สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 32

ต้นไม้เพิ่งจะขุดขึ้นมา ทำให้ติดไฟยาก อินชิงเสวียนจึงให้คนหาไม้ฝืนมาจุดไฟเผาพร้อมกับพวกต้นไม้ด้วย

ทันใดนั้นก็มีควันขโมงขึ้นมา เย่จิ่งอวี้สำลักควันจนไอไม่หยุด

หลี่เต๋อฝูรีบพูดขึ้นว่า "ฝ่าบาท ที่นี่ควันคลุ้งมาก เรากลับไปดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ

เย่จิ่งอวี้ยกมือปิดจมูกไว้ แล้วพูดกับอินชิงเสวียนว่า "เผามันจนเป็นเถ้าถ่าน จากนั้นแค่โรยมันไปบนหน้าดินใช่ไหม?"

อินชิงเสวียนเองก็สำลักควันจนคอแห้งเช่นกัน ยกมือปิดปากแล้วพูดว่า "แค่กๆ พักไว้จนเย็นก็สามารถใช้ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"

เย่จิ่งอวี้ตอบรับแล้วพูดว่า "หลี่เต๋อฝู เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ รอจนเถ้าถ่านโรยเสร็จหมดแล้วค่อยกลับห้องหนังสือ"

หลี่เต๋อฝูหลุบตาลง

"บ่าวน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ"

เมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้ก้าวขาเดินไปแล้ว อินชิงเสวียนที่ยืนอยู่กับที่กลับไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ควรจะตามไปด้วยหรือไม่?

หลี่เต๋อฝูถือโอกาสมองไปที่ขาของอินชิงเสวียน โชคดีที่ยังมีเงา

ก็คงไม่ใช่ผีสางล่ะนะ

จากนั้นก็พูดเสียงสูงว่า "ยังไม่รีบตามเสด็จไปอีก ฝ่าบาททรงโปรดชาอุณหภูมิที่ร้อนกำลังดี ก่อนเสวยพระกระยาหารต้องทดสอบด้วยเข็มเงินเสียก่อน ฝ่าบาทไม่โปรดการบรรทมตอนกลางวัน ขณะที่กำลังอ่านฎีกาเจ้าจะต้องคอยใช้พัดพัดอยู่ข้างๆ แล้วก็..."

เมื่อได้ยินหลี่เต๋อฝูพูดปาวๆ ยาวเหยียดไม่หยุด อินชิงเสวียนก็สุดจะทน ก้าวขาแล้ววิ่งหนีไป

เมื่อออกจากสวนอวิ๋นเซียงก็พบว่าเย่จิ่งอวี้เดินไปไกลแล้ว

อินชิงเสวียนยืนมองอยู่กับที่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ฉีกยิ้ม

ในเมื่อไม่มีใครสังเกตุ แล้วจะยืนอยู่ที่นี่ไปทำไม เผ่นด่วนเลยค่า!

เธอไม่รู้จักถนนหนทาง จึงวิ่งย้อนไปตามทางเดิม

ทว่าวิ่งไปวิ่งมา สุดท้ายอินชิงเสวียนก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก

เมื่อเห็นแปลงดอกไม้ที่อยู่ข้างๆ จึงเกาะไปที่ขอบแปลงและมองดูรอบทิศ แต่น่าเสียดายที่ถนนทุกสายแทบจะคล้ายกันหมด อินชิงเสวียนอดกุมขมับไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าควรจะเดินต่อไปอย่างไรจริงๆ

ในตอนที่กำลังร้อนใจ ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังขึ้นมา

อินชิงเสวียนมองไปตามต้นเสียง ก็เห็นในสวนมีเด็กสาวคนหนึ่งสวมชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนกำลังถือพัดวิ่งไล่จับผีเสื้ออยู่ อายุเห็นจะสักสิบสามสิบสี่ปี ร่างอวบตัวกลม ท่าทางซุกซน พู่ห้อยบนปิ่นปักผมกวัดแกว่งไปมาตามการขยับตัวของเธอ ดูน่ารักเป็นอย่างมาก

อินชิงเสวียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินเข้าไปหาเด็กสาว และพูดอย่างนอบน้อมว่า "บ่าวคารวะนายท่านขอรับ"

อย่างไรเสียผู้ที่มีสาวใช้ติดตามในวังก็คือเจ้านายทั้งนั้น

เมื่อเห็นขันทีตัวขาวผุดผ่องคนหนึ่งยืนอยู่บนทางเดินในสวน เย่ไห่ถังก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

เธอเอียงคอมองอินชิงเสวียน แล้วถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนิ่มว่า "เจ้าเป็นใครหรือ เหตุใดข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน?"

อินชิงเสวียนตอบว่า "บ่าวเป็นขันทีใหม่ เพิ่งนำของไปส่งมอบฝ่าบาทตามรับสั่ง ทว่าเดินหลงทางมา หวังว่าท่านจะช่วยชี้ทางให้บ่าวเสียหน่อยว่าหอฉงฮวาต้องเดินไปอย่างไร?"

เย่ไห่ถังเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว ยิ้มและพูดว่า "มิน่าข้าถึงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ที่แท้ก็ขันทีใหม่นี่เอง"

เธอถือพัดกลมแล้วชี้ไปยังทางหนึ่ง

"ที่นี่อยู่ไม่ห่างไกลจากหอฉงฮวานักแล้ว เจ้าเดินไปทางซ้าย แล้วเลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว"

เป็นครั้งแรกที่อินชิงเสวียนได้พบกับคนที่คุยง่ายเช่นนี้ จึงรู้สึกซาบซึ้งในใจมาก เธอมีน้ำหอมติดตัวมาด้วยพอดี จึงหยิบออกมาขววดหนึ่ง

"ขอบพระคุณนายท่าน สิ่งของเล็กน้อยชิ้นนี้ถือเสียว่าเป็นน้ำใจจากบ่าวขอรับ"

เย่ไห่ถังเดินเข้ามาใกล้ด้วยความสงสัย

"นี่คืออะไรงั้นหรือ?"

"น้ำหอมขอรับ"

อินชิงเสวียนเปิดฝาขวดออก แล้วทาไปที่แขนของตนเองสองที กลิ่นหอมจากบนแขนของเธอก็ลอยแตะจมูก

กลิ่มหอมสดชื่นอ่อนๆ ผสานกับกลิ่นหอมหวานของผลไม้

เย่ไห่ถังสูดลมหายใจอย่างอดไม่ได้ และพูดอย่างชอบอกชอบใจว่า "กลิ่มหอมมากเลย"

แล้วหันไปมองอินชิงเสวียนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเธอมีผิวพรรณขาวเนียน ใบหน้าสดสวย หน้าตางดงามเสียยิ่งกว่าผู้หญิง ก็มีความรู้สึกดีด้วยอย่างห้ามใจไม่อยู่

"เจ้าไปได้สิ่งนี้มาจากที่ไหนหรือ?"

อินชิงเสวียนเข้าใจความหมายของเด็กสาวในทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์