สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 477

อินชิงเสวียนกำลังหยอกล้อกับเสี่ยวหนานเฟิงอยู่ในสวน สองวันนี้ไม่มีเรื่องสำคัญอะไร เมื่อกลับมาจากสำนักศึกษาหลวง ก็กลับเข้าวังเลยทันที จึงกลับมาค่อนข้างไวทีเดียว

ตอนนี้ลูกกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ พูดจารู้ความขึ้นมาก อินชิงเสวียนจึงยอมสละเวลาเพื่ออยู่กับลูกมากขึ้น

เด็กคนนี้เติบโตมาด้วยน้ำพุวิญญาณ จะต้องฉลาดกว่าเด็กคนอื่นแน่นอน อินชิงเสวียนอ่านบทกลอนให้เขาฟังทุกวัน จากนั้นก็สอนสัตว์ต่างๆ บนการ์ดให้เขาได้เรียนรู้

เพียงแต่ความอดทนของเจ้าเด็กอ้วนมีขีดจำกัด เรียนสักพักยังพอไหว แต่หากเรียนเป็นเวลานานก็จะทำลายข้าวของด้วยความใจร้อน

อินชิงเสวียนกำลังแย่งแผ่นการ์ดจากปากของเขา เย่จิ่งอวี้ก็เดินเข้ามาพอดี

“จ้าวเอ๋อร์ยั่วโมโหเสด็จแม่อีกแล้วใช่ไหม?”

เดินสาวเท้ามาด้านหน้าเตียงนอน อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงที่ซุกซนขึ้นมา เสี่ยวหนานเฟิงหยิบแผ่นการ์ดในปากออกมาทันที และใส่เข้าปากของเย่จิ่งอวี้

“กินกิน”

อินชิงเสวียนขำพรวดออกมา

“ดูสิว่าลูกชายของท่านกตัญญูมากแค่ไหน เก็บแผ่นการ์ดไว้ให้พ่อของเขาด้วย”

เย่จิ่งอวี้ใช้สองนิ้วคีบการ์ดแผ่นนั้นเอาไว้ และลูบลงบนศีรษะของเสี่ยวหนานเฟิง

“เสด็จพ่อไม่กิน ขอบใจเจ้ามาก”

เสี่ยวหนานเฟิงรีบแย่งแผ่นการ์ดมาในทันที และยื่นให้เย่จิ่งอวี้

“พ่อ~ กินกิน~”

เย่จิ่งอวี้ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องอ้าปากงับแผ่นการ์ดเอาไว้

เสี่ยวหนานเฟิงดีใจขึ้นมาในทันที พร้อมปรบมือน้อยที่อวบอ้วนของเขา

อินชิงเสวียนเหลืออด จึงหยิบแผ่นการ์ดนั้นออกมา

“อวิ๋นฉ่าย พาฮ่องเต้น้อยไปเล่นเถอะ”

เย่จิ่งอวี้มาในเวลาแบบนี้ ต้องมีเรื่องสำคัญแน่นอน เมื่อนับวันดูแล้ว เจียงวูน่าจะส่งจดหมายกลับมาบ้างแล้ว

เสี่ยวหนานเฟิงเรียนมากพอแล้วเช่นกัน เมื่อเห็นว่าอวิ๋นฉ่ายมาอุ้มตัวเอง ก็ตามออกไปด้วยความดีใจ

เย่จิ่งอวี้มองตามลูกชายด้วยความอาวรณ์

แต่ทว่า เรื่องสำคัญต้องรีบจัดการ

เขาคาดเดาสถานการณ์ในราชสำนักได้ จึงอยากฟังความเห็นของอินชิงเสวียน

“ฝ่าบาทมาในเวลาเช่นนี้ มีธุระสำคัญหรือเพคะ?”

เย่จิ่งอวี้เหยียดนิ้วกลางออกมา เคาะลงบนหน้าผากมนของนางเบาๆ

“สมกับที่เป็นเสวียนเอ๋อร์ของข้า ฉลาดเป็นกรด จิตใจงดงาม”

อินชิงเสวียนถูกชมจนเหนียมอาย จึงกระแอมไอเสียงแห้งและถามว่า “เกิดเรื่องอะไรขึ้นเพคะ?”

เย่จิ่งอวี้นั่งลงบนเก้าอี้ อมยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าได้รับจดหมายด่วนจากด่านถงกู่ ท่านพ่อและท่านพี่ของเจ้าตีเมืองลั่วสยาได้แล้ว อีกทั้งยังจับเป็นราชาเผ่าอูเอินแห่งเจียงวูได้อีกด้วย ตอนนี้ได้ส่งคนมาขอความสันติ และยินยอมยุติสงครามกับต้าโจว ข้าอยากฟังความเห็นของเสวียนเอ๋อร์?”

อินชิงเสวียนทำสีหน้าดีใจในทันที

“พวกเขาตีเมืองลั่วสยาได้รวดเร็วขนาดนี้เชียวหรือ นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากเลยเพคะ”

จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “อาซือหลานเป็นผู้เขียนจดหมายยุติสงครามหรือเพคะ?”

เย่จิ่งอวี้พูดว่า “ข้าก็ไม่แน่ใจ ในเมื่ออูเอินถูกจับตัว คนที่เขียนจดหมายก็น่าจะเป็นเขาแน่นอน”

“ฝ่าบาทไม่เชื่อใจอาซือหลานใช่ไหมเพคะ?”

เย่จิ่งอวี้เสียงขรึมเล็กน้อย

“เป็นจริงดังนั้น คนผู้นี้มีจิตใจเจ้าเล่ห์ ไม่น่าเชื่อถือได้”

อินชิงเสวียนมองเขาแล้วถามว่า “เช่นนั้น...ฝ่าบาทเตรียมทำสงครามหรือเพคะ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์