สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 341

อินชิงเสวียนที่ได้ยินทั้งหมดนี้อย่างชัดเจน นางอดไม่ได้ที่เป็นกังวล หากนางออกจากต้าโจว ก็ไม่สามารถเห็นหน้าลูกได้อีกแล้วไม่ใช่หรอกหรือ

นางไปไม่ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ นางจะเข้าไปซ่อนตัวในมิติก่อน แล้วค่อยคิดแผนตอบโต้

จากนั้นก็ได้ยินฟางรั่วถามว่า “นายท่านจะกลับมาไปเมื่อใดหรือ”

อา‍ซือ‍หลานพูดเรียบๆ “ข้ายังมีงานสำคัญที่ต้องทำ เจ้าพาชิงเสวียนกลับไปก่อน หากนางฟื้นขึ้นมาอีกก็ให้ใช้กู่หอมเมฆาของราชครู กู่ชนิดนี้สามารถทำให้คนหมดสติได้ แต่จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย”

เมื่อได้ยินอาซือหลานเปนห่วง็นห่วงสุขภาพของอินชิงเสวียนมาก นัยน์ตาของฟางรั่วก็ฉายแววริษยา นางโค้งคำนับและพูดว่า “ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”

อา‍ซือ‍หลานพูดอย่างรำคาญ “เช่นนั้นก็รีบไปลงมือเดี๋ยวนี้”

“เจ้าค่ะ”

ฟางรั่วหยิบหน้ากากผิวหนังมนุษย์ที่มีหนวดออกมา แล้วกดมันลงบนใบหน้าของอินชิงเสวียน จากนั้นจึงไขเชือกและหิ้วนางออกจากบ้าน

อินชิงเสวียนยังสัมผัสได้ถึงลมปราณของอา‍ซือ‍หลาน จึงไม่กล้าตุกติก จากนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองถูกพาเข้าไปในรถม้า

เสียงของอา‍ซือ‍หลานดังมาจากนอกรถ กระแสเสียงนั้นทั้งชั่วร้ายและเย็นชา

“ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องส่งนางกลับไปที่เจียงวูให้ได้ หากเกิดอะไรขึ้นกับนาง เจ้าก็อย่าหวังว่าจะมีชีวิตอยู่อีกเลย”

ฟางรั่วตัวสั่นเล็กน้อย ลดศีรษะลงแล้วพูดว่า “ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง”

ในเวลานี้ มีสตรีอีกสองคนเดินออกมาจากหลังบ้าน

พวกเขาทั้งสองโค้งคำนับให้อาซือหลานอย่างเงียบๆ จากนั้นจึงขึ้นรถม้ามานั่งขนาบข้างอินชิงเสวียน คนหนึ่งอยู่ทางซ้ายและอีกคนหนึ่งอยู่ทางขวา

คนขับรถม้าดึงสายบังเหียนขึ้น ทันทีที่ลงแส้ รถม้าก็ออกเดินทางไปตามถนนสายตะวันออก

ขณะที่มองดูรถม้าที่กำลังเคลื่อนออกไป มุมปากของอาซือหลานก็ค่อยๆ ยกขึ้น

เรื่องดินปืน เขาได้สอดแนมจนพอจะรู้เรื่องบ้างแล้ว และส่งข้อมูลลับกลับไปยังเจียงวู โดยเชื่อว่าจูอวี้เหยียนจะมีแผนตอบโต้ได้แน่นอน

หากโยวหลานโชคดีพอที่จะสังหารเย่‍จิ่ง‍อวี้ได้ ราชวงศ์ต้าโจวจะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และพวกเขาจะฉวยโอกาสในความวุ่นวายนี้ไปสังหารกลุ่มขุนนางข้าราชสำนักทั้งหมด

แม้ว่านางจะฆ่าเขาไม่ตาย แต่ก็ไม่สำคัญ สิ่งที่เขาต้องการคือโอกาสในการหยุดยั้งเย่‍จิ่ง‍อวี้ไว้ เมื่อฮ่องเต้น้องรู้สึกตัว รถม้าก็ได้เดินทางไปไกลหลายพันลี้แล้ว

เขาต้องการแผ่นดินของต้าโจว และยิ่งกว่านั้นเขาต้องการหญิงงามของต้าโจว

เมื่อคิดว่าอินชิงเสวียนกำลังจะตกอยู่ในกำมือของเขา อา‍ซือ‍หลานก็อดไม่ได้ที่จะรวบนิ้วเข้าหากัน ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างหฤหรรษ์ออกมา

ในเวลานี้ อินชิงเสวียนหรี่ตาขึ้นข้าหนึ่ง

เมื่อมองเห็นขาที่เบียดตัวเองอยู่ ก็รู้ว่ามีคนอยู่ในรถอีกอย่างน้อยสองคน อย่างไรก็ตามสองคนนี้ไม่พูดหรือส่งเสียงใดๆ เลย ราวกับเป็นภูตผีปีศาจฉะนั้น

แม้ว่าอินชิงเสวียนจะไม่รู้วรยุทธ์ แต่จากพฤติกรรมของทั้งสองคน ก็เดาได้ว่าคนสองคนนี้น่าจะมีแข็งแกร่งกว่าฟางรั่วมาก

นางถึงได้บอกว่าอา‍ซือ‍หลานที่เป็นคนเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ ไม่มีทางปล่อยให้ฟางรั่วเฝ้าตัวเองเพียงลำพังได้ ซึ่งเขาก็มีแผนสำรองจริงๆ ด้วย

ฟางรั่วนั่งอยู่บนเพลาด้านนอกรถ อินชิงเสวียนก็ไม่กล้าผลีผลามออกไป

นางลองเข้าไปในมิติ และแน่นอนว่านางได้รับคำเตือนว่าห้ามนำบุคคลภายนอกเข้ามา

ดูเหมือนว่ามิติยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ แค่เพียงมีคนเห็นนาง ก็จะถูกตีว่านางต้องการพาคนเข้าไปด้วย ตอนนี้นางทำแค่ต้องแอบหนึไปตอนที่พวกนางพักผ่อน

อินชิงเสวียนรู้ว่ารีบเร่งไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นนางจึงสงบสติอารมณ์ลง

สามชั่วยามต่อมาท้องฟ้าก็มืดแล้ว

รถม้าหยุดลง

ฟางรั่วเปิดม่านรถ แล้วพูดเบาๆ “ช่วยพานางลงมาที”

สตรีสองคนยังคงไม่พูดอะไร ยื่นมือออกไปประคองอินชิงเสวียนลงจากรถม้า

มีเสียงดังอยู่รอบๆ เหมือนจะเป็นตลาด จากนั้นฟางรั่วก็พูดว่า “ขอสามห้องชั้นบนสุดให้เราด้วย”

เสี่ยวเอ้อร์เห็นว่าฟางรั่วรูปโฉมงดงาม จึงถามด้วยรอยยิ้มร่า “แม่นางมากี่คนรึ”

ฟางรั่วแสร้งตีหน้าเศร้า แล้วพูดว่า “พวกเรามากันห้าคน กำลังจะไปที่เมืองเป้ยเฉิง ไปหาหมอมารักษาสามีของข้า”

เสี่ยวเอ้อร์มองไปยังอินชิงเสวียนที่ถูกประคองไว้ด้วยคนที่แต่งตัวเป็นสาวใช้สองคน อดไม่ได้ที่จะสบถในใจ เจ้าหนวดนี่โชคดีจริงๆ หน้าตาท่าทางก็ดูไม่เท่าไหร่ แต่กลับได้แต่งงานก็ภรรยาที่งดงามดั่งบุปผาปานหยกได้

“ได้เลย ตามข้ามา”

เสี่ยวเอ้อร์พาทุกคนไปยังเรือนด้านหลัง แล้วฟางรั่วก็ล้วงเงินก้อนหยวนเป่ามูลค่าห้าสิบตำลึงออกมาจากแขนเสื้อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์