อินชิงเสวียนรู้สึกกระดากใจอยู่พักหนึ่ง
“เอ่อ...นี่...”
ต่งจื่ออวี๋พูดอย่างใจกว้าง “ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าไม่ได้เอาม้าของข้ามา ข้าก็ไม่รู้ว่าจะตามเจ้าทันหรือไม่ แต่ข้าเกรงว่าม้าตัวนี้จะไม่รอดแล้วล่ะ”
เขามองม้าด้วยดวงตาเศร้าโศก
อินชิงเสวียนก็ไม่อยากขี่ม้าจนมันตาย แต่ม้าตัวนี้อาจไม่มีอาการป่วยร้ายแรงใดๆ มันอาจจะแค่หมดแรง บางทีน้ำจากน้ำพุวิญญาณอาจช่วยชีวิตมันได้
จึงบอกว่า “มันคงจะหิวน้ำกระมัง เดี๋ยวข้าจะเอาน้ำมาให้”
อินชิงเสวียนพูดจบนางก็เดินเข้าไปในป่า
ต่งจื่ออวี๋ตะโกนอยู่ข้างนอก “เจ้าจะทำอะไรน่ะ”
“ข้าจะไปเอาน้ำ ผิดจริยาอย่าดู เจ้าอย่าเข้ามานะ”
หลังจากได้ยินที่อินชิงเสวียนพูดแล้ว ต่งจื่ออวี๋ก็ไม่เข้าใจ
ไปเอาน้ำทำไมต้องปกปิดด้วย
แต่เขาไม่กล้าบุ่มบ่าม จึงตอบ “ได้ ข้าจะรอเจ้า”
อินชิงเสวียนเข้าไปในมิติแล้ว เติมอ่างน้ำด้วยอ่างกระเบื้องเคลือบ แล้วก็หาถุงใส่น้ำ และเทบางส่วนให้ต่งจื่ออวี๋ด้วย
ต่งจื่ออวี๋รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาเห็นอินชิงเสวียนถืออ่างกระเบื้องเคลือบขนาดใหญ่ออกมา
เอามาจากไหนกันนะ
อินชิงเสวียนเดินไปถึงตัวม้า ลูบหัวของมันแล้วพูดว่า “เจ้าไม่ตายหรอก คงเหนื่อยเกินไป พักผ่อนและดื่มน้ำก่อนเถอะ”
นางยกหัวม้าขึ้น แล้ววางปากของมันไว้ที่อ่างกระเบื้องเคลือบ
ม้าก็อ้าปากและเริ่มดื่มทันที
หลังจากจิบไปไม่กี่คำ ดวงตาของม้าก็สดใสขึ้นอย่างมาก มันร้องฮี้ลากเสียงยาว คุกเข่าลง และดื่มน้ำพุวิญญาณเข้าไปอึกใหญ่ๆ
ต่งจื่ออวี๋อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าม้ากระหายน้ำจริงๆ งั้นหรือ
แล้วอินชิงเสวียนก็โยนถุงใส่น้ำให้ต่งจื่ออวี๋
“เจ้าก็เดินทางมาไกล ดื่มหน่อยก็ดี”
ถือเสียว่าเป็นค่าชดใช้ที่นางขี่ม้าของเขาออกมา
ต่งจื่ออวี๋หยิบถุงน้ำขึ้นมาแต่ไม่ได้ดื่ม
ถึงอย่างไรก็เป็นถุงใส่น้ำดื่มของหญิงสาว เขาไม่กล้าแตะต้องตามใจชอบ
อินชิงเสวียนอ่านความคิดของเขาออก จึงพูดว่า “สิ่งนี้ข้ายังไม่เคยใช้ เจ้าดื่มเลย”
“เช่นนั้นข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ”
ต่งจื่ออวี๋ดึงจุกที่ปิดไว้ออกมาอย่างยินดี แล้วจิบไปเล็กน้อย
เขารู้สึกได้ถึงอากาศเย็นๆ ที่ไหลผ่านลำคอ ราวกับกระแสน้ำที่ใสบริสุทธิ์ได้ไหลไปรวมตัวกันที่จุดตันเถียน จากนั้นก็กลายเป็นสสาร และแพร่กระจายไปยังแขนขาและกระดูกของเขา
ต่งจื่ออวี๋ตกตะลึงไปชั่วขณะ
น้ำนี่...สามารถเสริมพลังและวรยุทธ์ได้จริงหรือ
แล้วจึงหันไปมองอินชิงเสวียนอีกครั้ง ทันใดนั้นนัยน์ตาพลันฉายแววเคารพเลื่อมใส
เขาโค้งกายลง พูดอย่างนอบน้อม “ต่งจื่ออวี๋ขอบคุณผู้อาวุโสที่มอบน้ำนี้ให้”
ผู้อาวุโส?
อินชิงเสวียนเกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ
จากการข้ามมิติมาจนถึงตอนนี้นางก็ได้เจอกับผู้คนที่มีความคิดแตกต่างกันไป ทว่านี่กลับเป็นครั้งแรกที่นางได้พบกับเจ้าห่านทึ่มอย่างเช่นต่งจื่ออวี๋
ดีแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องที่ว่าหญิงอยู่ด้วยกันตามลำพัง ถ้าเขามีเจตนาไม่ดี ตัวนางก็ต้องระวังตัวให้มากขึ้นอีก
ครั้นจึงแสร้งทำตัวเป็นคนที่มีความคิดลึกล้ำทันที เอามือไพล่หลังพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้ากับเจ้าก็นับว่ามีวาสนาต่อกัน ไม่จำเป็นต้องพูดคำสุภาพเลย”
ต่งจื่ออวี๋พูดด้วยความเคารพ “ไม่ทราบว่าเหตุใดผู้อาวุโสถึงต้องรีบไปที่เมืองหลวง จื่ออวี๋เต็มใจที่จะพยายามช่วยเต็มที่”
“แล้วเจ้าไปทำอะไรที่เมืองหลวงรึ”
อินชิงเสวียนเหลือบมองเขา เค้นกลิ่นอายของผู้วิเศษออกมา
ต่งจื่ออวี๋ลังเลก่อนจะพูดว่า “จื่ออวี๋ได้รับคำสั่งจากท่านอาจารย์ ให้ไปตามหาอาจารย์อาที่เมืองหลวง”
อินชิงเสวียนมองดูเขาแล้วพูดว่า “เจ้ามาจากสำนักใด ผู้ที่เจ้ากำลังตามหามีลักษณะอย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...