เจวี๋ยอิ่งก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “กระหม่อมยังไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ ได้ส่งคนไปตามสืบแล้ว”
เย่จิ่งอวี้ตบฉาดลงบนโต๊ะอย่างแรง
พูดด้วยความโมโห “ในโลกนี้มีคนสติฟั่นเฟือนเช่นนี้ด้วยหรือ หากจับตัวคนร้ายได้ ให้เขารับโทษรถแยกร่าง ศาลยุติธรรมส่งคนไปตรวจสอบแล้วหรือไม่?”
เจวี๋ยอิ่งพูดว่า “เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมไปถึงที่เกิดเหตุแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ได้นำร่างส่งมาที่ศาลยุติธรรมแล้ว”
เย่จิ่งอวี้พูดเสียงเข้มว่า “เจ้าคอยฟังข่าวมา แล้วมารายงานข้าได้ทุกเวลา”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เจวี๋ยอิ่งเดินเข้ามาสองก้าว จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าแม่นางที่ชื่อว่าจังอวี้จิ่น ควรจัดการอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
เย่จิ่งอวี้ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “เอาเงินไว้ให้นาง ช่วยนางหาซื้อบ้านในเมืองหลวง รอให้จับตัวอาซือหลานได้เมื่อใด ค่อยบอกนางว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมทูลลา”
เมื่อเจวี๋ยอิ่งออกไปแล้ว เย่จิ่งอวี้สงบจิตใจลง และหยิบสาส์นกราบทูลขึ้นมาอีกครั้ง...
ณ ตำหนักจินหวู
ตกบ่าย ซูฉ่ายเวยมานั่งพูดคุยด้วยครู่หนึ่ง นางไม่ได้นอนหลับอย่างเต็มที่มาหลายคืน เพราะเสียงร้องโหยหวนของสวีจือย่วน หลังจากที่เงียบไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในที่สุดก็นอนหลับได้ในที่สุด และใบหน้ามีชีวิตชีวาขึ้นมาก
“หลายวันนี้ค่อนข้างมีเวลา จึงถักเสื้อผ้าให้แก่ฮ่องเต้น้อยอยู่หลายชุด กุ้ยเฟยอย่าได้รังเกียจนะเพคะ”
“ข้าจะรังเกียจได้อย่างไร ข้าดีใจแทบไม่ทันเชียวล่ะ”
อินชิงเสวียนรับเสื้อผ้ามา และเห็นรอยบวมแดงที่นิ้วมือของซูฉ่ายเวย
ซูฉ่ายเวยไม่ชำนาญทำงานเย็บปักถักร้อย เพื่อให้ได้เสื้อผ้าตัวเล็กๆ เหล่านี้ นางอดหลับอดนอนมาหลายวันหลายคืน และนิ้วมือก็เต็มไปด้วยรูเข็มจำนวนนับไม่ถ้วน
อินชิงเสวียนใช้ความคิดหยิบแผ่นแปะแผลออกมาจากมิติอยู่หลายชิ้น และแปะลงบนนิ้วมือของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...