สรุปเนื้อหา บทที่ 221 ขึ้นแท่นบวงสรวงขอฝน – สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ โดย GoodNovel
บท บทที่ 221 ขึ้นแท่นบวงสรวงขอฝน ของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ ในหมวดนิยายโรแมนติก เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย GoodNovel อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ผ่านไปชั่วข้ามคืน แท่นบวงสรวงสวรรค์ก็ได้ถูกสร้างขึ้น
แท่นบวงสรวงสูงสามจั้งยื่นออกไปสู่ท้องฟ้ายามค่ำคืน มีธงพุทธหลากสีแขวนอยู่ ทำให้ดูเคร่งขรึมน่าครั่นคร้าม
ในวันที่สอง ขุนนางทุกคนมาพร้อมกันที่วังหลังก่อนการประชุมเช้า เพื่อเป็นสักขีพยานที่เสวียนเจินและอินชิงเสวียนจะบวงสรวงสวรรค์เพื่อขอฝน
หลังจากประคบน้ำแข็งมาทั้งคืน รอยบวมแดงบนใบหน้าของเสวียนเจินก็ลดลงอย่างมาก เขาห่มจีวรหลวงจีนสีขาวราวกับหิมะ กับหมวกสีแดงทอง มือซ้ายวางตั้งบนหน้าอก มือขวาถือไม้ขักจระทองคำ ท่าทางประหนึ่งหลวงจีนผู้สูงศักดิ์
อินชิงเสวียนสวมชุดสีเทาอย่างลัทธิเต๋า เส้นผมศีรษะกูกรวบไว้ด้วยปิ่นปักผมไม้ ในมือถือกระบี่ไม้ต้นท้อ เมื่อมีสายลมพัดบริเวณชายผ้า ดูพลิ้วไหวราวกับนางฟ้า ให้ความรู้สึกประหนึ่งเทพเซียนบนสวรรค์
นางกำลังสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาอย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าอยากให้ฝนตก ก็ไม่ต้องเตียมของอะไรให้มากมาย
เพียงแลกด้วยคะแนนสะสมก็สิ้นเรื่อง
อย่างไรก็ตาม อินชิงเสวียนก็มีความคิดของคัวเองเช่นกัน
ในความเข้าใจของนาง หลวงจีนนับเป็นนิกายหนึ่ง ลัทธิเต๋าถึงจะเป็นรากฐานที่แท้จริงของประเทศจีน แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ที่ประเทศจีน แต่อินชิงเสวียนก็อยากทำให้หลวงจีนเน่าคนนี้ได้สำเหนียกถึงความร้ายกาจ
เมื่อเห็นอินชิงเสวียนในท่าทางเช่นนี้ พวกขุนนางก็ประหลาดใจอีกครั้ง
พระสนมเหยาเฟยคนนี้คือใคร สวมชุดลัทธิเต๋าด้วยรึ
เย่จั้นซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางขุนนางก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว อินจ้งกล่าวเพียงว่าลูกสาวคนที่สามเก่งด้านจังหวะดนตรี แต่ตอนนี้พอได้มองไกลๆ ก็รู้สึกว่านั่นยังห่างไกลมากโข
ยายหนูนี่รู้เรื่องอะไรมากมายจริงๆ
มิน่าล่ะหลานชายของเขาถึงอยากไปค้นที่หอสวดมนต์ยามวิกาลเพื่อช่วยนางถึงสองครั้ง สตรีแปลกผู้นี้คุ้มค่าให้ช่วยจริงๆ
องค์หญิงเย่ไห่ถังก็ยืนอยู่ท่ามกลางเหล่าสตรีเช่นกัน
แม้ว่านางจะได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ในวังหลวง แต่นางก็ไม่ได้มีอำนาจอะไรนัก ในช่วงสองวันที่ผ่านมา นางคิดหาวิธีช่วยเหลือเสด็จพี่สะใภ้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีทางใดเลย กระทั่งเมื่อคืนตอนที่นางครุ่นคิดอย่างหนัก ทันใดนั้นนางก็ได้ยินนางกำนัลมาแจ้งว่า พระสนมเหยาเฟยต้องการจะแข่งเรื่องขอฝนกับเสวียนเจินไต้ซือ จึงเชิญทุกคนในวังหลังมาชมพิธีที่แท่นบวงสรวงสวรรค์
เมื่อได้เห็นวันนี้ก็อดปละหลาดใจเสียมิได้
อินชิงเสวียนเดินขึ้นมาจากอีกด้าน ใบหน้าของนางสงบราวกับผิวน้ำ ท่าทางแลดูมั่นใจ
ทั้งสองรีบเดินขึ้นไปบนแท่นบวงสรวงสวรรค์ทันที
ด้านบนเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดสิบเมตร ทั้งสองคนต่างอยู่คนละมุม
อินชิงเสวียนกระตุกมุมปาก พูดเยาะเย้ย “ปีศาจหลวงจีน ข้าไม่ได้มีเจตนาที่จะเป็นศัตรู เจ้ามาหาเรื่องข้าก่อน อย่าตำหนิข้าที่ไม่ปรานีต่อเจ้า”
หลังจากอยู่ในวังมานาน นางก็ได้มองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่งแล้ว หากนางไม่แสดงความสามารถทำให้คนพวกนี้หวาดกลัว นางอาจจะไม่มีวันสงบสุขได้
เสวียนเจินก็หันหน้ากลับมา
ตอนนี้เหลือเพียงสองคนแล้ว ไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นผู้สูงส่งอีกต่อไป
เขากัดฟันแล้วพูดว่า “ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะเลย พระสนมอย่าเพิ่งดีใจไปเน็วนัก”
อินชิงเสวียนยิ้มประชด “ถ้าเช่นนั้นก็ลองดู ข้าอยากรู้นักว่าสวรรค์จะอยู่ข้างใคร!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...