิวไสว และย่างกรายเดินช้าๆ ไปตามถนนในชนบท ใบหน้าต้านกับสายลมอ่อนๆ เดินเล่นสบายๆ ด้วยท่าทางเอ้อระเหย

อินชิงเสวียนและไป๋เสวี่ยเดินตามอยู่ข้างหลังเขา จังหวะช้าเร็วปะปนกัน

เวลาเพียงสิบห้านาทีก็เดินถึงหน้าหมู่บ้าน

ในเวลานี้คนส่วนใหญ่กำลังทําสวนในไร่นา มีเพียงหญิงชราไม่กี่คนและเด็กหลายคนนั่งอยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน

เมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนสวมชุดหรูหรา ทุกคนต่างมองไปยังทั้งสองคนด้วยความประหลาดใจ

เย่จิ่งอวี้เดินไปด้านหน้า ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ท่านผู้เฒ่า ขอน้ำดื่มสักหน่อยจะได้หรือไม่?”

หญิงชราคนหนึ่งจับต้นไม้พยุงตัวขึ้น และพูดอย่างต้อนรับ “ไปบ้านข้าสิ บ้านข้าอยู่ใกล้นิดเดียว”

ในระหว่างที่พูด ก็อดไม่ได้ที่จะมองไป๋เสวี่ยอย่างตื่นตระหนก

นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นสุนัขตัวใหญ่เช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะกลัวเล็กน้อย

อินชิงเสวียนลูบหัวใหญ่ๆ ของไป๋เสวี่ย ยิ้มและพูดว่า “ท่านผู้เฒ่าวางใจเสียเถอะ สุนัขตัวนี้อ่อนโยนมาก มันไม่กัดคน”

ดูเหมือนว่าไป๋เสวี่ยจะชอบให้อินชิงเสวียนลูบมาก มันสะบัดหางขึ้นมาในทันที

เมื่อเห็นว่ามันค่อนข้างเชื่อฟัง หญิงชราจึงเดินกลับมาพร้อมกับไม้เท้าด้วยท่าทางเงอะงะ และเด็กหลายคนก็วิ่งตามไปทันที

แม้ว่าจะเป็นย่านชานเมืองของเมืองหลวง แต่ก็หายากที่จะเห็นผู้สูงศักดิ์ที่แต่งตัวหรูหราเช่นนี้ เด็กๆ หันกลับไปมองในขณะที่วิ่งอยู่ ราวกับว่าพวกเขากำลังดูสัตว์ล้ำค่า

เย่จิ่งอวี้สีหน้าเรียบเฉย โดยมีรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของเขา และเดินตามหญิงชราไปที่บ้านของนาง

หญิงชราพูดขึ้นด้วยความเหนียมอาย “ครอบครัวของเรายากจนนัก ทำให้ผู้สูงศักดิ์ทั้งสองต้องหัวเราะเยาะ”

นางหยิบขันน้ำเต้าออกมา และตักน้ำจากโอ่งใหญ่หนึ่งขัน

“เชิญท่านผู้สูงศักดิ์ทั้งสอง”

เย่จิ่งอวี้รับน้ำไป อินชิงเสวียนกำลังลังเลอยู่ว่าต้องเอาเข็มเงินออกมาทดสอบหรือไม่ เย่จิ่งอวี้ก็ดื่มน้ำลงไปแล้ว

“ขอบคุณท่านผู้เฒ่า”

เย่จิ่งอวี้นำขันน้ำคืนกลับไป เมื่อมองดูรอบๆ จึงถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าข้าวปลาอาหารในบ้านเพียงพอหรือไม่?”

หญิงชรายิ้มและพูดว่า “พออยู่เจ้าค่ะ หลายวันก่อนหน้านี้มีฝนตกสองครั้ง พืชผลก็โตเร็วมาก หากฝนตกอีกสักสองสามครั้ง เราก็จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดีในปีนี้”

อินชิงเสวียนรีบพูดขึ้นทันที “พืชผลโตเร็วแค่ไหน?”

หญิงชราคิดแล้วพูดขึ้น “ก่อนที่ฝนจะตก ความสูงประมาณหนึ่งฝ่ามือ และเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากฝนตกเพียงไม่กี่วัน และตอนนี้ก็โตได้ครึ่งหนึ่งแล่ว”

จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าใจ “ข้าได้ยินว่าฝ่าบาททรงรับเลี้ยงดาวมงคล จากนั้นก็เกิดฝนตก ไม่แน่ว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับดาวมงคลก็ได้นะ”

อินชิงเสวียนเหลือบมองเย่จิ่งอวี้ ยิ้มเบาๆ และพูดว่า “จริงด้วย ข้าก็ได้ยินมาว่าฝ่าบาทไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติพวกนี้ แต่พระองค์ทรงทำเช้นนี้ แน่นอนว่าต้องทำเพื่อไพร่ฟ้าประชาชน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์