ทั้งสองนั่งศึกษาค้นคว้าอยู่ในห้อง โดยหลักการพื้นฐานได้พอสมควรแล้ว เหลือเพียงการติดตั้ง
ในหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์มีลูกศิษย์ไม่มีขาดแคลน เมื่อเซี่ยวอิ๋นหวนเรียนรู้ว่าพวกเขากำลังจะไปตั้งค่ายกลบนชายหาด เดิมทีก็คิดว่าเป็นค่ายกลสามพรสวรรค์อะไรเทือกนั้น จึงเรียกลูกศิษย์ที่เชื่อถือได้สิบห้าคนทันที
ทุกคนช่วยกันนำอุปกรณ์ติดตั้งมาถึงชายฝั่งทะเลเป่ยไห่ในตอนกลางคืน อินชิงเสวียนหยิบไฟกลางแจ้งออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดตั้งให้เย่จิ่งหลาน
ลูกศิษย์ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ต่างประหลาดใจกับสิ่งที่ส่องแสงสิ่งนี้มาก อินชิงเสวียนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องโกหกตบตาพวกเขาไปก่อน
ซึ่งเย่จิ่งอวี้คุ้นเคยกับสิ่งแปลกประหลาดนี้อยู่แล้ว ทุกคนต่างก็ยุ่งกันจนดึกดื่น แล้วจึงลากแหไฟฟ้าลงทะเลไปหลายร้อยเมตร และติดตั้งกังหันลมกำลังสูงสามตัวข้างๆ
หลังจากต่อไฟฟ้าแล้ว ก็มีเสียงซู่ๆ อยู่ใต้น้ำ โชคดีที่น้ำทะเลมีขนาดใหญ่มาก ไม่นานก็กลบเสียงได้
ลูกศิษย์ของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยเห็นเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นนี้มาก่อน ไม่รู้ว่ามีไว้สำหรับอะไร แต่ถ้าบอกว่าเป็นค่ายกล ก็ดูไม่เหมือนเลย ทั้งหมดไม่กล้าถาม ดังนั้นจึงกลับไปพักผ่อน
สองวันต่อมาสถานการณ์ยังคงสงบ ซูถูและคนอื่นๆ ไม่ได้มาหาเรื่องที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์อีก
ความสงบเช่นนี้ กลับทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
เย่จิ่งหลานกลับรู้สึกเบิกบานเพราะเรื่องนี้
“จะคิดมากไปทำไม ทหารบุกใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน มียอดฝีมือมากมายอยู่ข้างหน้า แม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มทลาย ก็มาไม่ถึงเรา”
อินชิงเสวียนกลอกตามองเขา แล้วพูดว่า “ข้าไม่เหมือนเจ้า กินคนเดียวอิ่มคนเดียว ข้ายังมีครอบครัวให้ต้องดูแลอยู่นะ”
เย่จิ่งหลานพูดอย่างเฉยเมย “เราทั้งคู่ต่างก็มีมิติ อย่ากังวลมากเกินนัก ข้าว่าวันนี้อากาศดี ไม่สู้...ไป จับปูที่ชายหาดมาลองกินกันเถอะ”
“เจ้ารู้จักแต่กิน ไม่เอาไหน”
เย่จิ่งหลานหัวเราะและพูดว่า “ต่างล้วนกินเนื้อ มนุษย์โลกลุกลนวุ่นวาย ก็เพื่อเติมปากเติมท้อง เจ้าอย่ายึดมั่นในคุณธรรมนักเลย”
อินชิงเสวียนโมโหเขาจนหัวเราะออกมา
“ปากแบบเจ้าทำไมไม่ไปเป็นทนายความนะ เสียของแย่ ไปเถอะ”
หลังจากฝึกพิณมาสองวันแล้ว อินชิงเสวียนก็เริ่มรู้สึกเอียนแล้ว นางจึงพาอวิ๋นฉ่ายและจังอวี้จิ่นออกไปด้วย
หวังซุ่นติดตามอยู่ข้างหลังของเย่จิ่งหลาน หลังจากได้รับการอบรมมาหลายวัน แววตาของไอ้สารเลวนี่ก็ไม่หยาบคายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่เมื่อได้ยินเรื่องของกิน กลับกลืนน้ำลายหลายเอื้อก
เป็นคนบ้ากินดีกว่าเป็นคนบ้ากามอีก
อินชิงเสวียนบ่นในใจ และตามไป๋เสวี่ยไปที่ชายหาด
เย่จิ่งอวี้ติดตามเซี่ยวอิ๋นหวนไปเยี่ยมผู้อาวุโสหลายคน ทั้งยังพาเสี่ยวหนานเฟิงไปด้วย เดิมทีเซี่ยวอิ๋นหวนก็อยากให้อินชิงเสวียนไปด้วย แต่อินชิงเสวียนอยากมีส่วนร่วมในเรื่องคบค้าสมาคมดังกล่าว ดังนั้นจึงฝึกพิณอยู่ในหอ
ในช่วงสองวันที่ผ่านมายังได้ค้นพบบางสิ่งบางอย่าง เรื่องดนตรีมีความเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก
ตอนนี้จิตใจของนางสงบ ไม่สามารถบรรเลงเพลงหมื่นกระบี่เศษดาราได้ สิ่งเดียวที่ได้รับคือ นางจำโน้ตเพลงได้แม่นยำแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...
คนที่แสดงตัวเป็นพี่ใหญ่ไม่น่าจะเป็นตัวจริงเพราะมีพฤติกรรมลับลมคมในเรื่องต่างๆและทำให้เรื่องต่างๆแย่ลง เหมือนว่าจะหลงรักน้องสาวตัวเองเลยไม่รู้ว่าเป็นน้องแท้ๆหรือเปล่า...
มีคนเล่นตุกติกกับชุดของเด็กแล้วอยู่ในวังต้องระมัดระวังก็รู้อยู่นะคราวนี้ผ่านมาทางคนที่สนิท...