สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 648

เมื่อเห็นเขายืนอยู่บนแท่นไม้ใหญ่ อินชิงเสวียนก็อดหัวเราะไม่ได้

เย่จิ่งหลานหันหน้าและพูดอย่างไม่พอใจ “เจ้าเข้ามาทำไม”

“ข้านึกว่าเจ้ากำลังปลูกผักมาทำกับข้าว ก็เลยแวะมาดู ต้องการให้ช่วยหรือไม่”

อินชิงเสวียนกลั้นยิ้ม ถึงอย่างไรเขาก็ทำอาหารให้ตัวเองกิน ถ้านางหัวเราะเยาะ คงไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่

“ไม่ต้อง เป็นจานสุดท้ายก็จะเสร็จแล้ว”

ในขณะที่เย่จิ่งหลานกำลังพูด ก็ตักออกใส่จานแล้ว

ที่แท้ก็เป็นปลาตุ๋นน้ำแดง หลังจากราดน้ำปรุงรสแล้ว กลิ่นหอมฉุยก็โชยแตะจมูก สีสันดูสดใสน่ารับประทาน อินชิงเสวียนเห็นแล้วก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้

นางชอบกินปลามาก แต่นางทำอาหารไม่เก่ง ทำทุกครั้งมักจะมีกลิ่นคาว รสชาติเหลือรับประทานจริงๆ วิธีทำอาหารในวังนั้นจืดชืดเกินไป อินชิงเสวียนจึงไม่ได้กินปลามานานแล้ว

เมื่อมองดูจานอาหารที่อยู่ด้านข้าง ก็อดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้

ซี่โครงหมูตุ๋น ไก่ชุบแป้งผัดหมาล่า มะเขือม่วงยัดไส้ หอยเชลล์ย่างกระเทียม กุ้งทอดซอส และผัดผักต่างๆ อกีเยอะแยะ

ต้องบอกว่าเย่จิ่งหลานมีฝีมือทำอาหารมากๆ ทุกจานอร่อยครบรส ทำให้คนน้ำลายสอ

เมื่อเห็นรูม่านตาของอินชิงเสวียนขยายออก เย่จิ่งหลานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย

“ว่าอย่างไร พอจะกูกใจกุ้ยเฟยหรือไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าทำอาหารให้คนอื่นกิน”

พ่อครัวหลายคนต่างพากันพูดคล้อยตาม “ไม่คิดว่าฝีมือของท่านอ๋องจะเก่งกาจขนาดนี้ เปิดหูเปิดตาแล้วจริงๆ”

อินชิงเสวียนก็ยกนิ้วให้เช่นกัน

“เรียกได้ว่าเป็นระดับเชฟเลยทีเดียว สุดยอด”

เย่จิ่งหลานเม้มริมฝีปากด้วยความพึงพอใจ โบกมือแล้วพูดว่า “ยกอาหารพวกนี้มาทั้งหมด”

“เจ้าค่ะ”

เหล่าสาวใช้ต่างทยอยเข้ามายกจานอาหารไปที่ห้องโถง ไม่นานทั้งโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหาร

อินชิงเสวียนรู้ว่าเย่จิ่งหลานมีมิติว่าง ดังนั้นนางจึงไม่แปลกใจมากนักเกี่ยวกับที่มาของอาหารและเครื่องปรุงรส

เพื่อเป็นการตอบแทน นางได้แลกแสงโสมมาเพิ่มอีกขวด

เปิดฝาขวด แล้วเทให้คนละจอก

“ขอบคุณท่านอ๋องที่ต้อนรับขับสู้ เคารพมิสู้ทำตามคำสั่ง”

เย่จิ่งหลานมองดูนางแล้วยิ้ม “แค่เจ้ากินได้เยอะ ก็คุ้มกับความตั้งใจของข้าแล้ว”

“ย่อมเป็นเช่นนั้น รสมือดีๆ แบบนี้ ถ้าไม่กินเยอะๆ จะไม่เปลืองทรัพยากรหรือ”

อินชิงเสวียนยกจอกสุราขึ้น และกระทบจอกกับเย่จิ่งหลาน

ความรู้สึกร้อนแล่นผ่านลำคอและไหลลงสู่ท้อง ราวกับว่ากำลังลุกไหม้ในทันใด ร้อนราวกับไฟ

เย่จิ่งหลานก็จิบ สูดปากแล้วพูดว่า “สุรานี้แรงจริง เจ้ารีบกินกับแกล้มด้วยสิ”

อินชิงเสวียนกัดเนื้อปลา แล้วคีบกุ้งขึ้นมา

“อร่อย”

เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น ดวงตาฉายแววพึงพอใจ

“งั้นก็กินเยอะๆ พอเราออกไปข้างนอกแล้วจะไม่มีเวลาทำอาหาร ในร้านค้าสะสมคะแนนของเจ้ามีอาหารจานด่วนอยู่ใช่ไหม อย่างของจำพวกหม้อร้อนอุ่นเองอะไรพวกนี้?”

อินชิงเสวียนกล่าวขณะรับประทานอาหาร “ยังมีพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวหม้อร้อนอุ่นเอง เมล็ดแตงโม ขนมปัง ไส้กรอก น้ำแร่ เจ้าจะไม่อดตายแน่นอน”

จู่ๆ เย่จิ่งหลานก็หัวเราะออกมา

“ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้ามีศักยภาพที่จะเป็นพนักงานขายอาหารในรถไฟได้”

อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา แล้วก้มหน้าก้มตากินอาหาร

วันนี้นางไม่ได้คิดจะดื่มสุรามากนัก อาหารดีๆ แบบนี้ ถ้าไม่ตั้งใจกินให้ดี ก็คงน่าเสียดายแย่

การเมามายบ้างก็สามารถคลายความกังวลได้นับพัน แต่ถ้าเมาทุกวัน ก็จะกลายเป็นคนขี้เมา อินชิงเสวียนจะไม่ยอมให้ตัวเองจมปลักแบบนั้น

เย่จิ่งหลานจิบอีกครั้ง และพูดอย่างทอดถอนใจ “ใครจะคิดว่าเมื่อเปลี่ยนมาอยู่อีกโลกหนึ่งแล้ว ข้ายังสามารถดื่มแสงโสมได้อีก เหตุต่างๆ ในโลกเปรียบเหมือนกระดานหมากรุก ทุกสิ่งล้วนคาดเดาไม่ได้”

“ใช่ ใครจะคิดว่าเด็กสาวที่ออกมาจากหมู่บ้านบนภูเขา จะสามารถกลายเป็นกุ้ยเฟยของแคว้นหนึ่งได้ สวรรค์ช่างเล่นตลกกับเราจริงๆ”

อินชิงเสวียนก็ทอดถอนใจอย่างปลงๆ เช่นกัน

เย่จิ่งหลานกล่าวอย่างพึงพอใจ “นี่เป็นเรื่องตลกอะไรกันเล่า มีอาหาร มีเครื่องดื่ม และไม่ต้องดิ้นรน ไม่ดีหรือ นี่คือชีวิตที่ข้าใฝ่ฝันมาตลอด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์