มีดสั้นของฟางรั่วได้กดไปที่ลำคอของอินชิงเสวียน
อินชิงเสวียนเหลือบมองมีดสั้นด้วยความกลัว แล้วพูดด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “เจ้าไม่ต้องห่วง ถึงตอนนี้ข้าอยากหนีก็หนีไปไหนไม่พ้น ข้าแทบยืนเองไม่ได้ด้วยซ้ำ ประเดี๋ยวเข้าห้องน้ำยังต้องรบกวนเจ้าอีก”
ฟางรั่วเหลือบมองอินชิงเสวียนอย่างเคลือบแคลงสงสัย ในอุโมงค์ครั้งที่แล้วนางก็เคยถูกอินชิงเสวียนหลอก
แต่ในฐานะที่เป็นสตรีเหมือนกัน ฟางรั่วจึงไม่อยากให้อินชิงเสวียนปัสสาวะราดรดกางเกงจริงๆ
นางแค่นเสียงหึและพูดว่า “หยุดพูดไร้สาระ แล้วรีบๆ เข้าเถอะ”
หญิงทั้งสองก็ตามประกบอยู่ข้างหลังของพวกนาง แล้วฟางรั่วก็หิ้วอินชิงเสวียนเข้าไปในห้องน้ำ
เมื่อเห็นแมลงวันบินออกมา อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้
ฟางรั่วก้มศีรษะลง และพับเสื้อคลุมของนางขึ้น
ในตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีมือข้างหนึ่งบีบที่ต้นคอด้านหลังของนาง แรงอันมหาศาลนั้นแทบจะหักคอของนางได้
น้ำเสียงที่ถูกกดต่ำดังมาจากด้านบน
“ฟางรั่ว บางทีเราอาจร่วมมือกันได้”
ฟางรั่วตัวแข็งทื่อ แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “หากเจ้ากล้าลงมือ ข้าจะหักคอเจ้าเดี๋ยวนี้”
ฟางรั่วกัดฟันพูดว่า “อินชิงเสวียน เมื่อครู่นี้เจ้าแกล้งหลอกข้างั้นหรือ”
อินชิงเสวียนมองลงไปที่ศีรษะด้านหลังของนาง
“เจ้าจะคิดอย่างนั้นก็ได้”
ฟางรั่วขู่ว่า “เชื่อหรือไม่ว่าทันทีที่ข้าตะโกน พวกนางก็จะรีบเข้ามาฆ่าเจ้า”
อินชิงเสวียนยิ้มเยาะ พูดอย่างมั่นใจ “พวกนางจะกล้าฆ่าข้างั้นหรือ อาซือหลานออกคำสั่งให้พวกเจ้าพาข้ากลับไปที่เจียงวูแบบมีชีวิตอยู่ไม่ใช่หรอกรึ”
ท้องของฟางรั่วกระตุก นางกัดฟันแล้วถามว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่”
กลิ่นข้างในนั้นยากที่จะทนได้ไหวจริงๆ อีกทั้งฟางรั่วยังอยู่ในท่าที่ก้มศีรษะเพื่อช่วยพับชุดของอินชิงเสวียนขึ้น ภาพเบื้องหน้าของนางเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก จนนางเกือบจะอาเจียนออกมา
อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากขึ้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เจ้าชอบอาซือหลานไม่ใช่หรอกหรือ ข้ามีวิธีให้เจ้าได้ครอบครองเขา และเจ้าสามารถครอบครองได้ตลอดไปด้วย”
ร่างกายของฟางรั่วสั่นเล็กน้อย
“เจ้า...เจ้ากำลังพูดบ้าอะไร”
อินชิงเสวียนกล่าวว่า “บุรุษต้องแต่งงานเมื่อโต สตรีต้องออกเรือนเมื่อโต เป็นเรื่องปกติที่ต้องมีความสัมพันธ์รักๆ ใคร่ๆ เจ้ากับข้ามีสีผิวใกล้เคียงกัน ส่วนสูงก็แทบไม่ต่างกันมาก...”
ฟางรั่วเข้าใจทันที
“เจ้าหมายความว่า...”
คนสองคนข้างนอกเริ่มหมดความอดทน
“เร็วเข้า ยังไม่เสร็จอีกรึ”
อินชิงเสวียนแสร้งตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงทันที
“ทำไมพวกเจ้าถึงพูดมากนัก ไม่งั้นให้พวกเจ้าเข้ามาแทนก็ดี”
แน่นอนว่าพวกนางไม่ต้องการเข้าไป ดังนั้นพวกนางทั้งคู่จึงหุบปาก
ฟางรั่วกล่าวว่า “นายท่านฉลาดมีไหวพริบมากเช่นนี้ ไม่มีทางที่เขาจะไม่สังเกตเห็น”
อินชิงเสวียนร้องชิออกมา แล้วพูดว่า “ความเฉลียวฉลาดของเขาต้องดูว่าเอาไว้ใช้กับใคร เขาเชื่อใจข้าครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ใช่หรือ”
ฟางรั่วครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่พักหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ
“ไว้ค่อยพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลัง ป้องกันไม่ให้พวกนางเฉลียวใจ”
เมื่อได้ยินฟางรั่วพูดเช่นนี้ อินชิงเสวียนก็รู้ว่านางเริ่มหวั่นไหวแล้ว มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย
“หากเจ้าบอกเรื่องนี้ออกไป ข้าจะหายตัวไปทันที ถึงตอนนั้นพวกเจ้าไม่ว่าใครก็อย่าหวังว่าจะไปรายงานได้”
ฟางรั่วไม่เสียเวลาพูดอะไรอีก แล้วช่วยประคองอินชิงเสวียนกลับห้อง
ขณะนอนอยู่บนเตียง อินชิงเสวียนมองไปยังสตรีสองคน แล้วพูดว่า “พวกเจ้าสองคนออกไปจากที่นี่ได้หรือไม่ ข้าเห็นพวกเจ้าแล้วก็รู้สึกขัดหูขัดตายิ่งนัก”
คนหนึ่งพูดอย่างไม่พอใจว่า “ที่นี่ไม่ใช่วังหลวง ไม่มีใครตามใจเจ้าหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...