สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 6

อวิ๋นฉ่ายหัวร้อนขึ้นมาทันที ลุกขึ้นแล้วพูดว่า "ไป๋เสวี่ย ทำไมเจ้ามาที่นี่อีกแล้ว เจ้าแย่งเนื้อของพระสนมไม่ได้นะ"

เมื่อมองดูไป๋เสวี่ยที่กำลังเคี้ยวเนื้ออย่างเอร็ดอร่อย อินชิงเสวียนรู้สึกไร้คำจะบรรยายเอามากๆ

เจ้าสุนัขตัวนี้จมูกไวเกินไปแล้ว

"มันจะกินก็ให้มันกินเถอะ เรายังมีเนื้ออีกตั้งเยอะ"

อวิ๋นฉ่ายรีบปิดฝาหม้อทันที ป้องกันไป๋เสวี่ยกระโดดขึ้นมาแย่งอีก

กลิ่นเนื้อหอมยั่วยวน ทำให้ไป๋เสวี่ยร้อนใจจนเดินวนเป็นวงกลม มันตัดสินใจนั่งลง แล้วเอามือประกบชิดกันเป็นท่าไหว้อินชิงเสวียน

อินชิงเสวียนคีบเนื้อให้มันอีกชิ้นหนึ่ง หัวเราะพลางดุว่าไปด้วย "เจ้าตัวแสบ เจ้านายของเจ้าขาดเหลือสิ่งใดกัน เจ้าถึงต้องมาแย่งกินกับพวกข้า"

อวิ๋นฉ่ายกินไปด้วย และพูดอ้ำอึ้งไปด้วยว่า "ต้องเป็นเพราะเนื้อที่ฝ่าบาทให้ไม่หอมเท่าของพวเราแน่ๆ เลย พระสนม มันอร่อยมากจริงๆ โรตีก็อร่อยเพคะ"

เมื่อเห็นยัยหนูยิ้มจนตาหยี อินชิงเสวียนก็อารมณ์ดีมาก

"วันหลังพวกเราจะกินของอร่อยทุกวันเลย"

ทั้งสามคนกินด้วยตวามไวปานพายุ พริบตาเดียวเนื้อที่ต้มไว้ในหม้อเหลือเพียงไม่มากแล้ว ไป๋เสวี่ยที่อยู่ข้างๆ ก็พลอยได้ลาภปากไปน้อยเช่นกัน มันดีใจจนส่งเสียงเห่าร้อง

เจ้าสุนัขนั้นน่ารักน่าเอ็นดูมาก เพียงแต่พอคิดถึงเจ้านายใจร้ายของมัน อินชิงเสวียนก็รู้สึกหงุดหงิด

เธอก้มลงไปหยิบไม้ฟืนที่ไฟดับไปแล้วขึ้นมาหนึ่งอัน แล้วจับไป๋เสวี่ยมาวาดคิ้วโค้งๆ เส้นหนาทึบ จมูกโตๆ เหมือนกับตัวตลกและแก้มกลมๆ ดำๆ สองข้างให้มัน

ได้ยินว่าเจ้าคนแซ่เย่รักสุนัขดุจชีวิต ถ้าเห็นว่ามีคนรังแกสุนัขของเขาแบบนี้ จะต้องโมโหแทบบ้าแน่ๆ

หลังจินตนาการท่าทางโมโหสุดขีดของเขา อินชิงเสวียนก็รู้สึกสะใจขึ้นมาทันที

ส่วนไป๋เสวี่ยคิดว่าอินชิงเสวียนกำลังเล่นกับมัน มันกระดิกหางไปมาไม่หยุด ขี้เถ้าตรงเตาก็ถูกหางของมันช่วยปัดจนสะอาด

"กลับไปได้แล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นใหม่"

หลังวาดเสร็จ อินชิงเสวียนก็ใช้มือตบไปที่หัวมันเบาๆ

ไป๋เสวี่ยดีใจและวิ่งมุดออกไปทันที

อวิ๋นฉ่ายหวั่นใจ "พระสนม ฝ่าบาทจะไม่รู้ใช่ไหมว่าพระองค์เป็นคนวาด"

"ไม่หรอก เขาคงจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่ามีข้าอยู่"

เวลาผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ถ้าผู้ชายเฮงซวยคนนั้นยังคิดถึงเจ้าของร่างเดิม ก็คงจะส่งคนมาดูเธอบ้าง ต่อให้ไม่ปล่อยเธอออกไปจากวังเย็น ก็น่าจะถามถึงความเป็นอยู่ของเธอ แต่ตอนนี้แม้แต่อาหารบูดเน่าก็ไม่มีให้ แสดงว่าเขาตัดใจทิ้งเจ้าของร่างเดิมมานานแล้ว

คิดมาถึงตรงนี้ อินชิงเสวียนก็อดรู้สึกแค้นใจไม่ได้

หากเธอออกจากวังได้จริงๆ เธอจะเลี้ยงลูกให้โต แล้วให้ลูกก่อกบฎ ฆ่าฮ่องเต้ชาติชั่ว เพื่อแก้แค้นให้เจ้าของร่างเดิม

ถูกต้อง ต้องทำแบบนี้แหละ!

ว่าแล้วอินชิงเสวียนก็ลุกขึ้นร่ายรำไม้มวยครู่หนึ่ง แล้วเริ่มด้วยการยืนบนเก้าอี้ที่ขาหักไปข้างหนึ่ง

"พระสนม พระองค์ช้าๆ หน่อย ยังอยู่ในเดือนนะเพคะ"

อวิ๋นฉ่ายรีบเข้าไปพยุงเธอไว้

"ไม่เป็นไร"

อินชิงเสวียนรู้สึกว่าตัวเองสบายดี ไม่มีความรู้สึกอ่อนเพลียเหมือนคนที่อยู่ในเดือนเลย

เธอหันไปหาอวิ๋นฉ่าย "ข้างนอกวังเย็นมีทหารเฝ้าอยู่ไหม?"

อวิ๋นฉ่ายพยักหน้า "มีสองคน เป็นพี่น้องกัน ชื่อหวังต้าหวู่กับหวังเอ้อร์หวู่เพคะ"

อินชิงเสวียนถามอีกว่า "พวกเขาเป็นคนยังไง"

อวิ๋นฉ่ายคิดแล้วพูดว่า "น่าจะพอใช้ได้กระมัง บ่าวก็ไม่ได้รู้จักกับพวกเขานัก"

"เช่นนั้นเจ้าไปทำความรู้จักกับพวกเขาอีกหน่อย ข้ามีสิ่งของอยากให้พวกเขาเอาไปขาย ทุกอย่างข้าจะเอาแค่หนึ่งร้อยตำลึง ที่ขายได้มากกว่านั้นก็ให้พวกเขาไป"

อินชิงเสวียนถือชายกระโปรงแล้วเดินเข้าไปในบ้าน

อวิ๋นฉ่ายเดินตามหลังเธอไป ถามด้วยความตะลึง "พระสนม บ่าวไม่ได้ฟังผิดใช่ไหมเพคะ สิ่งใดกันหรือที่สามารถขายได้ตั้งหนึ่งร้อยตำลึง?"

อินชิงเสวียนเปิดม่าน แล้วหยิบกระจกและน้ำหอมออกมา

"ของพวกนี้"

อวิ๋นฉ่ายส่งเสียงด้วยความตื่นเต้นอีกครั้ง

"นี่คืออะไรหรือ กระจกหรือเพคะ ภาพที่สะท้อนชัดมากเลย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์