ท้องฟ้าเริ่มสดใสขึ้น และในที่สุดค่ำคืนอันยาวนานก็สิ้นสุดลง
อินชิงเสวียนหลับไปโดยที่ลืมตาไม่ขึ้นด้วยซ้ำ
เมื่อมองไปยังสาวน้อยที่ยังมีเหงื่อเกาะพราวที่ปลายจมูก เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
แม้ว่าจะพยายามควบคุมตัวเองอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายเขาก็ยังคงสูญเสียการควบคุม หากครั้งนี้ทำให้นางกลัว ต่อไปหากต้องการใกล้ชิดกันนางอีกก็คงเป็นเรื่องยาก
เขาอยากอยู่ข้างกายอินชิงเสวียนจริงๆ พอนางลืมตาจะได้เห็นตัวเองทันที แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขายังต้องไปประชุมเช้า ยังมีกิจการบ้านเมืองที่ยังสะสางไม่เสร็จ
ในขณะนี้ จู่ๆ เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกว่าเป็นฮ่องเต้โฉดก็น่าจะดีเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ใช่
เขาถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ ลุกขึ้นจากม่านมุ้งสีแดงนุ่มๆ
หลี่เต๋อฝูถือเสื้อคลุมมังกรรออยู่ข้างนอกเป็นเวลานานแล้ว
เมื่อเห็นฝ่าบาทออกมา ขันทีน้อยหลายคนก็เริ่มทำงานกันทันที
มีคนเตรียมน้ำสำหรับชำระล้าง มีคนยกน้ำชามาให้ ส่วนหลี่เต๋อฝูก็พาคนอื่นๆ มาช่วยสวมชุดคลุมมังกรให้เย่จิ่งอวี้ และสวมมาลามงกุฎ หลังจากเร่งมือกันอย่างหนัก ก็ประคองฮ่องเต้ไปยังเกี้ยวพระที่นั่งมังกร
เสียงขานเคลื่อนขบวนเสด็จดังขึ้น เย่จิ่งอวี้ก็ได้ยินเสียงไก่ขันอีกครั้ง แล้วจึงมุ่งหน้าไปยังราชสำนัก
เมื่ออินชิงเสวียนตื่นขึ้นมา ดวงอาทิตย์ก็โผล่เหนือยอดไม้แล้ว
นางลืมตาอย่างไร้เรี่ยวแรง เอวขาล้วนปวดไปหมด ราวกับว่าถูกรถชนก็ไม่ปาน
อินชิงเสวียนนิ่งอึ้งเป็นเวลานาน ก่อนที่นางจะจำได้ว่าเมื่อคืนนี้นางได้ร่วมเรียงเคียงหมอนกับเย่จิ่งอวี้แล้ว
ภาพคลุมเครือผุดขึ้นในหัวไม่หยุด ใบหน้าก็พลันแดงก่ำทันที
เมื่อมองดูรอยช้ำบนเนื้อตัวของตัวเอง ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงความดุร้ายของเย่จิ่งอวี้เมื่อวานนี้ ผิวเนื้อตามตัวก็พลอยร้อนผ่าวไปด้วย
อินชิงเสวียนรีบวิ่งเข้าไปในมิติ หยิบกระจกออกมาส่องดู เจ้าหมอนี่ ที่ลำมีรอยแดงเต็มไปหมด นางจะออกไปพบปะผู้คนได้อย่างไร
นางรีบอาบน้ำในน้ำพุวิญญาณ หากไม่สามารถลบรอยแดงออกได้ ช่วงนี้นางก็ไม่ต้องออกจากตำหนักจินหวูแล้ว
นางนอนแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ กำหมัดแน่น ทั้งเขินอายทั้งโกรธ
จนกระทั่งพบว่ารอยแดงจางลงแล้ว จึงคลายความกังวลได้บ้าง
แต่ทันทีที่หลับตา ภาพของเย่จิ่งอวี้ที่กำลังจูบตัวเองก็แวบวับเข้ามาในหัว
อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว
เมื่อคิดว่าเย่จิ่งอวี้ถามว่าตลอดว่าตัวเองเจ็บหรือไม่ รวมถึงการคำนึงถึงความรู้สึกของนางถุกด้าน...
อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้น แก้มใสทั้งสองข้างพลันปรากฏรอยแดงเถือก
นางรีบยกมือขึ้นหยิกแก้มตัวเอง บอกตัวเองว่าอย่าคิดฟุ้งซ่าน ต้องรีบออกไปโดยเร็ว
ทันทีที่กลับถึงเตียง เสียงของอวิ๋นฉ่ายก็ดังขึ้นนอกประตู
“พระสนม ท่านตื่นหรือยังเพคะ”
“อืม เข้ามาได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...