“ไม่รู้ชั่วดี เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าได้รู้เอง”
เย่จั้นค่อยๆ ดึงกระบี่ยาวของเขาออกมา กระบี่นั้นงามราวกับน้ำ สดใสแต่ไม่แวววาว สามารถบอกได้ทันทีว่ามันไม่ใช่กระบี่ธรรมดา
อินชิงเสวียนไม่มีเวลาสนใจเรื่องพวกนี้แล้ว
ตอนที่นางทะลุมิติมา เดิมทีนางต้องการที่จะสละความรับผิดชอบทั้งหมด ออกจากวังเย็น คนร่ำรวยผู้เกียจคร้าน
แต่เมื่อรู้ว่าตระกูลอินมีโอกาสพ้นความผิด นางก็เปลี่ยนใจ
เนื่องจากนางใช้ร่างของเจ้าของร่างเดิม จึงต้องทำอะไรเพื่อตระกูลอิน หลังจากที่นางตัดสินใจได้แล้ว นางก็ทำงานอย่างหนักเพื่อให้อินจ้งกลับเมืองหลวงได้ ตอนนี้งานใหญ่กำลังจะประสบความสำเร็จ กลับมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะเพื่อตระกูลอินก็ดี เย่จิ่งอวี้ก็ช่าง นางต้องเข้าไปในวังหลวงให้ได้
ถ้าเย่จิ่งอวี้ตาย ทุกอย่างก็จะสูญเปล่า!
ทันใดนั้นนางก็คิดถึงภาพพักหน้าจอโทรศัพท์ แล้วหัวใจก็รู้สึกขมขื่นอีกครั้ง
สิ่งดีๆ ที่เย่จิ่งอวี้ทำเพื่อนาง ไม่เคยปิดบังอำพราง แม้ว่านางมักจะปลอบใจตัวเองว่าเสมอกันแล้ว แต่หนี้บุญคุณ จะทำให้เสมอกันได้อย่างไร
เขาปกป้องนางหลายครั้ง ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับนักฆ่า หรือเผชิญหน้ากับไทเฮาและเหล่าขุนนางราชสำนัก ล้วนเป็นเขาที่มักจะทำทุกอย่าง
แม้ว่าอินชิงเสวียนไม่ต้องการที่จะยอมรับ แต่คนผู้นั้นยังคงอยู่ในใจของนาง
พอคิดว่าเขากำลังตกอยู่ในความเป็นความตาย นางก็รู้สึกเหมือนถูกมีดแหลมคมกรีดแทงหัวใจ และเป็นความเจ็บปวดอันยากจะหายใจได้
นางหยิบดาบเล่มยาวที่ทหารหน่วยเปลวเพลิงสีชาดทิ้งไว้บนพื้นขึ้นมา กระตุกมุมปากขึ้นอย่างยากลำบาก
“บางทีวรยุทธ์ของข้าอาจเทียบท่านอ๋องไม่ได้ แต่เพื่อเย่จิ่งอวี้ ข้ายังต้องลองดูสักตั้ง”
“จนป่านนี้แล้ว เจ้ายังกล้าพูดว่าทำเพื่อเขา ตายซะเถอะ!”
ทันทีที่ข้อมือของเย่จั้นขยับ เขาก็ร่ายรำเพลงกระบี่ออกมา แล้วแทงไปที่คอของอินชิงเสวียน
แม้ว่าอินชิงเสวียนจะไม่รู้จักเพลงยุทธ์ใดๆ แต่หลังจากชำระวิญญาณล้างไขกระดูกด้วยน้ำพุวิญญาณแล้ว ความเร็วของนางก็เร็วกว่าคนทั่วไปมาก
นางโยกตัวหลบกระบี่ ยกดาบขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง และพุ่งโจมตีไปยังเย่จั้น
พลังแห่งมิตินั้นแข็งแกร่งอยู่แล้ว ประกอบกับอินชิงเสวียนร้อนใจ ดังนั้นนางจึงใช้พลังจนถึงขีดจำกัด
พลังกระบี่อันแข็งแกร่งระคนไปกับสายลมคำราม ซึ่งทักษะประเภทนี้สามารถจัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญได้เลย
เย่จั้นตกตะลึง ไม่ได้เจอกันเพียงชั่วยามเดียว ความแข็งแกร่งของอินชิงเสวียนกลับพัฒนาขึ้นมาก
เขาไม่กล้ายกกระบี่ขึ้นรับการโจมตีนั้น ทันทีที่บิดปลายกระบี่ก็ปัดพลังอันแข็งแกร่งของดาบให้พ้นไปได้
อินชิงเสวียนรู้แต่แรกแล้วว่าการเอาชนะเขาคงเป็นเรื่องยาก หากเรื่องนี้คลี่คลายไปได้อย่างน่าพอใจ นางจะต้องหาใครสักคนมาสอนเพลงยุทธ์แล้ว
ในขณะเดียวกัน นางก็รู้ด้วยว่าพลังมิติสามารถใช้ได้เพียงห้าครั้งต่อวันเท่านั้น ซึ่งหมายความว่านางมีโอกาส 25 นาที หากนางไม่สามารถสยบเย่จั้นได้ นางอาจจะตายจริงๆ
ดวงตาที่ปกติจะสงบนิ่งของเย่จั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ลำพังแค่รัศมีนี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้อินชิงเสวียนหวาดกลัว
นางไม่กล้ามองเย่จั้นอีกต่อไป อาศัยสัญชาตญาณเพื่อหลบหลีกการฟาดฟันเท่านั้น รู้สึกเหมือนเป็นเวลาสั้นๆ เพียงชั่วพริบตา และความแข็งแกร่งของนางก็ลดลงฮวบฮาบราวกับกระแสน้ำ
อินชิงเสวียนทำได้เพียงกัดฟันและแลกพลังอีกครั้ง
นางเคยคิดที่จะเข้าไปในมิติอยู่เหมือนกัน แต่ถ้านางทำเช่นนั้น เกรงว่าต่อให้ต้องอธิบายจนชั่วชีวิตก็คงไม่มีใครเชื่อ
“ท่านอ๋อง ทุกสิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริง และบางทีข้าอาจสามารถช่วยเย่จิ่งอวี้ได้ ขอท่านอ๋องได้โปรดผ่อนผันเถอะ อนุญาตให้ข้าเข้าวัง หากเป็นเพราะท่านอ๋องมีข้อกังขามากมาย อันเป็นเหตุให้รักษาเย่จิ่งอวี้ไม่ทัน ท่านมิต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตหรือ”
อินชิงเสวียนกลัวว่าหลังจากแลกเปลี่ยนครบห้าครั้งแล้ว ก็ยังไม่สามารถเอาชนะเย่จั้นได้ และกลัวว่าตัวเองจะหมดสติและหลับไปอีกหลายวัน จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนอย่างกังวล
“ข้ารู้ว่าระหว่างท่านอ๋องและฮ่องเต้มีความสัมพันธ์อาหลานอย่างลึกซึ้ง ฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่านอ๋องก็ต้องกังวลอยู่แล้ว แต่ท่านอ๋องโปรดคิดดูว่าคนที่มาที่นี่จะแต่งกายเหมือนข้าหรือไม่ ท่านอ๋องคุยกับข้าไม่ใช่แค่ครั้งหรือสองครั้ง แม้นางจะเลียนแบบหน้าตาของข้าได้ กิริยาวาจาคงไม่อาจเลียนแบบได้หมด ท่านอ๋องเป็นถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด จึงต้องเป็นผู้กล้าหาญมีไหวพริบ รายละเอียดเหล่านี้ ท่านมองไม่ออกหรือ”
เพลงกระบี่ของเย่จั้นช้าลงเล็กน้อย
คนที่มาแต่งตัวแตกต่างจากอินชิงเสวียนจริงๆ แม้ว่าอินชิงเสวียนตรงหน้าเขาจะแต่งตัวเรียบๆ แต่เป็นเครื่องแต่งกายในวัง แต่คนผู้นั้นกลับอยู่ในชุดที่ดูดี เมื่อนึกถึงความผิดปกติของไป๋เสวี่ย เย่จั้นก็สับขาหลอก และกระโดดออกจากวงต่อสู้
อินชิงเสวียนหมดแรงอีกครั้ง นางถือมีดไว้ในมือข้างหนึ่ง แล้วนั่งยองๆ ลงบนพื้น
นางหายใจหอบ พูดด้วยความพยายามอย่างยิ่ง “ได้โปรดเชื่อข้าสักครั้ง เย่จิ่งอวี้เป็นพ่อแท้ๆ ของจ้าวเอ๋อร์ลูกข้า ท่านอ๋องจะใจจืดใจดำทนมองดูจ้าวเอ๋อร์สูญเสียพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยงั้นหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...