หลังจากที่ซูถูจากไป เย่จิ่งอวี้ก็หันหน้ามาพูดว่า “ท่านแม่ ผู้อาวุโสซูคนนี้ไม่ใช่คนดี”
เซี่ยวอิ๋นหวนพยักหน้า
“แม้ว่าคนผู้นี้จะมาจากสำนักใหญ่ที่มีชื่อเสียง แต่นิสัยไม่ค่อยดีนัก เราไม่จำเป็นต้องไปสนใจเขา เจ้าสำนักเซี่ยวจะจัดการเอง”
เย่จิ่งอวี้ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ได้ยินตาเฒ่าซูถูพูดถึงมาตลอดว่าฝ่ามือทลายเสียงเป็นวิชาลับเฉพาะของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ หากเรื่องนี้ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างชัดเจน เกรงว่าเจ้าสำนักเซี่ยวจะหลุดพ้นส่วนเกี่ยวข้องได้ยาก”
เซี่ยวอิ๋นหวนขมวดคิ้ว
การตายของหมอเทวดาหนิง นางก็เคยได้ยินฮวาเชียนพูดถึง และเรื่องนี้ทำให้นางพิศวงงุนงงอยู่ตลอด
“อาจเป็นวิชาฝ่ามือที่คล้ายกัน ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นฝ่ามือทลายเสียงหรือไม่”
อินชิงเสวียนเคยดูซีรีส์เกี่ยวกับวรยุทธ์มาหลายเรื่อง ซึ่งในนั้นมักมีโครงเรื่องเช่นนี้ปรากฏ ก็อดคิดพิสดารไม่ได้
เซี่ยวอิ๋นหวนกล่าวว่า “ฝ่ามือทลายเสียงของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์นั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการลอกเลียนแบบอย่างแน่นอน วิธีการใช้ฝ่ามือนี้พิเศษมาก คือการเปลี่ยนกำลังภายในให้เป็นคลื่นเสียง ทำลายอวัยวะของผู้ตายโดยตรง และทิ้งระลอกคลื่นเหมือนคลื่นมหาสมุทรไว้บนผิวกาย วรยุทธ์นี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่มีในยุทธภพอีกแล้ว เนื่องจากการฝึกพลังนั้นบ้าดีเดือดเกินไป ดังนั้นลูกศิษย์ที่เจ้าสำนักถ่ายทอดวิชาให้ จึงมีเพียงสามคนเท่านั้น”
“เช่นนั้นคงไม่ใช่ว่า...”
อินชิงเสวียนต้องการถามว่าจะใช่หนึ่งในสามคนนี้หรือไม่ แต่รู้สึกว่าการสงสัยสำนักของคนอื่นจะไม่เหมาะสม นางจึงกลืนคำพูดที่เหลือ
เซี่ยวอิ๋นหวนมองดูลูกสะใภ้ด้วยความรักและพูดเบาๆ “เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้แน่นอน ศิษย์พี่คนหนึ่งของแม่เสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ส่วนอีกสองคน กำลังบำเพ็ญตบะอยู่บนเขา และเพราะเหตุนี้ แม่ถึงรู้สึกแปลกใจ”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็น่าแปลกจริงๆ”
เซี่ยวอิ๋นหวนไม่ต้องการให้สองสามีภรรยากังวลเรื่องนี้ จึงพูดอย่างผ่อนคลาย “ไม่จำเป็นต้องคิดฟุ้งซ่าน เจ้าสำนักเป็นผู้มีความรู้กว้างขวาง ถึงอย่างไรก็จะสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างอยู่วันยังค่ำ”
เย่จิ่งอวี้ตอบอืม แล้วพูดว่า “ท่านแม่เพิ่งหายดี เข้าไปคุยกันข้างในกันเถอะ!”
เมื่อได้ยินว่าเข้าข้างใน เสี่ยวหนานเฟิงก็เริ่มไม่มีความสุข พยายามยื่นมือเล็กๆ ชี้ออกไปข้างนอก
“นอก นอก”
เซี่ยวอิ๋นหวนมองดูหลานชายอย่างรักเอ็นดู
“วันนี้อากาศดี ย่าจะพาเจ้าออกไปเที่ยวนะ!”
อินชิงเสวียนค่อนข้างเป็นกังวล ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่เหมาะที่จะออกจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเห็นหวนไท่เฟยกำลังคึกคักอารมณ์ดี ก็ทนไม่ได้ที่จะทำให้นางผิดหวัง
บอกว่า “ให้ข้าจะไปกับท่านแม่นะเจ้าคะ”
เย่จิ่งอวี้ย่อมไม่วางใจเช่นกัน เขายิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราก็ออกไปเดินเล่นด้วยกันเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
ยังอัพไม่จบเลย หลายเรื่องเลย อัพมาครึ่งทางแล้วทำไมหยุดอัพดื้อๆค่ะ...
จะอัพเมื่อไหร่คะ...
มาต่อเร็วๆนะแอด...
หยุดอีกแล้ว...
กระหม่อม หม่อมฉัน สลับมั่วไปหมด...
มาอ่านต่อกันเร็วๆ แอดกลับมาอัพต่อแล้ว ขอบคุณค่ะ...
สนุกมาก น่าติดตามมาก เขียนและแปลได้ดีจริงๆ ดีใจที่กลับมาลงต่อ อัพเดตเรื่อยๆ วันละหลายๆ ตอน นะคะ...
หยุดชะงักลงตรงบทนี้ ต่อหรือพอเพียงแค่นี้😁...
หยุดแค่นี้หรือไปต่อ😁...
อัพต่อรออยู่ค่ะ...