อินชิงเสวียนได้ยินจนหัวใจเต้นรัว แต่ยังคงแข็งใจเอาไว้
นางไม่เคยหาเรื่องใครก่อน ทุกอย่างเป็นเพราะสวีจือย่วนก่อเรื่องเอง
เดิมทีอินชิงเสวียนคิดว่าสวีจือย่วนเป็นคนไม่เลว ก่อนหน้านี้จึงดูแลทุกอย่าง แต่ทว่านางกลับทำตัวเกินเยียวยา การที่นางยังมีชีวิตอยู่ นับเป็นบุญมากโขแล้ว
เมื่อสีหน้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย นางจึงหันไปหาเย่จิ่งอวี้
“ท่านพ่อของข้าได้ทูลเรื่องขอรบต่อฝ่าบาทหรือไม่เพคะ?”
เย่จิ่งอวี้แววตานิ่งเฉย ราวกับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
เมื่อได้ยินก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนและพูดว่า “นอกจากท่านพ่อและท่านพี่ของเจ้า ยังมีท่านผู้เฒ่ากวน กวนเซี่ยวก็จะออกเดินทางไปด้วย หากไม่ใช่เพราะเจ้า เกรงว่าเขายังคงดื้อดึงทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์”
อินชิงเสวียนพูดอย่างถ่อมตัว “เรื่องของกวนเซี่ยว ก็เป็นเพราะความเมตตาของฝ่าบาท หากไม่ใช่เพราะฝ่าบาทเห็นว่าเขาเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของจอมพลเฒ่ากวนและยังไว้ชีวิตของเขา ก็คงไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในวันนี้หรอกเพคะ”
เย่จิ่งอวี้มองนางและย้อนถามว่า “เสวียนเอ๋อร์ไม่คิดว่าข้ากระทำต่อสวีจือย่วนรุนแรงเกินไปใช่หรือไม่?”
อินชิงเสวียนเลิกคิ้ว
“เหตุใดฝ่าบาทจึงถามเช่นนี้เพคะ?”
“ข้าไม่อยากให้เสวียนเอ๋อร์รู้สึกว่าข้าเป็นคนไร้ความรู้สึก ยิ่งไม่อยากให้เสวียนเอ๋อร์หวาดกลัวข้า เหตุผลที่ข้าสั่งให้นางเข้าวังเย็น เพราะคนผู้นี้ใจคดยิ่งนัก หลายครั้งที่นางทำสิ่งที่ไม่ดี หากไม่ใช่เพราะข้าและเสวียนเอ๋อร์ที่ต่างก็มีจิตใจที่มั่นคง เกรงว่าเราคงผิดใจกันหลายครั้งเพราะนาง คนหน้าเนื้อใจเสือเช่นนี้ไม่ควรเก็บเอาไว้”
สำหรับสิ่งที่เย่จิ่งอวี้พูดออกมา อินชิงเสวียนเห็นด้วยอย่างมาก
“หม่อมฉันเองก็ไม่ใช่คนจิตใจไม่ดี ก่อนหน้านี้หม่อมฉันช่วยเหลือนางไว้หลายครั้งหลายครา เป็นเพราะหม่อมฉันรู้สึกว่านางไร้ที่พึ่งในวัง จึงสงสารเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าจิตใจของนางไม่บริสุทธิ์ จึงไม่รู้สึกเห็นใจเหมือนเมื่อก่อนแล้วเพคะ”
“เช่นนั้นก็ดี อีกไม่กี่วันข้าจะให้โหราจารย์ค้นหารายชื่อ เพื่อโยกย้ายนางสนมนางกำนัลคนอื่นๆ ออกไปจากวัง วังหลังมีเสวียนเอ๋อร์เพียงผู้เดียวก็เพียงพอแล้ว”
เมื่อเห็นดวงตาคู่นั้นที่เปี่ยมไปด้วยความรัก จู่ๆ อินชิงเสวียนก็รู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต จิตใจอ่อนระทวยขึ้นมาทันที
นางรีบเบนหน้าไปอีกด้าน และไม่กล้าสบตากับเขาอีก
“ทำไมหรือ?”
เย่จิ่งอวี้โน้มตัวไปข้างหน้าและมองหน้านาง ดวงตาที่ส่องแสงเป็นประกาย ราวกับว่าด้านในเป็นมหาสมุทรที่ซ่อนดวงดาวเอาไว้
อินชิงเสวียนกระแอมไอเสียงแห้งและพูดว่า “ไม่มีอะไรเพคะ หม่อมฉันนึกได้ว่ามีเรื่องอยากขอร้องฝ่าบาท”
เย่จิ่งอวี้ยิ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...