สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 733

เย่จิ่งอวี้ทำความสะอาดกระบี่ยาวเสร็จแล้ว เก็บเข้าฝัก เงยหน้าขึ้นแล้วถามว่า “เช่นนั้นเสวียนเอ๋อร์คิดว่าควรทำอย่างไร”

อินชิงเสวียนคลี่ยิ้มบางๆ กล่าวว่า “ถ้าต้องการจัดการกับสำนักเซียวเหยา มีหลายวิธีจะตายไป เราสามารถจับจุดสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทิศทางอื่นได้ เช่น...ความผิดฐานสมคบคิดกับศัตรู”

เย่จิ่งอวี้เข้าใจทันที ในฐานะที่เขาเป็นฮ่องเต้ การต่อสู้กันในสถานการณ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาถนัดที่สุดแล้ว

เรียวตาหงส์หรี่แคบลงเล็กน้อย มุมปากบางโค้งเป็นรอยยิ้ม

“เช่นนี้แล้ว สำนักเซียวเหยาจะกลายเป็นศัตรูสาธารณะของทุกสำนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์จะไม่ลงมือ แต่ทุกสำนักก็จะโจมตีร่วมกัน”

อินชิงเสวียนยิ้มเล็กน้อย

“เป็นเช่นนั้น แต่ตอนนี้เกรงว่าจะยังทำไม่ได้ ต้องจับคนตงหลิวตัวจริงให้ได้ก่อน จึงจะสามารถกระทำการใดๆ ได้”

เย่จิ่งอวี้งอนิ้วกลางแนบนิ้วหัวแม่มือ แล้วดีดหน้าผากเกลี้ยงเกลาของอินชิงเสวียนเบาๆ

“ไยต้องยุ่งยากขนาดนั้น คนก็มีพร้อมแล้วไม่ใช่หรือ”

“ฮะ?”

อินชิงเสวียนมองเขาด้วยความสับสน

เย่จิ่งอวี้หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “หวังซุ่นก็ได้ เขาเป็นคนตงหลิวอยู่แล้ว และจิ่งหลานก็มีมิติวิเศษ การจะช่วยเขาไม่ใช่เรื่องยากเลย”

ดวงตาของอินชิงเสวียนสว่างขึ้น นางลืมหวังซุ่นได้อย่างไร ติดตามจากเมืองหลวงมาจนถึงเป่ยไห่ ได้กินได้ดื่มมาระยะหนึ่งแล้ว ถึงเวลาที่ต้องสวมบทบาทบางอย่างแล้ว

“พรุ่งนี้เช้า ข้าจะไปหาเย่จิ่งหลาน”

อินชิงเสวียนต้องการคืนปืนพกให้เขาด้วย นี่เป็นสิ่งที่เขาแลกมาด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง ตัวเองไม่สามารถเก็บไว้กับตัวได้

ไมตรีที่นางติดค้างต่อเย่จิ่งหลาน จนป่านนี้ยังไม่ได้ตอบแทน แล้วจะเอาของจากเขาได้อย่างไร

แม้ว่าจะมีผู้ได้รับบาดเจ็บในเป่ยไห่ แต่ก็เป็นการได้รับบาดเจ็บภายใน ทักษะทางการแพทย์ของเย่จิ่งหลานไม่มีประโยชน์ที่นี่ ไม่สามารถหาคะแนนสะสมได้ สำหรับเขาแล้วปืนพกนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่ายิ่งนัก

ขณะที่กำลังเหม่อลอย ก็ถูกดึงเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่น

เสียงที่ทุ้มลึกและไพเราะของเย่จิ่งอวี้ดังมาจากเหนือศีรษะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์