สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 254

สรุปบท บทที่ 254 อานุภาพของดินปืน: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์

ตอน บทที่ 254 อานุภาพของดินปืน จาก สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 254 อานุภาพของดินปืน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติก สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ ที่เขียนโดย GoodNovel เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ณ ห้องหนังสือ

เย่‍จิ่ง‍อวี้ยืนอยู่ริมหน้าต่าง แสงในแววตาไหวระริก

ในตอนนี้ จู่ๆ เขาก็นึกเสียใจภายหลัง ว่าเหตุใดตัวเองถึงตอบตกลงอย่างฉุกละหุกเช่นนี้

สองคนนี้ต่างก็เป็นคนสนิทของเขาที่สุด หากเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องเสียใจและโทษตัวเองไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน

เมื่อนึกถึงแววตาอันหนักแน่นและแจ่มชัดของอินชิงเสวียน เย่‍จิ่ง‍อวี้ก็อดไม่ได้ที่จะคว้าลูกกรงหน้าต่างอย่างแรง ที่หลังมือปรากฏเส้นเลือดหลายเส้นเด่นชัดทันที...

ไม่ได้ เขาต้องพาทหารรักษาพระองค์ไปดูสักหน่อย

ขณะที่เขากำลังจะออกคำสั่ง หลี่เต๋อฝูก็เดินเข้ามาทันที

“ฝ่าบาท ท่านเสนาบดีประสงค์จะเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดอย่างเย็นชา “ไม่พบ”

แต่กวนเมิ่งถิงเดินเข้ามาจากด้านนอกแล้ว คุกเข่าลงพร้อมกับพูดว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องสำคัญจะรายงานโดยละเอียด...”

ด้านนอกเมือง อินชิงเสวียนกำลังต้มดินประสิวอยู่

หนังสือกล่าวว่าต้องต้มดินประสิวเพื่อสกัดผลึกดินประสิว เพื่อปกป้องต้าโจวจากศัตรูต่างแคว้น อินชิงเสวียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องวาดกระบวยตามรูปน้ำเต้า ทำสิ่งที่ไม่ถนัด

เสี่ยวอานจื่อนั่งยองๆ มองดูหม้อ งานที่พระสนมมอบหมายให้ทำ เขาต้องตั้งใจทำให้เต็มที่

เมื่อเห็นผลึกสีขาวหนาปรากฏขึ้นข้างใน อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น

หากสามารถสร้างระเบิดจากฝีมือของนางได้ นั่นคงจะเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมมาก!

นางสั่งให้เสี่ยวอานจื่อตักผลึกสีขาวออกมา แล้วทุบแร่กำมะถันให้ละเอียด จากนั้นนางก็หยิบหนังสือเกี่ยวกับวัตถุระเบิดออกมาดู จากนั้นก็ชั่งน้ำหนักและผสมตามสัดส่วนข้างต้น

ตอนที่นางอยู่ในมหาวิทยาลัย อาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า หากไม่มีกำมะถันก็สามารถใช้หรดาลแทนได้ อย่างไรก็ตาม วิธีการที่ตามแบบฉบับดั้งเดิมคือกำมะถันและผลึกดินประสิว ดังนั้นอินชิงเสวียนจึงยังไม่คิดที่จะใช้หรดาลในตอนนี้

นางใส่ผงที่เตรียมไว้เข้าด้วยกันแล้วเขย่า ทันใดนั้นก็มีกลิ่นคล้ายประทัดที่นางเคยจุดเมื่อตอนยังเป็นเด็ก

อินชิงเสวียนพยักหน้า กลิ่นนี้ถูกต้องแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะมีประสิทธิภาพเพียงใด

คนทั้งสองเทผงลงบนผ้าแล้วมัดเป็นถุงห่อระเบิดสี่เหลี่ยมขนาดเจ็ดนิ้วด้วยเชือก โดยเหลือผ้าไว้เป็นสายชนวนอยู่ข้างใน

ในเวลานี้ท้องฟ้ามืดสนิทแล้ว

ถิ่นทุรกันดารไม่ได้ดีไปกว่าเมืองหลวง บริเวณรอบด้านมืดมิด ไม่มีแสงไฟใดๆ มีเพียงแสงจันทร์สลัวๆ

คืนอันมืดมิดเปรียบเสมือนปากเหวที่มองไม่เห็นก้นบึ้ง ทำให้คนรู้สึกหวาดหวั่นโดยปราศจากเหตุผล

อินชิงเสวียนออกมาพร้อมกับถุงห่อระเบิด ในใจรู้สึกไม่สบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก

เย่จั้นกำลังคุยกับทหารค่ายเปลวเพลิงสีชาดอยู่นอกประตู เมื่อเห็นอินชิงเสวียน เขาก็หมุนตัวเดินเข้ามาหา

“เสร็จแล้วหรือ”

อินชิงเสวียนพยักหน้า พูดอย่างหวาดๆ “คิดว่าใช่ ได้ผลหรือไม่นั้นก็ต้องลองจุดไฟดูจึงจะรู้ได้”

เย่จั้นลดสายตาลง มองดูถุงผ้าใบเล็กที่มัดแน่นอยู่ในมือของอินชิงเสวียน แล้วถามเจาะลึกลงไปอีกว่า “เจ้าต้องการให้จุดไฟที่ไหน ข้าจะไปเอง”

อินชิงเสวียนมองดูรอบๆ แล้วพูดว่า “ไปด้านหลังเนินเขากันเถอะ ท่านอ๋องต้องระวัง หากจุดไฟติดแล้ว ให้ใช้วิชาตัวเบาถอยออกมาไกลๆ โดยเร็วที่สุด ป้องกันไม่ให้ได้รับบาดเจ็บ”

เย่จั้นไม่มีความหวังมากนักกับสิ่งขนาดเท่าฝ่ามือนี้ ยังรู้สึกว่าอินชิงเสวียนเชื่อเรื่องตื่นตระหนกนี้ไปเอง สิ่งของขนาดเท่านี้ จะมีอานุภาพสักเท่าไหร่กันเชียว

แต่เขาตอบว่า “ข้าจำไว้แล้ว”

หลังจากทหารติดตามเย่จั้นไปที่ด้านหลังของเนินดินแล้ว

ในเวลานี้ มีอีกาหลายตัวโผล่ขึ้นมาจากพงป่าและส่งเสียงร้องลั่น

เมื่อได้ยินเสียงอีการ้องบาดหู ทันใดนั้นหางตาของอินชิงเสวียนก็กระตุกขึ้นหลายครั้ง รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีชัดขึ้น

ฝีเท้าของนางหยุดชะงักเล็กน้อย เย่จั้นที่ถือคบเพลิงอยู่หันกลับมาถามว่า “เกิดอะไรขึ้นรึ”

“ไม่มีอะไร”

อินชิงเสวียนเดาว่าตัวเองอาจจะคิดมากไป แล้วจึงคว้าแขนเสื้อของเสี่ยวอานจื่อ แล้วกระโดดข้ามเนินพร้อมกับทุกคน

ตามที่คาดไว้ ด้านล่างมีพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ ไม่มีการเพาะปลูกพืชใดๆ เลย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการทดลองจริงๆ

“เอาตรงนี้เลย”

อินชิงเสวียนยื่นถุงห่อระเบิดให้เย่จั้น

“ท่านอ๋องอย่าประมาทสิ่งนี้เด็ดขาด สิ่งนี้มีอานุภาพอันน่าตกใจ หลังจากจุดไฟแล้ว ต้องใช้วิชาตัวเบาหลบออกมาทันที ยิ่งไกลยิ่งดี”

เขาตัดสินใจทันที จุดไฟที่สายชนวน และโยนถุงห่อระเบิดไปทางคนชุดดำ

ถึงอย่างไรก็ต้องทดสอบอยู่แล้ว งั้นก็เริ่มเปิดกับพวกเขาก็แล้วกัน

คนชุดดำไม่รู้ว่ามันคืออะไร จึงเหวี่ยงกระบี่เพื่อสกัดกั้น แต่กลับได้ยินเสียงดังสนั่น แล้วถุงห่อระเบิดก็ระเบิดออกมากลางอากาศ

ได้ยินเสียงครางอู้ดังระนาว คนชุดดำถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ และฝนเลือดก็ตกลงมาจากท้องฟ้า

เย่จั้นได้ถอยออกไปหลายจั้งแล้ว แต่ยังคงถูกบังคับให้ถอยไปหลายก้าวด้วยแรงกระแทก เขาดึงเสื้อคลุมด้วยมือหนึ่ง หยุดยืนให้มั่นคง ในใจรู้สึกหวาดกลัวทันที

อินชิงเสวียนไม่ใช่ข่มขวัญให้กลัวเท่านั้นจริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าสิ่งของชิ้นเล็กจ้อยนี้จะมีอานุภาพขนาดนี้!

อินชิงเสวียนก็ได้ยินเสียงระเบิดเช่นกัน ในใจรู้สึกตื่นเต้น ดังขึ้นแล้วจริงๆ!

นั่นหมายความว่าสิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือนั้นถูกต้อง

นางยืนขึ้นแล้วมองทอดสายตาไปไกลๆ แต่กลับเห็นคนชุดดำหลายคนเหาะออกมาจากด้านข้างและมุ่งตรงมายังทหารหน่วยเปลวเพลงสีชาดหลายสิบคนที่อยู่ตรงหน้านาง

เสี่ยวอานจื่อรีบเอาตัวมาขวางหน้าอินชิงเสวียนทันที

“ใครก็ห้าทำร้ายนายของข้า”

เมื่อคนเหล่านั้นเห็นว่าสถานที่นั้นได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา ก็คิดว่าคนที่สวมชุดบุรุษอยู่ใจกลางคือเย่‍จิ่ง‍อวี้

มีคนตะโกนอย่างตื่นเต้น “ไม่คิดว่าฮ่องเต้น้อยจะอยู่ที่นี่ด้วย ช่างเป็นการมาที่ไม่เสียเที่ยวจริงๆ”

“พวกเลวทรามต่ำช้า กล้าดีอย่างไร!”

หัวหน้าทหารหน่วยเปลวเพลงสีชาดตะโกนลั่น พร้อมทั้งกวัดแกว่งดาบยาวพุ่งเข้าไปปะทะคนชุดดำ

ทหารหน่วยเปลวเพลงสีชาดเปลี่ยนรูปแบบค่ายกลทันที ลดขอบเขตการป้องกันให้แคบลง มอบหมายให้หกคนคอยปกป้องอินชิงเสวียนและเสี่ยวอานจื่อ ส่วนคนที่เหลือก็ออกไปต่อสู้

ในเวลานี้ เสียงเหยียดหยามก็ดังมาจากเหนือฟ้า

“ตายซะ”

คมกระบี่เป็นประกายวาววับมุ่งตรงไปหาอินชิงเสวียน

“จงเอาชีวิตมา!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์