เมื่อได้ยินเสียงทะลุฝ่าอากาศ กวนฮั่นหลินก็หันกลับมาโดยไม่รู้ตัว และดาบเล่มใหญ่ก็เสียบเข้าไปในอกของเขา
พลังที่มหาศาลแทงกวนฮั่นหลินเข้าไปได้ตรงๆ ดาบเล่มใหญ่แทงทะลุออกมาจากด้านหลัง
กวนฮั่นหลินถอยคกรูดสามก้าว สีหน้าซีดขาวในทันที
“เซี่ยวเอ๋อร์ เจ้า...”
กวนเซี่ยวส่งเสียงเย้ยหยัน
“เป็นเพราะท่านมีใจภักดีต่อต้าโจว และทำให้ท่านพ่อของข้าตายอย่างอนาถ นี่คือสิ่งที่ท่านสมควรได้รับ”
เมื่อเขาหมุนข้อมือ ตัวดาบที่เต็มไปด้วยเนื้อหนังก็ถูกกวนให้รวมกันในร่างกายของกวนฮั่นหลินทันที
ความเจ็บปวดบนร่างกาย กลับน้อยกว่าความเจ็บปวดในใจ
จอมพลเฒ่ามองหน้ากวนเซี่ยวด้วยความไม่เข้าใจ เขาไม่มีทางเข้าใจเลยว่าเหตุใดหลานชายจึงเกลียดตัวเองได้?
ในฐานะจอมพล เขาสมควรรับใช้ชาติ เขาเชื่อว่าลูกชายของเขายอมตายโดยไม่เสียใจ และเขาก็เป็นเช่นนั้น!
“ตายเสียเถอะ”
กวนเซี่ยวใช้เท้าถีบจอมพลเฒ่ากวนกระเด็น และชักดาบออกมา
จอมพลเฒ่าจ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ร่างของเขาล้มลงบนพื้นอย่างรุนแรง
เขามองบนท้องฟ้า น้ำตาขุ่นมัวไหลออกมาจากหางตาของเขา และถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจเข้าใจได้ “เพราะเหตุใด เพราะเหตุใด?”
กวนเซี่ยวถือดาบไว้ เดินไปยังข้างกายของจอมพลเฒ่า พร้อมใบหน้าที่แสยะยิ้ม
“เพราะท่านสมควรตาย”
เขายกดาบเล่มใหญ่ขึ้นมา เตรียมจะฟันหัวของจอมพลเฒ่า ดาบเล่มยาวพุ่งตัวมาจากที่ไกลๆ และกระทบกับตัวดาบพอดี
ผู้นี้คือกวนผิงอัน เป็นผู้คุมเรือนของตระกูลกวน เขาติดตามท่านผู้เฒ่ามาตั้งแต่เด็ก ความรักที่มีต่อท่านผู้เฒ่าเกินกว่าความสัมพันธ์ของนายบ่าว
ตะคอกเสียงโกรธเกรี้ยวว่า “กวนเซี่ยว เจ้าบังอาจ!”
ทันทีที่เสียงตะโกนดังขึ้น กองพลหลายสิบนายรีบวิ่งออกมาจากด้านนอกลานบ้าน
เมื่อเห็นว่าถูกคนล้อมไว้ กวนเซี่ยวก็ยิ้มอย่างดูหมิ่น สะบัดแขนเสื้อของเขา และควันสีเขียวก็พวยพุ่งออกมา จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศและเผ่นออกไปจากกำแพงลานบ้าน
กวนผิงอันอุ้มจอมพลเฒ่าขึ้นมา ตะโกนเสียงดังว่า “ยังไม่ต้องไปตาม รีบส่งตัวจอมพลเฒ่าเข้าวัง เพื่อให้หมอหลวงเหลียงทำการรักษา”
เมื่อจอมพลเฒ่ากวนอ้าปาก เลือดสดก็พุ่งออกมาเต็มปากในทันที
เขามองกวนผิงอัน ถามด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “จริงๆ เลย... ข้าทำผิดไปใช่หรือไม่?”
กวนผิงอันน้ำตาไหลในทันที พูดอย่างสะอื้นว่า “จอมพลเฒ่าจะผิดได้อย่างไร คุณชายน้อยต้องถูกคนเป่าหูเป็นแน่”
จอมพลเฒ่ากวนส่ายหัว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สิ้นหวัง “ท่านพ่อของเขาต้องตายเพราะข้าจริงๆ นี่ก็คือ... ข้อเท็จจริงที่เถียงไม่ได้ เขาอาจจะ... เกลียดข้าแล้วจริงๆ”
กวนผิงอันใช้แรงกดบาดแผลของจอมพลเฒ่าไว้ พูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “จอมพลเฒ่าอย่าเพิ่งพูดอะไรเลยขอรับ ตอนนี้เก็บแรงไว้ก่อน ท่านเคยพูดไว้ว่า ผู้ชายที่แท้จริงคือศพที่ห่อหุ้มด้วยหนังม้า และตายในสนามรบ นี่ไม่ใช่จุดจบของท่าน”
จอมพลเฒ่าฝืนยิ้มออกมา แต่เลือดกลับพุ่งออกมาเต็มปาก
“คนแก่แล้ว สักวันก็ต้องตาย... จะตายที่ไหนก็ไม่ต่างกัน”
เขาค่อยๆ คลายลมหายใจลง และพูดต่อว่า “เมื่อข้าตายไปแล้ว... อย่าตามล้างแค้นกวนเซี่ยวเลยนะ เขาเป็นหลานชายของข้า... และเป็นผู้ชายคนสุดท้ายเพียงคนเดียวของตระกูลกวน พวกเจ้าต้องทำดีต่อเขา...”
จอมพลเฒ่ายังไม่ทันพูดจบ เขาก็หมดสติไป
“จอมพลเฒ่า!”
กวนผิงอันตกใจจนหน้าถอดสี เมื่อเห็นชีพจรที่ต้นคอของเขายังคงเต้นอยู่ แต่มันอ่อนแรงมาก เขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนบอกคนขับรถม้าที่อยู่ข้างนอกว่า “เร็ว เร็วอีกหน่อย”
ขณะนั้น อินชิงเสวียนยังคงร้องเพลงอยู่
แต่ครั้งนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ในมิติ
หรือว่านี่เป็นรางวัลที่แจกเพียงครั้งเดียว?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น อินชิงเสวียนก็หมดอารมณ์และหมดความสนใจในทันที
เมื่อนิ้วบนสายพิณนิ่งลง เสียงก็เงียบลงในทันใด
เย่จิ่งอวี้กำลังฟังด้วยความเคลิบเคลิ้ม จึงถามขึ้นว่า “เหตุใดจึงไม่บรรเลงแล้วเล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...
ดีจริงแทนที่จะเสียคะแนนได้คะแนนมาเพิ่มอีก...
ทางด้านกลยุทธ์น่าจะได้แต่ทางด้านวรยุทธหรือพละกำลังน่าจะไม่ไหวดังนั้นต้องพิสูจน์ตัวเอง...
อายุยังไม่ทันถึง 6 เดือนเลยละมั้งทำไมพูดคุยได้แล้วเก่งจริง...
โกหกครั้งหนึ่งก็ต้องโกหกต่อๆไป...
ความแตกแล้วมั้งเนี่ย...
เกือบไปแล้ว...