ต้นไม้เพิ่งจะขุดขึ้นมา ทำให้ติดไฟยาก อินชิงเสวียนจึงให้คนหาไม้ฝืนมาจุดไฟเผาพร้อมกับพวกต้นไม้ด้วย
ทันใดนั้นก็มีควันขโมงขึ้นมา เย่จิ่งอวี้สำลักควันจนไอไม่หยุด
หลี่เต๋อฝูรีบพูดขึ้นว่า "ฝ่าบาท ที่นี่ควันคลุ้งมาก เรากลับไปดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ
เย่จิ่งอวี้ยกมือปิดจมูกไว้ แล้วพูดกับอินชิงเสวียนว่า "เผามันจนเป็นเถ้าถ่าน จากนั้นแค่โรยมันไปบนหน้าดินใช่ไหม?"
อินชิงเสวียนเองก็สำลักควันจนคอแห้งเช่นกัน ยกมือปิดปากแล้วพูดว่า "แค่กๆ พักไว้จนเย็นก็สามารถใช้ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"
เย่จิ่งอวี้ตอบรับแล้วพูดว่า "หลี่เต๋อฝู เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ รอจนเถ้าถ่านโรยเสร็จหมดแล้วค่อยกลับห้องหนังสือ"
หลี่เต๋อฝูหลุบตาลง
"บ่าวน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ"
เมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้ก้าวขาเดินไปแล้ว อินชิงเสวียนที่ยืนอยู่กับที่กลับไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ควรจะตามไปด้วยหรือไม่?
หลี่เต๋อฝูถือโอกาสมองไปที่ขาของอินชิงเสวียน โชคดีที่ยังมีเงา
ก็คงไม่ใช่ผีสางล่ะนะ
จากนั้นก็พูดเสียงสูงว่า "ยังไม่รีบตามเสด็จไปอีก ฝ่าบาททรงโปรดชาอุณหภูมิที่ร้อนกำลังดี ก่อนเสวยพระกระยาหารต้องทดสอบด้วยเข็มเงินเสียก่อน ฝ่าบาทไม่โปรดการบรรทมตอนกลางวัน ขณะที่กำลังอ่านฎีกาเจ้าจะต้องคอยใช้พัดพัดอยู่ข้างๆ แล้วก็..."
เมื่อได้ยินหลี่เต๋อฝูพูดปาวๆ ยาวเหยียดไม่หยุด อินชิงเสวียนก็สุดจะทน ก้าวขาแล้ววิ่งหนีไป
เมื่อออกจากสวนอวิ๋นเซียงก็พบว่าเย่จิ่งอวี้เดินไปไกลแล้ว
อินชิงเสวียนยืนมองอยู่กับที่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ฉีกยิ้ม
ในเมื่อไม่มีใครสังเกตุ แล้วจะยืนอยู่ที่นี่ไปทำไม เผ่นด่วนเลยค่า!
เธอไม่รู้จักถนนหนทาง จึงวิ่งย้อนไปตามทางเดิม
ทว่าวิ่งไปวิ่งมา สุดท้ายอินชิงเสวียนก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก
เมื่อเห็นแปลงดอกไม้ที่อยู่ข้างๆ จึงเกาะไปที่ขอบแปลงและมองดูรอบทิศ แต่น่าเสียดายที่ถนนทุกสายแทบจะคล้ายกันหมด อินชิงเสวียนอดกุมขมับไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าควรจะเดินต่อไปอย่างไรจริงๆ
ในตอนที่กำลังร้อนใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังขึ้นมา
อินชิงเสวียนมองไปตามต้นเสียง ก็เห็นในสวนมีเด็กสาวคนหนึ่งสวมชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนกำลังถือพัดวิ่งไล่จับผีเสื้ออยู่ อายุเห็นจะสักสิบสามสิบสี่ปี ร่างอวบตัวกลม ท่าทางซุกซน พู่ห้อยบนปิ่นปักผมกวัดแกว่งไปมาตามการขยับตัวของเธอ ดูน่ารักเป็นอย่างมาก
อินชิงเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินเข้าไปหาเด็กสาว และพูดอย่างนอบน้อมว่า "บ่าวคารวะนายท่านขอรับ"
อย่างไรเสียผู้ที่มีสาวใช้ติดตามในวังก็คือเจ้านายทั้งนั้น
เมื่อเห็นขันทีตัวขาวผุดผ่องคนหนึ่งยืนอยู่บนทางเดินในสวน เย่ไห่ถังก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
เธอเอียงคอมองอินชิงเสวียน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่มว่า "เจ้าเป็นใครหรือ เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน?"
อินชิงเสวียนตอบว่า "บ่าวเป็นขันทีใหม่ เพิ่งนำของไปส่งมอบฝ่าบาทตามรับสั่ง ทว่าเดินหลงทางมา หวังว่าท่านจะช่วยชี้ทางให้บ่าวเสียหน่อยว่าหอฉงฮวาต้องเดินไปอย่างไร?"
เย่ไห่ถังเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว ยิ้มและพูดว่า "มิน่าข้าถึงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ที่แท้ก็ขันทีใหม่นี่เอง"
เธอถือพัดกลมแล้วชี้ไปยังทางหนึ่ง
"ที่นี่อยู่ไม่ห่างไกลจากหอฉงฮวานักแล้ว เจ้าเดินไปทางซ้าย แล้วเลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว"
เป็นครั้งแรกที่อินชิงเสวียนได้พบกับคนที่คุยง่ายเช่นนี้ จึงรู้สึกซาบซึ้งในใจมาก เธอมีน้ำหอมติดตัวมาด้วยพอดี จึงหยิบออกมาขววดหนึ่ง
"ขอบพระคุณนายท่าน สิ่งของเล็กน้อยชิ้นนี้ถือเสียว่าเป็นน้ำใจจากบ่าวขอรับ"
เย่ไห่ถังเดินเข้ามาใกล้ด้วยความสงสัย
"นี่คืออะไรงั้นหรือ?"
"น้ำหอมขอรับ"
อินชิงเสวียนเปิดฝาขวดออก แล้วทาไปที่แขนของตนเองสองที กลิ่นหอมจากบนแขนของเธอก็ลอยแตะจมูก
กลิ่มหอมสดชื่นอ่อนๆ ผสานกับกลิ่นหอมหวานของผลไม้
เย่ไห่ถังสูดลมหายใจอย่างอดไม่ได้ และพูดอย่างชอบอกชอบใจว่า "กลิ่มหอมมากเลย"
แล้วหันไปมองอินชิงเสวียนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอมีผิวพรรณขาวเนียน ใบหน้าสดสวย หน้าตางดงามเสียยิ่งกว่าผู้หญิง ก็มีความรู้สึกดีด้วยอย่างห้ามใจไม่อยู่
"เจ้าไปได้สิ่งนี้มาจากที่ไหนหรือ?"
อินชิงเสวียนเข้าใจความหมายของเด็กสาวในทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...